‘แมงปอ ชลธิชา’ เปิดตัวลูกสาวฝาแฝด เผยนาทีชีวิตหวิดเสียลูก

ลูกทุ่งสาว “แมงปอ ชลธิชา” พาครอบครัว ทั้งคุณสามี “บิ๊ก” ลูกชายคนโต “น้องสปูน” และเปิดตัวลูกสาวฝาแฝด “น้องสปิน-น้องสปัน” ที่แรกในรายการ คุยแซ่บshow  พร้อมเผยนาทีชีวิต กับการตั้งท้องลูกแฝดแท้ ที่ต้องแบกรับความเสี่ยงขั้นสุด เกือบเอาชีวิตไม่รอด

“ปอตั้งใจมีลูกอีกคนเดียว พอมีคนนี้ก็คุยกันว่ามีอีกคนดีมั้ยเป็นผู้หญิง ก็จะปิดอู่แล้ว พอรู้ว่าท้องก็ไปคุยกับรพ.ประจำของเรา เราจะฝากท้องโน่นนี่นั่น พอไปอัลตร้าซาวด์ หมอบอกว่าเห็นหัวใจสองดวงนะแม่ ปอก็ตกใจมาก มองจอแบบใช่หรือเปล่า เราทั้งดีใจและตกใจ  เกิดอะไรขึ้น เพราะเราแพลนกันก่อนหน้าแล้วว่าจะมีอีกคน แต่พอมาแฝด ทุกอย่างต้องเปลี่ยนหมดเลย พอช่วงกำลังซาวด์ หมอบอกว่าขอดูก่อนนะว่ามีเส้นกั้นมั้ย หมอภาวนาขอให้มีนะ เพราะจะเสี่ยงมาก แต่ตอนนั้นเราไม่ทราบหรอกว่าเสี่ยงมากขนาดไหน พอออกจากห้องซาวด์ หมอบอกว่ามันเสี่ยงหลายอย่างมากถ้าอยู่ถุงเดียวกัน เพราะมันสามารถแย่งอาหารกันได้ เลือดก็จะถ่ายเทกันได้ ถ้าคนนึงถ่ายให้อีกคนเยอะเกิน คนนึงก็หัวใจจะโต อีกคนที่ตัวเล็กก็จะเสียชีวิต ของปออยู่ในถุงเดียวกัน แต่มีสายสะดือสองสาย ซึ่งทำให้พันกันง่าย”

 หมอไม่รับฝากครรภ์เหรอ?

“ใช่ค่ะ เพราะมันอันตรายเกินไป ยังไงของแม่ต้องคลอดก่อนกำหนดแน่นอน สายสะดือสองเส้นเขาพันกันเยอะมากๆ จนหมอกลัวว่าเขาจะหายใจไม่ได้ และเสียชีวิตในท้องได้ตลอดเวลา”

 หมอไม่รับฝากครรภ์ คุณพ่อคุณแม่ช็อกขนาดไหน?

“ช็อกค่ะ ออกมานั่งข้างนอกก็ร้องไห้ เราดีใจที่มีลูก แต่มันเสี่ยงขนาดนี้มันจะเป็นยังไง เราก็ร้องไห้ สองคนพูดอะไรไม่ถูก พูดไม่ออกเลย แต่โชคดีรพ.แนะนำว่าให้ไปที่ศิริราชดีกว่า เพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นทีมแฝดโดยเฉพาะ เขาแนะนำโอเค เราก็ตกลงจะไปศิริราช แต่ก่อนไปศิริราชก็นิดนึง ไปบนบานศาลกล่าว (หัวเราะ) ไปวัดพุทไธศวรรค์ อยุธยา เพราะบ้านอยู่อยุธยาอยู่แล้ว ก็ไปบนไว้ให้ลูกแข็งแรงปลอดภัย อีกวันก็ไปที่ศิริราช คุณหมอพูดเหมือนกันเลย ว่าเป็นครรภ์ที่มีความเสี่ยงมากๆ ถ้าเป็นแฝดโดยส่วนใหญ่ เขาจะเป็นไข่คนละฟอง จะมีถุงกั้น ของใครของมัน แต่อันนี้อยู่ด้วยกัน ของปอไม่มีเส้นกั้นเลย ถ้าถามว่าลูกคนไหนดิ้นจะตอบไม่ได้เลย มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะดิ้นให้สายสะดือคลายออก มีแต่จะทำให้แน่นขึ้น"

 หมอศิริราชแนะนำยังไง?

“หมอบอกว่าทำอะไรไม่ได้นะแม่ ที่แม่ทำได้คือดูแลตัวเอง ทานอาหารปกติ แต่อย่าเดินเยอะ คุณหมอปิดท้ายด้วยความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้มากที่สุดคือลูกอาจจะเสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ได้ ถ้าคนหนึ่งเสีย อีกคนก็อาจจะเสียตาม"

 ตอนนั้นรู้สึกยังไง?

“ร้องไห้ทุกครั้งที่ไปหาหมอ ร้องไห้ตลอดเลย ระหว่างทางก็จะเกิดโน่นนี่นั่นตลอด พอเขาเริ่มซาวด์ก็จะเห็นรายละเอียดในตัวมากขึ้น เขาบอกว่าหลอดเลือดคนนึงเบี่ยงไปทางขวานะแม่ ปกติคนส่วนใหญ่จะเบี่ยงมาทางซ้าย เพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกาย แต่คนนี้ไปทางขวา เราก็ต้องไปหาคุณหมอโรคหัวใจเด็กอีก ไปหาตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง

หมอให้ทางเลือกว่าจะเจาะน้ำคล่ำเช็กมั้ย เพราะถ้าเส้นเลือดหัวใจเป็นแบบนี้ อาจเกี่ยวกับโครโมโซมด้วยหรือเปล่า แต่เราไม่ได้เจาะ เพราะมันก็เสี่ยง คุณหมอถามว่าถ้าเจาะแล้วกลับบ้านไปร้ายแรงที่สุดคือลูกเสียชีวิตอีก คุณแม่จะรับได้มั้ย เราก็พยายามหาดูหนัง แต่ใจเราก็คิดแต่เรื่องลูก หนังเปิดไปก็ไม่ได้ดู มีหลายสิ่งหลายอย่าง คุณหมอบอกว่าคลอดก่อนกำหนดแน่ แต่พอ 27 วีค หมอขอให้มาแอดมิทที่รพ. เพื่อฟังเสียงหัวใจลูก เขาซาวด์เห็นแล้วสายสะดือพันกันแล้ว"

 พอใกล้ๆ วันคลอด หมอศิริราชแนะนำว่าให้สวดมนต์เยอะๆ?

“หมอบอกว่าหมอเต็มที่แล้ว แต่เนื่องจากสายสะดือเขาพันกันเยอะมาก มาติดเครื่องฟังทุกวันก็จริง แต่เป็นไปได้พอกลับบ้านไปเขาหยุดหายใจขึ้นมา หมอก็แนะนำให้เราสวดมนต์ พอถึงวีคที่ 30 ตื่นมาแล้วมีน้ำไหลออกมา มีอาการท้องปั้นแข็ง ไปศิริราชแอดมิทเลย ต้องนอนรพ. นอนอยู่ในห้องรอคลอด สถานการณ์ตึงเครียดมาก มี 20 เตียง ทุกเตียงเต็มหมดเลย คนนึงน้ำไหล คนนึตกเลือด คนนึงเบ่งคลอด เราจะได้ยินตลอด เครียดมากค่ะ แอดมิทอยู่ประมาณ 10 วัน ลงจากเตียงไม่ได้ ต้องอยู่บนเตียงตลอดเวลา ฉี่ ถ่าย บนเตียง คุณพ่อเข้าไปไม่ได้ เราก็ร้องทุกวัน”

หมอฉีดยาระงับคลอดด้วย ไม่อยากให้คลอดก่อน?

“หมอเขาดูแล้ว เดี๋ยวฉีดกระตุ้นปอดน้องครบ 4 เข็มก็คลอดเลย ประมาณ 25 ธ.ค. เราอยากคลอดวันที่ 27 เราไปดูฤกษ์แล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่พอถึงวันที่ 25 หมอเดินมาจับมือที่เตียง ว่าจริงๆ แม่ต้องคลอดวันนี้นะ แต่บังเอิญว่าเตียงไอซียูเด็กมันเต็ม ลูกออกมายังไงก็ต้องเข้าไอซียูก่อน มีเคสที่ฉุกเฉินกว่าของเรา เราก็โอเค งั้นเสียสละให้เด็กๆ ที่เขาต้องการห้องก่อน แต่เราก็ทรมานมากๆ โดนยาเข้าไป พอยาเดินเข้าไปมันร้อนวูบทั้งตัว ขนลุก ตัวร้อน หนักที่สุดคือเห็นภาพซ้อน เป็นยาระงับคลอด ทำให้ท้องคลายความแข็ง ทรมานมาก 25 ไม่ได้คลอด 26 ก็ไม่ได้คลอด พอวันที่ 27 ก็บอกว่าลูกหม่าม๊าไม่ไหวแล้ว หม่าม๊าทรมาน เราคลอดวันนี้นะ แล้วฤกษ์ที่ไปดูคือวันที่ 27 หนูออกวันนี้ได้มั้ย พอเช้ามืด ได้ยินเสียงแว่วๆ พยาบาลคุยกันว่ามีเตียงไอซียูว่างสองเตียง ปอคิดว่ามันจะใช่ของชั้นมั้ย เพราะเตียงข้างๆ ก็แฝดเหมือนกัน รอคลอดเหมือนกัน ก็ภาวนาว่าหนูต้องแสดงอภินิหารนะลูก ต้องเป็นเตียงเราเท่านั้นที่จะคลอดวันนี้ มันก็มีอาการท้องปั้นแข็งทุก 10 นาที ก็ลดลงมาเรื่อยๆ จนถึง 3 นาที ไม่ไหวแล้วต้องคลอดแล้ว”