เอ็มมี่ แม็กซิม ถึงกับร่ำไห้ หลังลูกโดนเพื่อนล้อ แม่นมใหญ่เท่าหัวเด็ก เลยตัดสินใจขอปิดตำนาน 700CC พร้อมเผยสามีเตรียมบวชแก้บนให้ หลังจบคดีฉ้อโกงเเชร์
อัปเดตชีวิตหลังศาลฎีกาสั่งกักขัง นางแบบสาว ‘เอ็มมี่’ อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ ‘เอ็มมี่ แม็กซิม ’ เป็นเวลา 2 เดือนคดีฉ้อโกงเเชร์ – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งตอนนี้เธอได้กลับออกมาใช้ชีวิตอิสระแล้ว เผยเตรียมขึ้นเขียงผ่านม หลังลูกโดนเพื่อนล้อ แม่นมใหญ่เท่าหัวเด็ก
โดย ‘เอ็มมี่’ เปิดใจถึงสาเหตุของการจะเปลี่ยนไซส์นมในครั้งนี้ว่า
วันนี้จะเปลี่ยนไซส์นม? “เอ็มมี่ทำ 700 cc บอกตรงๆ ก็ใจหาย ทำมา 10 กว่าปีแล้ว แล้ว 700 cc ทำให้คนได้รู้จักเอ็มมี่แม็กซิม หนึ่ง มีชื่อ เอ็มมี่ แม็กซิม สอง เขาช่วยเราทำมาหากิน เพราะเมื่อก่อนเราเป็นสายเซ็กซี่ เราต้องใช้เรือนร่างทำมาหากิน แล้วเรายังเด็กแค่ 24-25 ปี ก็ไม่ได้คิดอะไร มั่นใจในตัวเองว่ากูต้องนมใหญ่ไว้ก่อน
ประโยชน์ของมันคือช่วยทำมาหากิน ทำงาน ทำเงินได้เยอะมากในช่วงนั้น เอาตรงๆ ก็เลี้ยงครอบครัวได้ เลี้ยงตัวเองได้ มันเลยทำให้รู้สึกใจหายแหละที่จะไม่มี 700 cc แล้ว”
ปัญหาเกิดเมื่อไหร่ ที่เราตัดสินใจว่าไม่อยากมีแล้ว? “ปวดหลังค่ะ ปัญหาคือเริ่มรู้สึกปวดหลังมากขึ้น พอปวดมากๆ ก็ปวดมาที้ต้นคอ ที่หัว เลยไปปรึกษา แล้วหลายคนก็บอกว่าแฟนเขาเป็นเหมือนกัน ด้วยความที่ตัวเล็กแล้วทำหน้าอกใหญ่ มันปวดจนรู้สึกทรมาน ทรมานกับอาชีพใหม่ของเราด้วย
เพราะตอนนี้เราหันมาทำธุรกิจเต็มตัว ดังนั้นเลยรู้สึกว่าในเมื่อเลือกที่จะไม่ใช้เรือนร่างแล้ว เราใช้สมองในการทำงานแล้ว ทำไมเรายังต้องมีเขาอยู่ เลยตัดสินใจเอาออกดีกว่า”
ความคิดที่อยากเอาออกเกิดขึ้นเมื่อไหร่? “ความคิดที่จะเอาหน้าอกออก มันมีมา 2-3 ปีแล้ว ตั้งแต่ลูกเริ่มโต ตอนน้องอิจิ อายุ 15 ปี เขาโดนเพื่อนล้อด้วยว่าแม่มึงนมใหญ่ แล้วความที่ลูกรักเรา เขาก็มีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นตลอด ก็สงสารลูก เลยตัดปัญหาตรงนี้
แล้วพอมาเรื่องสุขภาพของเรา ก็เลยโอเค ทั้งสุขภาพด้วย ทั้งเรื่องลูกด้วย แล้วเราก็มีวุฒิภาวะ ความคิดเราก็เปลี่ยนแปลงไป ก็เลยเอาออกเลยก็ได้ เพื่อลูก เพื่อครอบครัว เราคิดแบบนี้”
เราอธิบายให้ลูกฟังไหม ทำไมแม่ต้องทำ 700 cc? “ลูกรู้ค่ะ อธิบายให้ลูกฟังหมดแล้ว เราจะไม่เล่าเรื่องนี้ เพราะมันจะร้องไห้นะ (เสียงสั่น)”
ลูกนอยด์ไหมเวลาเพื่อนล้อ ว่าแม่นมใหญ่กว่าหัวเด็ก? “อิจิเขาเป็นเด็กที่มีความอดทนสูงมากนะ สมมติมีคนมาล้อ 10 คน ว่าแม่มึงนมใหญ่ แม่มึงถ่ายโป๊ ก็จะมีเรื่องชกต่อยกันสัก 5-6 คนค่ะ เราเลยรู้สึกสงสารลูก เอาออกก็ได้วะ”
แล้วเราบอกลูกยังไง? “จริงๆ น้องอิจิเขาเข้าใจ แต่ความที่เขารักแม่ และเห็นว่าทำไมต้องมาล้อแม่เขา นั่นแหละมันคือสิ่งที่ลูกเขาทนไม่ได้ ถ้าพูดถึงในหน้าที่การงาน เขาเข้าใจทุกอย่าง ว่าหม่ามี้ต้องทำงานหนัก ต้องทุ่มเท ไม่ว่าจะใช้เรือนร่างในการทำมาหากิน เขาเข้าใจ
แต่สิ่งที่น้องทนไม่ได้ คือทำไมต้องมาล้อบ่อยๆ (เสียงสั่น) ทำไมต้องเอาปมด้อยมาล้อเขา แล้วเราก็รู้สึกว่าเออสงสารลูก (ร้องไห้) ไม่อยากให้ลูกมีเรื่อง ไม่อยากให้คนอื่นมาล้อลูกเราค่ะ เราก็บอกเขาว่าลูกอดทนนะ หม่ามี้ไม่แคร์ ใครจะว่ายังไงหม่ามี๊ไม่สนใจ มีแค่ความรู้สึกลูกมากกว่า
วันนี้เขารู้ว่าเอ็มมี่ต้องผ่าตัด เขาก็บอกว่าปลอดภัยนะมี้ จริงๆ มี้ไม่ต้องทำเพื่อหนูก็ได้ แต่เราก็บอกว่ามันคงหมดเวลาของมี้แล้วด้วย มี้แก่แล้ว จะ 40 แล้ว คงต้องใช้สมองในการทำมาหากิน
เอาจริงๆ ก็คือสงสารลูก สงสารสุขภาพตัวเอง และแฟนก็ค่อนข้างขี้หึงด้วย หวงด้วย ก็ทำให้เขาสบายใจ ยิ่งเขาจะบวชให้เราด้วย อะไรก็แล้วแต่ที่มันทำให้ลูกให้คนที่รักเราสบายใจ เอ็มมี่ก็ทำ”
ถ้าทำใหม่อยากได้ประมาณไหน? “จริงๆ สัก 600 cc ก็ได้ (หัวเราะ) 500-600 cc ประมาณนี้ คือเราเป็นคนชอบผู้หญิงนมใหญ่อยู่แล้ว ถ้าหมอบอกว่าโอเคก็เอาตามนั้นเลย”
สามีจะคุ้นกับสิ่งที่ต้องเปลี่ยนไปไหม? “ก็ต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้ คือเต๋าเขาเป็นคนขี้หวง ถ้าวันนี้เราเป็นผู้หญิงนมเล็กๆ ธรรมดาทั่วไป ก็อาจจะทำให้เขาใช้ชีวิตง่ายขึ้นก็ได้ ถ้าเขาชอบใหญ่ๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวซื้อของปลอมให้
แต่เราก็มีปรึกษาเขา เขาก็บอกแม่ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้นะ แต่บางทีก็คิดว่านมใหญ่ไปทำให้แม่ปวดหัว คือเขาก็เป็นห่วงสุขภาพเรา ใจก็ไม่อยากให้เมียเปลี่ยนหรอก อยากได้แบบนี้แหละ แต่ก็เรื่องสุขภาพ สุดท้ายก็ต้องเอาชีวิตไว้ก่อน”
ชีวิตคู่มันจะเปลี่ยนไหม? “สำหรับตัวเราคิดว่าไม่น่าเปลี่ยนนะ เราก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิม แค่อาจจะดูหน้าอกเล็กลงต้องถามว่าเต๋าเขาโอเคหรือเปล่า หนูอะโอเค เอาตัวเองเป็นหลัก
ถ้าสุขภาพไม่ดี ที่บ้านก็แย่นะ 700 cc กับลูกไม่โดนล้อ ก็เลือกลูกไม่โดนล้อ (ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ไหม?) ไม่จำเป็นเพราะเสื้อผ้าตัวเล็กอยู่แล้วค่ะ เป็นคนผอม”
คุณหมอแนะนำยังไงบ้าง? “เริ่มต้นเลยต้องเปลี่ยนจากบนผิวหนัง มาเป็นใต้กล้ามเนื้อ ส่วนเรื่องไซส์เรามาดูกันอีกทีว่าไซส์ไหนเหมาะกับเรามากที่สุด แต่เขาเลือกเป็นซิลิโคนไข่มุกให้ จับแล้วเป็นธรรมชาติ เลยรู้สึกว่าน่าสนใจ”
สมัยนี้ขนาดหน้าอก มีผลกับการใช้ชีวิตไหม? “เอาตรงๆ ไหม บางทีเราซื้อเสื้อผ้ามา เพราะเห็นผู้หญิงคนนี้ใส่ แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่มีนม ใส่แล้วสวยมาก พอเอ็มมี่มีนมใส่แล้วมันไม่สวยเหมือนเขา
ถึงเราจะชอบนมใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องไปโฟกัสอะไรขนาดนั้น ว่าต้องนมใหญ่แบบนี้ไปตลอดชีวิต เอาตรงๆ คือทำใจมาแล้ว เราชอบจริง แต่ดูความเหมาะสม ดูอายุ เอ็มมี่เลือกความเหมาะสมมากกว่าค่ะ”
คิดว่าอันใหม่จะเปลี่ยนชีวิตเราแค่ไหน? “ก็มีการดูดวงมาก่อน เขาบอกว่าเปลี่ยนเลยลูก ครั้งนี้ก็ปังแน่นอน เพราะการจ้างงาน บางทีเขาก็ไม่ได้จ้างที่หน้าอกอย่างเดียว คนไม่มีหน้าอกงานล้นก็มี ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตตอนนี้เอ็มมี่ก็ยอมรับในสิ่งมันจะเกิดขึ้นค่ะ”
รู้สึกยังไง กับคำที่ติดตัวเรามาว่า นมใหญ่แต่ไร้สมอง? “มันมีอยู่ช่วงหนึ่งนะที่เอ็มมี่โดนว่านมใหญ่แต่ไร้สมอง มันเป็นช่วงวัยรุ่นที่ทำอะไรก็ไม่คิด เอาแต่ใจตัวเอง เนี่ยแต่พอเราเริ่มจะลดไซส์ พอเราจะลดไซส์เราก็มีสมองแล้ว
แล้วเอ็มมี่ก็รู้สึกภูมิใจที่มันจะเกิดเกิดขึ้นในตอนนี้ เอ็มมี่มาดูๆ แล้วอ่ะ เคยเหมือนกันนะ คนติดต่องานกับผู้จัดการ คือบางทีเขาอยากจะได้นักแสดงรูปร่างหน้าตา แต่นมเราใหญ่เกินไป
มันก็มีนะคะมันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยพูด บางคนเขาก็มองว่าน้องเอ็มมี่ดูล้นเกินไป หมายถึงหน้าอกเรามันล้น ก็มีชวดงานไปเหมือนกัน คือจะบอกว่าบางทีชีวิตใหม่ที่มันเกิดขึ้นกับเอมมี่ นมเล็กอาจจะทำให้เอ็มมี่หาเงินได้ด้วย”
เสียใจไหมที่วันนั้นสูญเสียโอกาสเพราะนมใหญ่เกินไป? “ถามว่าเสียใจ ก็เฟลแป๊บเดียว เพราะว่ามันก็มีงานอื่นเข้ามามันก็จะเป็นสายเซ็กซี่ตลอด อย่างเช่นล้างรถ แต่ว่าบางทีเราอยากอยู่จอแก้ว
หนูอยากเล่นละคร หนูอยากกลับมาอยู่ในพื้นที่ที่หนูเคยอยู่เคยมา หนูอยากมาตรงนั้นมากกว่า แต่ผู้ใหญ่หลายคนก็บอกให้ว่า ถ้านมเล็กกว่านี้เจ๋งเลย ก็ลองดูค่ะ ชีวิตมันอาจจะดีขึ้นก็ได้”
แฟนคลับของวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง เขาถามว่าหลังจากที่เราไปเล่นเอ็มวีให้ แล้วเราก็หายไปไหนสองเดือน? “คือแฟนคลับสาวน้อยเพชรบ้านแพงรู้หมดทุกคน ว่าเอ็มมี่หายไปไหนเอ็มมี่จะไม่พูดพูดซ้ำ ตอนนี้คือเอ็มมี่ดีขึ้น สองเดือนที่เอ็มมี่หายไปก็กลับมาได้รับการต้อนรับจากผู้ใหญ่เป็นอย่างดี
คือหลังจากที่เอ็มมี่ออกมา เอ็มมี่ก็โทรหาผู้ใหญ่ และสิ่งหนึ่งที่เขาพูด ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะลูก แค่คนนี้คนเดียว เอ็มมี่ไม่ต้องการอะไรอีกเลยแล้ว ก็ขอฝากเอ็มมี่ในรายการก่อนบ่ายคลายเครียดด้วยนะคะ
ตอนนี้ชีวิตเอ็มมี่ ถ้าให้พูดก็คือ เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีมาก เอ็มมี่จะไม่กลับไปพูดถึงอดีตแล้ว และจะไม่ย้อนกลับไปพูดถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เอ็มมี่ขอเดินหน้าต่อไป
เอ็มมี่ทำอยู่มองว่ามันถูกต้องคือถูกต้อง เราเลือกเดินเส้นทางใหม่ เอ็มมี่โตขึ้นความคิดความอ่านเอ็มมี่ก็เปลี่ยนไป ไม่ได้จะมาต้องการ ฉันชนะ ฉันต้องเป็นอย่างนี้
ผู้ใหญ่แพลนให้เอ็มมี่แบบไหน เอ็มมี่ก็จะไม่ดื้อ ชีวิตใหม่ของเอ็มมี่ดีและธุรกิจเอ็มมี่ก็ไปได้ดีด้วย เมื่อก่อนเอ็มมี่ไปมองคนอื่นมาก จนลืมไปว่ากำพืดของตัวเราเองมันเป็นยังไง ฉันขออยู่ตรงนี้และพัฒนาฉันให้มันดีกว่าที่ฉันเคยเป็น
เอ็มมี่จะไม่มองกลับไปแล้ว เพราะว่ารู้สึกพลังบวกที่มันอยู่รอบตัวเอ็มมี่ มันแทบจะไม่มีเอ็มมี่แล้ว ใครไม่ดีกับเอ็มมี่ เอ็มมี่ตัดเลยค่ะ”
“คือตอนนี้ชีวิตเอ็มมี่ก็คือเหมือนใช้ชีวิตอยู่กับเรือนจำ ทำทุกอย่างอะไรที่เป็นประโยชน์กับเรือนจำ เป็นจิตอาสาและไม่ใช่แค่ในเรือนจำนะคะ อะไรที่เป็นจิตอาสาทำหมดค่ะได้เงินก็ทำ ไม่ได้เงินก็ทำ นี่คือหนู แล้วจริงๆ อ่ะหนูเป็นแบบนี้มานานแล้วนะคะ เพียงแค่ไม่มีใครนำเสนอด้านนี้”
รู้สึกยังไงที่สามีบวชให้? “ตรงนี้มันเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดในชีวิต คนคิดว่าเราโอ้โหจะเป็นไปได้เหรอที่ผู้ชายคนนึงจะบวชให้เรา มีค่ะพี่เต๋านี่แหละค่ะ คือโอเคเอ็มมี่พูดก็ได้ คือเขาบนให้เอ็มมี่ในเรื่องคดี วันนี้คดีสิ้นสุดไปแล้ว
จากที่ทุกคนเคยทราบว่าเอ็มมี่จะต้องติดกี่ปี แต่เอ็มมี่หายไปสองเดือน โอเคเอ็มมี่ยอมรับ ก็ไม่ได้ปิดอะไร แต่ไม่ได้อยากจะไปพูดถึงในเรื่องนี้อีก(ร้องไห้) ให้มันรู้สึกแย่ และมาทำให้เราต้องยืนร้องไห้แบบนี้
อย่างที่เอ็มมี่บอก มีผู้ชายหลายคนขอเอ็มมี่แต่งงานหลายคน แต่เอ็มมี่ไม่เคยแต่ง มาแต่งงานกับเต๋เพราะว่าเต๋าเอาตัวมารับลูกปืนแทน และในวันที่เอ็มมี่แย่ที่สุด เขาอยู่กับเอ็มมี่ ไม่เคยซ้ำเติม
วันที่ลูกไม่มีเงินไปโรงเรียน เขาเป็นคนที่หาเงินให้ลูกไปโรงเรียน และวันนี้ที่ทุกอย่างสิ้นสุด เต๋าก็บวชให้กับเอ็มมี่ มันไม่มีแล้วค่ะผู้ชายที่จะทำให้ขนาดนี้ เพื่อนถามว่า มึงไม่อิจฉาคนอื่นเหรอที่ปีใหม่เขาได้บ้านได้รถได้ที่ดิน ไม่อิจฉานะแต่ผัวบวชให้เรา คือหายาก คือภูมิใจ”
แล้วคิดไหมสองเดือนที่เราหายไปเขาจะเปลี่ยนใจ? “ไม่คิดเลยค่ะ เพราะว่าเขาไปหาเอ็มมี่ตลอด ยกเว้นยกเว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถ้าเมื่อไหร่เราคิดว่าเขาอยู่กับเรา เขาก็ต้องอยู่กับเรา แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราคิดว่า เขาหักหลังเรามันก็จะมีสักวันที่เขาหักหลังเราค่ะ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง