บันเทิง

นาทีชีวิต 'ชลิต เฟื่องอารมย์' ติดเชื้อในกระแสเลือด ขยับตัวไม่ได้ 6 ชั่วโมง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ชลิต เฟื่องอารมย์" เผยวินาทีชีวิต ติดเชื้อในกระแสเลือด วูบ ขยับตัวไม่ได้นานกว่า 6 ชั่วโมง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าพ่อป่วย?
อาตุ่ม : มันพูดไม่ถูกมันเป็นอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร อยู่ดีๆ มันก็วูบหายไปเลย มีแต่ความรู้สึก แต่ทำอะไรไม่ได้เลย มันชา แม้กระทั่งจะเอื้อมมือยังไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มีอะไรเลย ตื่นเช้ามาทำทุกอย่างปกติ เดินลงมาจากห้องนอนลงมาข้างล่างจะมาเปิดประตูบ้าน พอมาถึงหมดสติล้มพับลงไป

พ่อเป็นคนที่ดูแลตัวเองอยู่แล้ว?
อาตุ่ม : ใช่ ออกกำลังกาย รดน้ำต้นไม้
น็อต : คือทำกิจกรรมทั้งวัน

 

แล้วอาหารการกินละ?
น็อต : กินวันละมื้อเหมือนพระ
อาตุ่ม : 2 มื้อๆ
น็อต : แกงถุงนึงกินทั้งวัน
อาตุ่ม : วันนึงเสียค่ากับข้าว 50 บาท กับข้าวอย่างเดียว

นาทีชีวิต 'ชลิต เฟื่องอารมย์' ติดเชื้อในกระแสเลือด ขยับตัวไม่ได้ 6 ชั่วโมง

หรือกินน้อยไป?
อาตุ่ม : น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ดื่มนมทุกเช้า 1 กล่อง

 

ตอนที่คุณอาล้มลงมีสติ แต่ขยับตัวไม่ได้เลย?
อาตุ่ม : ไม่ได้เลย ตอนนั้นฉันจะโทรศัพท์เรียกใคร เรียกคนงานให้มาช่วยเปิดประตูให้หน่อย มาดูเราสิว่าเราเป็นอะไร แต่มันคลานไม่ได้ ต้องค่อยๆ นอนราบไปกับพื้น หยิบโทรศัพท์ไม่ได้ บังคับตัวเองไม่ได้

 

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน?
อาตุ่ม : ที่สวน จันทบุรี อยู่คนเดียว

 

แล้วรอกี่ชั่วโมงกว่าจะมีคนมาเจอ?
อาตุ่ม : ไม่รู้ มันเหมือนกับฝัน เหมือนตัวเองไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งสิ้น เขามาเปิดประตูได้ยังไงก็ไม่รู้ เอาเราไปโรงพยาบาลได้ยังไงก็ไม่รู้ เพียงแต่ว่าเราทำตามที่เขาสั่งไปอาบน้ำก่อนไปโรงพยาบาล เพราะมันเหมือนกับฉี่ราด
น็อต : คือบังคับตัวเองไม่ได้แล้ว

นาทีชีวิต 'ชลิต เฟื่องอารมย์' ติดเชื้อในกระแสเลือด ขยับตัวไม่ได้ 6 ชั่วโมง

ตอนนั้นความรู้สึกเรากลัวตายไหม?
อาตุ่ม : ไม่มีความรู้สึกตรงนั้นเลย รู้อย่างเดียวฉันต้องไปโรงพยาบาล

 

ตอนนั้นเสียงสามารถพูดได้ไหม?
อาตุ่ม : ไม่ได้พูด เพราะไม่รู้จะพูดกับใคร จิตสั่งทางจิต ไม่รู้จะพูดกับใคร คนงานก็อยู่ไกล ตะโกนก็ไม่ได้ ต้องใช้โทรศัพท์อย่างเดียว

 

แล้วใครเป็นคนไปเจอ?
อาตุ่ม : คนข้างนอกอยู่สวนไหนก็ไม่รู้ เขาต้องมาเข้าสวนมาหาเราทุกเช้า เขาเข้ามาร่วมเที่ยงแล้วมั้งแล้วพาเราส่งโรงพยาบาล

 

พี่น็อตรู้ตอนไหน?
น็อต : รู้ตอนถึงโรงพยาบาลแล้ว ลูกน้องพ่อโทรมา แต่ก็พูดไม่รู้เรื่อง ก็คุยกับหมอ ซึ่งลักษณะหมอชอบพูดให้เรากังวล พ่อเป็นอย่างนู้น อย่างนี้ เอาไงดี สรุปเป็นอะไรกันแน่ มีทางรักษาไหม ตอนนี้พ่อมีสติอยู่หรือเปล่า เขาบอกว่ารู้ตัวแล้ว ขยับตัวได้ แต่ไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร แล้วขั้นตอนการรักษาของหมอเป็นอะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง เขาก็เล่าๆ เราก็มาเล่าให้ที่บ้านฟัง ใครจะเป็นหน้าที่ไปดูแลพ่อยังไง แบ่งหน้าที่กัน ตอนนี้ไม่ว่างนะ แม่เลยเป็นคนที่ไปดูแลพ่อ ไปอยู่กับพ่อที่โรงพยาลาลกับพี่แนน

 

ใจตอนนั้นกังวลแค่ไหน?
น็อต : ตอนที่รู้ข่าวเขาพูดไม่รู้เรื่อง เราก็กังวลนะว่าพ่อเราเป็นอะไรหนักหรือเปล่า แต่พอเราตั้งสติแล้วฟังคุณหมอเล่าเหตุการณ์ต่างๆ เราก็รู้แล้วว่าตอนนี้พ่อปลอดภัยแล้ว แต่ว่าอยู่ในช่วงการดูแลรักษาของคุณหมอว่าจะต้องดูให้ละเอียดรอบคอบมากกว่านี้ว่าสาเหตุที่พ่อเป็นเกิดจากอะไร ก็เลยเบาใจลงค่อยๆ วางแผนต่างๆ 

นาทีชีวิต 'ชลิต เฟื่องอารมย์' ติดเชื้อในกระแสเลือด ขยับตัวไม่ได้ 6 ชั่วโมง

แล้วพี่น็อตคุยกับพี่แนนไหม?
น็อต : คุยกันตลอด เธอไปดูแลกับแม่ก่อนนะ แล้วคอยรายงานตลอด เพราะบางทีคุณหมอพูด เขาชอบพูดให้เราตกใจ เขาไม่ให้ความหวังเรา เขาต้องเผื่แไว้อีกทาง

 

พี่ใช้คำพูดว่าคุณหมอพูดไม่ให้ความหวัง แปลว่าอาการที่วันนั้นฟังคือวันนั้นพ่ออาจจะเสียชีวิต?
น็อต : ถามว่าถึงขั้นเสียชีวิตหรือเปล่า คงไม่เสียชีวิต ณ ตอนนั้น แต่มันมีโอกาสให้คุณพ่อเสียชีวิตได้ ถ้าไม่รักษาให้ทัน  แต่มันเป็นธรรมชาติของคุณหมอไง คุณหมอจะไม่พูดในแง่บวก เพื่อไม่ให้ความหวังเรา ให้เราเตรียมใจๆไว้ เพื่อระมัดระวังมากขึ้น อันนี้เราเข้าใจ

 

วันนั้นคุณหมอวิเคราะห์ว่าอาการเป็นอะไร?
น็อต : หมอบอกไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร คาดว่าน่าจะติดเชื้อในกระแสเลือดนะครับ แล้วติดเชื้อในกระแสเลือดจากสาเหตุอะไร คุณหมอก็ยังหาสาเหตุไม่เจอว่าเกิดจากอะไร แต่คิดว่าน่าจะเป็นแผลเล็กๆ ที่ขาแล้วมีอะไรแปลกปลอมเข้าไปแล้วไปติดเชื้อ คือไม่รู้สาเหตุ

 

รู้สึกขัดแย้งไหมกับสิ่งที่คุณหมออธิบายมา?
น็อต : ตัวเราก็ไม่มีความรู้หรอก แต่เรารู้ว่าอาการของพ่อวันนั้นที่เข้าโรงพยาบาลคือขาบวมมาก
อาตุ่ม : แต่เราไม่รู้นะว่าขาบวม
น็อต : ขาบวมแล้วมีแผล คาดว่าพวกเชื้อโรคต่างๆ จะเข้าไปทางแผล ทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด นั่นคือความคาดเดาของคุณหมอนะว่าวินิจฉัยว่าเป็นอย่างนั้นแล้วคำว่าติดเชื้อในกระแสเลือดในความรู้สึกเรา มันคือรุนแรง มันคือเรื่องใหญ่ แต่ถ้าอยู่ในโรงพยาบาลแล้วใกล้มือหมอ โอกาสรอดมันสูงอยู่แล้ว

 

ใช่แผลที่ขา ที่พ่อทายาอยู่ทุกวันนี้ไหม?
อาตุ่ม : ใช่ๆ 
น็อต : ทุกวันนี้ยังไม่หายเลยนะ แต่อันนี้ดีขึ้นมากเลย
อาตุ่ม : ทายาสมุนไพร เพราะโรงพยาบาลรักษาไม่หาย

 

ทุกวันนี้พ่อดีขึ้น กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ แต่ยังไม่รู้ว่าสาเหตุของโรคคืออะไร? 
อาตุ่ม : ใช่ ไม่รู้ แต่เราก็ถือโอกาสทำบอลลูนไปเลย รอให้การติดเชื้อในกระแสเลือดหายเรียบร้อย แล้วเราก็ทำบอลลูนอีกเส้นนึง

 

เขาเรียกว่าไฟลามทุ่งใช่ไหม?
อาตุ่ม : เขาเรียกว่าไฟลามทุ่ง ที่มันเหมือนสะเก็ดเงินแต่ไม่ใช่ เหมือนแผ่นเนื้อมันไหม้แล้วมีการพอง ตอนอยู่โรงพยาบาลเขาก็เอาเข็มมาจิ้มให้น้ำเหลือง น้ำหนอง น้ำใสๆ ออกมา นี่ 6 เดือนแล้วยังไม่หายเลย

 

ความทรมานตอนที่เรามีสติ เรารู้สึกตัว?
อาตุ่ม : ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่คัน มันมีแต่แผลขึ้นมา

 

สาเหตุของการเกิดโรคทุกวันนี้ก็ยังวินิจฉัยไม่ได้?
อาตุ่ม : ไม่ได้ไปหาหมอหมดไปเยอะแล้ว ตรงไหนๆ ไปหมด มีหมอเป่าน้ำมนต์เราก็ไป เป่าเหล้าเราก็ไปทำทุกอย่าง ไม่หาย

 

พ่อเป็นคนดูแลตัวเอง เป็นคนเนี๊ยบคนนึง พอมาเป็นแบบนี้ รู้สึกกังวลใจอะไรไหม?
อาตุ่ม : เฉยๆ ปลงแล้ว อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด อะไรมันจะหาย มันก็หายไปเอง มันเกิดได้ มันก็หายได้ 

นาทีชีวิต 'ชลิต เฟื่องอารมย์' ติดเชื้อในกระแสเลือด ขยับตัวไม่ได้ 6 ชั่วโมง

พ่ออยู่โรงพยาบาบาลเป็นเดือนเลย?
อาตุ่ม : ครึ่งเดือน เพราะติดเชื้อในกระแสเลือด เขาต้องรักษา เราก็เบลอไม่รู้เรื่อง แล้วเราเป็นคนติดบุหรี่ อาละวาดทั้งโรงพยาบาล เราไม่รู้ตัวว่าอาละวาด ในความคิดของเราฉันต้องสูบบุหรี่ให้ได้ ฉันอยากสูบบุหรี่เหลือเกิน เรียกหมอมาด่า เพื่อนๆ มาโรงพยาบาลนี้กูไม่เข้าอีกแล้ว จำเอาไว้ โพสต์ด้วยนะ โพสต์ในกลุ่มเพื่อน

 

เห็นว่าหลังจากที่เหตุการณ์นี้เกิดพี่น็อตตั้งกฎเหล็กขึ้นมา มีกฎอะไรบ้าง?
น็อต : ไม่ใช่ผมหรอก แต่ทั้งครอบครัว ก็คือเรื่องของการขับรถ เราไม่ให้ขับรถแล้ว เพราะว่าเราไม่รู้ว่าอยู่ดีๆ จะวูบไปตอนไหน มันเกิดอุบัติเหตุได้

 

พ่อดื้อไหม?
น็อต : ไม่ดื้อ หลังจากเกิดเหตุการณ์ผ่านความตายนี่โอ้โห..เลี้ยงง่ายมาก พูดอะไรก็เชื่อ
อาตุ่ม : เราทำอย่างนี้เพื่อให้ทุกคนในบ้านสบายใจ ไม่ต้องห่วงเรา

 

อีกหนึ่งข่าวดีคือคุณพ่อเลิกสูบบุหรี่?
อาตุ่ม : ถูกต้อง หาวิธีการเยอะแยะมาก ไปซื้อยาหม้อต้ม หลายอย่าง เมื่อก่อน 3-4 หนเลิกไม่ได้ ยังไงก็ต้องกลับมาดูด แล้วดูดวันละ 2 ซอง ขนาดไปทำบอลลูนเส้นแรก หมอบอกคุณชลิตอยากตายไหม ถ้าอยากตายดูดต่อไป ถ้าไม่อยาหตายเลิกดูด ผมเลิกไม่ได้ครับหมอ ช่วยผมหน่อยเถอะ มาทำเส้นที่สอง เข้าโรงพยาบาลเที่ยวนี้เลิกได้เพราะอยู่โรงพยาบาลนาน

 

ตั้งแต่พ่อป่วย พี่น็อตไป กลับ กรุงเทพ-จันทบุรี บ่อยมาก พี่น็อตหวังอะไรหรือเปล่า?
น็อต : เป็นห่วงคุณพ่อ อายุมากแล้วอยู่คนเดียวที่สวน แล้วเรามัวแต่สนใจเรื่องของตัวเอง มัวทำงานอยู่ในกรุงเทพ ไม่ได้ไปดูเขาเลย เราก็อยากไปดูว่าชีวิตความเป็นอยู่ตรงนั้นเป็นยังไง อายุก็เยอะใครจะคอยดูแลเขาในวันที่มันเกิดเหตุแบบนี้อีกครั้งจะต้องจัดการยังไง แล้วดูว่าเราสามารถแบ่งเบาภาระพ่อส่วนไหนได้บ้าง

 

พอลูกไปถึงปั๊บแบ่งเบาได้ไหม?
อาตุ่ม : คิดหนัก เพราะความที่เขามาแบบนี้จริงเหรอ มันจะทำจริงนะ ใจนึงก็ดีใจ แต่อีกใจนึงความที่เราอยู่คนเดียวมันชิน เราต้องมาแบกภาระมาดูแลมันอีก 
น็อต : สวนทุเรียนมันอยาก แล้วพ่อคงรู้ว่าการทำทุเรียนต้องทุ่มเทขนาดไหน แล้วเขาคงรู้จักลูกชายคนนี้ดีพอว่ามึงจะทุ่มเทได้ขนาดนั้นหรือเปล่า

 

ตอนเด็กๆ คุณพ่อทำงานเยอะ ทำให้พี่น็อตไม่ค่อยได้เจอกับคุณพ่อ พี่น็อตเข้าใจไหม?
น็อต : เข้าใจนะ เราไม่ได้ซีเรียสอะไรกับการที่พ่แไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา เพราะคุณแม่ทำหน้าที่แทน มันไม่ถึงกับว่าไม่ได้เจอหน้ากันเลย ยังเจอบ่อยๆ แต่ว่าไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันนั้นเอง

นาทีชีวิต 'ชลิต เฟื่องอารมย์' ติดเชื้อในกระแสเลือด ขยับตัวไม่ได้ 6 ชั่วโมง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ