ล่าสุดถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันที่1 ธันวาคม 2566 เข้าเฝ้า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เพื่อกราบขอพร และรับประทานน้ำพระพุทธมนต์ ณ ตำหนักอรุณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
ในพิธี เมย์ พิชญ์นาฏ เลือกใช้ชุดไทยศิวาลัยสีขาวมุก ที่ได้ร่วมออกแบบกับทาง ห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ เป็นชุดที่ทางว่าที่เจ้าสาวบอกว่าเป็นชุดไทยที่สะท้อนความเป็นตัวตนของสาวเมย์100% ตัวชุดตัดเย็บจากผ้าไหมยกดอกลำพูนที่สั่งทอขึ้นมาใหม่ทั้งชุด
รวมถึงสไบที่ใช้กี่ทอเดียวกัน การออกแบบเชิงผ้านุ่ง หน้านาง รวมถึงการยกดอกเป็นการทอแบบไล่สี โดยใช้สีชมพูอ่อนและสีเขียวอ่อนพาสเทล โดย ดร.สรรค์ สุดเกตุ (ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ห้องเสื้อ วนัช กูตูร์) ได้เป็นผู้ออกแบบและสร้างลวดลายของผ้าไหมงามชิ้นนี้ขึ้นมาใหม่ มีการตั้งชื่อให้ผ้าไหมใหม่ว่า "พิชญ์นาฏ" และมีการจดขึ้นทะเบียนตรานกยูงพระราชทานจากกรมหม่อนไหม สังกัดกระทรวงสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นับว่าเป็นผ้าไหมทอมือที่งดงามทรงคุณค่าและความเป็นสิริมงคล จากนั้นทำมาตัดเย็บเป็นลักษณะของชุดไทยศิวาลัยหนึ่งในชุดไทยพระราชนิยม เพื่อใช้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ตัวชุดบรรจงปักด้วยคริสตัลทั้งสีขาวมุกสีขาวใสสีเขียวอ่อนสีชมพูพาสเทลออกแบบให้เป็นลวดลายของดอกไม้และใบไม้ขนาดเล็ก สะท้อนให้เห็นถึงความสง่างาม น่ารัก สดใสของผู้สวมใส่ แต่แฝงไปด้วยความโก้หรูเรียบง่าย ระยิบระยับเจิดจรัสและงดงามเมื่อต้องกับแสงของดวงอาทิตย์ในยามรุ่งอรุณ เครื่องประดับตกแต่งมีเข็มขัด สังวาล ที่ออกแบบจากครูช่างทองของศูนย์ศิลปาชีพ ความพิเศษไปกว่านั้นคือการที่ทางห้องเสื้อได้ออกแบบเข็มกลัดติดหน้าอกโดยใช้ชื่อว่า "พิชญ์นาฏ"
ทำมาจากทองคำขาวฝังด้วยพลอยแท้แบบไล่สี เพิ่มความหรูหราและชูคุณค่าให้กับชุดไทยศิวาลัยที่ทางคุณเมย์ใส่อยู่นี้งดงามเหนือคำบรรยาย ส่วนชุดของว่าที่เจ้าบ่าวนั้น เป็นชุดไทยคอตั้งแบบประยุกต์สีน้ำตาล โดยเลือกใช้ผ้าไหมโคราชในการตัดเย็บ สีชุดที่แสดงถึงความมั่นคงและความหนักแน่น เป็นหนึ่งชุดไทยสำหรับว่าที่เจ้าบ่าวที่สง่างามมากรวมมูลค่ากว่า 800,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง