เปิดใจ 'วันเดอร์เฟรม' เดินไม่ได้ พุงใหญ่ - เจอบูลลี่จนร้องไห้

อีกหนึ่งสาวไทยที่โกอินเตอร์ดังไกลถึงต่างประเทศ พร้อมฝากผลงานในรายการเรียลลิตี้ที่ประเทศจีน สำหรับ "เฟรม วันเดอร์เฟรม (Wonderframe)" หรือ "ศุภัคชญา สุขใบเย็น" ศิลปิน และแรปเปอร์สาว ตอนนี้กลับมาที่บ้านเกิด ล่าสุด อัปเดทเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา 

 

โดนบูลลี่ว่าอ้วนจนร้องไห้ มันสะเทือนใจขนาดไหน?

"สะเทือนใจค่ะ ส่วนตัวไม่เคยคิดว่า ตัวเองอ้วนเลย จนเจอคอมเมนต์ที่เขาว่าแรงมากๆ ทำให้เรารู้สึกว่า ทำไมต้องใจร้ายขนาดนี้ เลยร้องไห้ออกมา มันมีหลายคอมเมนต์ที่รู้สึกว่า มันคงไม่ใช่คำที่เราจะมาพูดกันต่อหน้าด้วยซ้ำ แรงจนรู้สึกว่าเขาใจร้ายกับเราจัง เฟรมก็งงว่าทำไมเฟรมต้องมานั่งอธิบายว่าเราอ้วนขึ้นด้วย โอเค ด้วยความที่เราอยู่ตรงนี้เราก็ต้องอธิบายว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้หรอก แต่ด้วยความที่เราเลือกไม่ได้ เราขาหัก ทำให้เราไปออกกำลังกายไม่ได้ ต้องอยู่กับที่ มันก็ต้องมีการเพิ่มเรื่องของน้ำหนักเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว"

เราไม่ได้รู้สึกกับน้ำหนักที่มันเพิ่งขึ้นใช่ไหมว่าเราอ้วนขึ้น?

"เฟรมรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อ้วนขึ้นค่ะ ตอนแรกเราเฉยๆจนมาเจอ อ้าว นี่เราอ้วนขึ้นขนาดนั้นเลยเหรอ เราเริ่มสงสัยตัวเอง ความมั่นใจมันเริ่มน้อยลง ก็คงไม่ใช่แล้ว"

 

พอเราออกมาพูดในคลิปนั้น ฟีตแบคดีขึ้น?
"ดีใจมาก เฟรมอาจจะไปโฟกัสผิดที่ ไปโฟกัสกับคนที่เขาไม่ได้รักเรา แต่จริงๆแล้วยังมีคนอีกมากมายเลยที่รักเรา ขอบคุณมากๆอ่านทุกคอมเมนต์ กำลังใจเข้ามาเยอะจริงๆ รู้สึกมีกำลังใจมากๆ ส่วนตัวเฟรมแอบผิดหวัง ตรงที่ว่าสังคมเราเดินมาไกลแล้วนะ แต่ว่าทำไมยังมีแบบนี้อยู่ ก็อยากจะถามตรงนี้"

 

อยากแนะนำเราก็ควรใช้คำพูดที่ดีกว่านี้?
"ถ้าการเป็นห่วงเฟรมเข้าใจเลยนะ กลัวสุขภาพไม่แข็งแรงอะไรแบบนี้ เข้าใจได้ เฟรมโอเคมากๆกับการตักเตือนและเป็นห่วง"

 

คนรอบตัวให้กำลังใจ?

"เฟรมก็ดาวน์อยู่ช่วงนีงเลย คนรอบข้างก็ให้กำลังใจ ยังไงเราก็สวยในแบบของเรา เฟรมเลยอยากฝากถึงทุกคนเลยว่า ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ไม่มีใครมาว่าเราได้ นอกจากตัวเราเอง ฉะนั้นอยากให้มั่นใจในตัวเองค่ะ ตอนนี้เฟรมเริ่มออกกำลังกายได้แล้ว เฟรมไม่ได้อยากจะพิสูจน์นะว่า ไม่ ฉันจะกลับมาผอม ไม่นะคะ เฟรมออกกำลังกายเพื่อให้เฟรมแข็งแรงขึ้น กลับมาทำงานได้ 100%"

 

ตอนนี้พอใจกับรูปร่างตัวเอง?

"เฟรมพอใจกับรูปร่างตัวเอง ในอดีตตอนที่เฟรมเด็กๆ เฟรมไม่เคยชอบก้นของตัวเองเลย ไม่เคยชอบรูปร่างตัวเอง จนโตมาถึงได้เรียนรู้ว่าทุกคนมีไทด์ของบอดี้ที่แตกต่างกัน ฉะนั้นมันเป็นปกติที่แต่ละคนจะแตกต่างกัน เฟรมก็เลยเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เรียนรู้ที่จะมั่นใจในตัวเอง ก็ใช้เวลานานนะคะกว่าจะค่อยๆพัฒนาความคิด มายเซตใหม่ให้ตัวเอง พอมาเจอคนว่าก็ยอมรับว่าเฟรมเขว อย่างที่บอกเฟรมไม่ได้คิดว่าตัวเองอ้วน ทำไมเขาถึงต้องว่าเราแบบนี้ มันเสียใจค่ะ เราคิดนะ เราก็เป็นคนถึงแม้เราจะเป็นดารา เป็นนักร้อง เราก็รู้สึกค่ะ"

 

ตอนนี้สุขภาพกลับมาเต็ม100%?

"กลับมาเต็ม 100% แล้วค่ะ เต้นได้ วิ่งได้แล้ว ตอนนี้กลับมาทำกิจกรรมที่เราชื่นชอบได้แล้ว แฮปปี้มากๆ เฟรมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการที่เราเดินได้มันคือพรวิเศษของชีวิตนี้เลย การที่เฟรมกลับมาเดินได้ มันทำให้เฟรมรู้สึกดีกับตัวเองมากๆ"

 

นานแค่ไหนที่เดินไม่ได้?


"ประมาณ 2 เดือน ต้องใช้ไม้ค้ำ ต้องใช้วิลแชร์ รู้สึกอึดอัดมากๆ ทั้งอึดอัดที่เรากิน พุงก็ใหญ่ เราก็ทำได้แค่นั่งอยู่อย่างนั้น ขยับตัวลำบาก เดินไม่ได้ ตอนที่เฟรมต้องนั่งอยู่เฉยๆเฟรมได้เรียนรู้หลายอย่าบมากๆ จริงๆ แล้วความสุขของเรามันหาได้ง่ายมากๆ แค่การที่เราใช้ชีวิตได้ปกติ มันคือที่สุดของชีวิตแล้ว ก่อนหน้านี้เฟรมเคยรู้สึกว่าเราไม่มีความสุขในชีวิตเลย เพราะบางทีชีวิตมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดหวัง แต่จริงๆแล้วการที่เรายังมีลมหายใจและได้ใช้ชีวิตปกติที่สุด มันคือความสุขที่สุดแล้ว พอกลับมาเดินได้เฟรมก็พยายามจะมีความสุขที่สุดในทุกวัน เอาจริงๆเฟรมรู้สึกว่าเหมือนเขาให้ชีวิตใหม่เฟรมมาเลยค่ะ ให้ความคิด ให้มายเซตใหม่ บางทีมันก็เกว่งบ้างเป็นเรื่องปกติเพราะเราเป็นมนุษย์ สุดท้ายเราจะกลับมายังไงให้ได้เร็วที่สุด"

 

ทำให้ได้เรียนรู้ว่าชีวิตไม่ได้แย่ขนาดนั้น ตอนขาหักคือได้รู้แล้วว่าแย่มันเป็นยังไง?

"ใช่ เฟรมยังได้เรียนรู้ว่าประเทศไทยเรา หลายๆสถานที่ไม่ได้ทำมาเพื่อให้คนที่เดินไม่ได้เข้าไปได้เลย เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่นะ มันเป็นเรื่องที่เราเพิ่งมาสังเกต และเริ่มเข้าใจแล้วว่าแล้วคนที่เลือกไม่ได้เขาจะทำยังไง ถ้าต่อไปเฟรมมีร้านอาการเปิดกิจการอะไรเฟรมจะทำสโลปให้เลย กลายเป็นว่าเฟรมตระหนักเรื่องนี้ไปเลย"