บันเทิง

จบแล้ว 'เติร์ก คหบดี' ไม่ขอร่วมงาน 'แก๊ปเปอร์' รับถอนตัวตั้งแต่ ก.ย.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดใจ 'เติร์ก คหบดี' ผู้บริหาร M Flow Entertainment หลัง 'แก๊ปเปอร์ วรฤทธิ์' บริษัท ๙หน้าโปรดักชั่น จำกัด ร่อนหนังสือ ไม่ขอร่วมงานด้วย ณ งานบวงสรวงซีรีส์ Beyond The Star เส้นทางรักพิชิตดวงดาว เจ้าตัวเผย ถอนตัวตั้งแต่ ก.ย. ตนจบแล้ว จากนี้ขอเอาเวลาไปทำงาน

"คือเราได้มีการขอถอนตัวช่วงเดือนกันยายน ผมขอพูดภาพรวมอย่างนี้ พื้นฐานในเรื่องของการเป็นพาร์ทเนอร์ เรามีอะไรเราช่วยเหลือกัน ในการเป็นพาร์ทเนอร์เราสนับสนุนที่ดีมาโดยตลอด ไม่ว่าสถานที่ อุปกรณ์ เรายินดีที่จะดูแล ไม่ว่าสปอนเซอร์ หรือพาร์ทเนอร์ แต่อยู่ๆถ้าเกิดวันนึงแล้วเรารู้สึกว่าที่ตรงนี้เราอึดอัด มีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกไม่ควร ผมก็แค่ถอนตัวออกมา ซึ่งถ้าให้วันนี้เติร์กออกมาพูดถึงใครในแง่ไม่ดี เติร์กคงไม่พูด เพราะว่าการทำธุรกิจ ทำงาน คอนฟิก ความคิดเห็นแตกต่างกัน มันเป็นเรื่องที่ปกติมาก แต่ว่าตัวเติร์กเอง ทำงานคุยบนโต๊ะ แล้วจบบนโต๊ะ ฉะนั้นเติร์กถอนตัวมาตั้งแต่กันยายน เติร์กไม่จำเป็นต้องไปประกาศ หรือไปแจงออกสื่อ เบื้องต้นผมก็อยากแจ้งเฉยๆว่าผมได้มีการถอนตัวแล้ว แต่ว่าถ้าจะให้พูดถึงใครเติร์กคงไม่ทำ พูดตรงๆ ตอนนี้ผมทำงาน เราอยากให้มีการนำเสนอในเรื่องของงานมากกว่า"

ปัญหาอะไรที่ทำให้เราอึดอัด?
อันนี้หลักๆเติร์กไม่สามารถตอบได้ เพราะถือว่าเราคุยกันแล้ว เราจบแล้ว มีผู้ใหญ่ในวงการที่เสนอตัวเข้ามาเป็นตัวกลางในการเคลียร์ ซึ่งพูดคุยกันแล้ว เคลียร์จบกันแล้ว ฉะนั้นต่างฝ่ายต่างทำงาน ทำหน้าที่ของตัวเอง เรื่องปัญหาผมขอไม่พูดนะครับ เพราะว่ายังเคารพยังอะไรทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงในสังกัด ถ้าเกิดเจอน้องๆต่างสังกัด ให้ความเคารพทุกอย่างเหมือนเดิม 

 

โปรเจกต์ที่แถลงไปแล้ว?
โปรเจกต์ที่แถลงคืออย่างนี้อย่างกรณีโปรเจกต์บียอนเดอะสตาร์ ทางเอ็มโฟร์เราเป็นคนลงทุน 100% เท่ากับว่าอำนาจสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่เป็นทางของเรานะครับ เติร์กทำงานในวงการมานานหลายปี ไม่ว่าจะเป็นช่องใหญ่ หรือแพลตฟอร์มอะไรก็แล้วแต่ เรื่องของการที่คุณภาพไม่ได้ หรือไม่ถูกต้องไม่ควร เรื่องแบบนี้ผมการันตีไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพียงแต่ว่าอยากให้เข้าใจ หนึ่งตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เติร์กได้มีการขอถอนตัวมาแล้วเงียบๆของเราเอง โดยที่ผมรู้สึกว่าคนทำงานควรใช้พื้นที่สื่อในการประชาสัมพันธ์งานมากกว่านะครับ สองสำหรับโปรเจกต์บียอนเดอะสตาร์เป็นของเอ็มโฟร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ที่เรามีสัญญาจ้างนักแสดงที่อื่นที่เป็นพรรคพวกกันมาเล่นในเรื่องนี้ เรื่องอื่นลึกๆอะไรก็แล้วแต่ ผมอาจจะขอไม่พูดถึง 

 

โปรเจกต์นี้แค่จ้างงานไม่ใช่พาร์ทเนอร์? 
คือถ้าใช้คำว่าพรรคพวก หรือว่าพาร์ทเนอร์ ถามว่าได้ไหมได้ แต่อยู่ในรูปแบบเอ็มโฟร์เป็นคนจ้าง

เติร์ก คหบดี

แปลว่าเอ็มโฟร์เป็นคนตัดสินใจ 100%?
ถูกต้อง ใช่ครับ อย่างโปรเจกต์บียอนเดอะสตาร์ อำนาจสิทธิ์ขาดเรื่องบท ตัวแสดง เรื่องอะไรก็แล้วแต่ ทางเอ็มโฟร์ 100% แต่ทีนี้เราเห็นว่ามันคือสิ่งที่เราอยากจะร่วมกันจากหลายๆที่ หลายๆค่าย แต่ ณ วันที่เราจะก่อโปรเจกต์ขึ้นมา เข้าใจว่าหลายๆฝ่ายอาจยังไม่พร้อม เราก็เลยเสนอทุกคนให้เข้าใจมาตรฐานตรงกันว่า ใครก็แล้วแต่ที่ลงทุน บทบาทหน้าที่ อำนาจตัดสินใจสูงสุดต้องอยู่ที่เอ็มโฟร์

 

แปลว่าเป็นแค่บริษัทนั้นที่ขอถอนตัว?
คือตอนนี้ผมขอถอนตัวคือก่อนหน้านี้อันนี้ผมเรียนตามตรงว่าเอ็มโฟร์เราค่อนข้างอินเตอร์เทนเด้น แต่ว่าหลังจากที่เติร์กออกจากช่องใหญ่ เติร์กเป็นผู้จัดอิสระ และเติร์กค่อนข้างมีวัฒนธรรมองค์กรที่ค่อนข้างแข็งแรงในตัวของเติร์กเองอยู่แล้ว ฉะนั้นเติร์กอาจมีความสุข ในการที่เติร์กทำคนเดียวก็ได้ แล้วเราก็มีพาร์ทเนอร์ในด้านอื่นที่คอยส่งเสริมกัน

 

ก่อนหน้านี้คุยกับเขารู้เรื่องแล้ว?
มีผู้ใหญ่เป็นตัวกลางในการพูดคุยที่จบในโต๊ะไปแล้ว (หรือเขามีปัญหา ทำไมมีจดหมาย?) อันนี้เติร์กตอบไม่ได้ แล้วเติร์กก็ไม่ทราบว่าทำไมอยู่ๆเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่ถ้าเกิดจะให้พูดดีเทลเยอะกว่านี้ขอให้ข่าวเท่านี้ครับ 

 

ปัญหามันเกิดหลัวจากแถลงข่าวโปรเจกต์?
อันนี้ขอไม่ตอบเพราะว่า จริงๆ เติร์กใช้คำนี้ดีกว่าเวลาเราทำงานจะอะไรก็แล้วแต่ทุกที่มีปัญหาอยู่แล้วครับ ความคิดไม่ตรงกัน ทัศนคติไม่ตรงกัน วัฒนธรรมองค์กรไม่เหมือนกัน มันเป็นเรื่องธรรมดา เรารู้สึกว่ามันไม่ได้อยู่ในจุดที่มาออกสื่อ เข้าใจไหมครับ เหมือนเราประชุมงานแล้วเราทะเลาะกันบนโต๊ะ ทะเลาะกันในที่ทำงาน แล้วอยู่มาวันนึงมาโป้ง มันไม่จำเป็นต้องมาประกาศ คือเราต่างคนต่างทำงาน เราทั้ง 2 คน ต่างมีคนข้างหลังที่เราต้องรับผิดชอบ ที่ดูแล ฉะนั้นผมไม่เห็นว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้

 Beyond The Star เส้นทางรักพิชิตดวงดาว

ก่อนที่จะสรุปเราได้เคลียร์กับเขาก่อนไหมก่อนที่จะมีโปรเจกต์ต่อไป?
คือเคลียร์ปัญหาในที่นี้คือเราใช้คำที่ว่าโปรเฟสชั่นนัล จะมีคอนฟิกอะไรก็แล้วแต่อันนี้พูดถึงการทำงานนะครับไม่ใช่เรื่องส่วนตัว การทำงานยังไงต้องคงอยู่ แล้วเติร์กไม่ว่ากับน้องที่ไหนก็แล้วแต่ เติร์กจะทีคน้องทุกคนเท่ากันหมด ไม่ว่าจะเป็นเด็กนอกค่ายหรือว่าเด็กในค่าย ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นน้องต่างค่าย และรู้สึกไม่ดีอันนี้ผมการันตีเลยว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเราดูแลเด็กเท่าเทียมกันทุกคน อันนี้คือสิ่งที่ผมอยากจะชี้แจง ถ้ามากกว่านี้ผมคงพอแล้วครับ เราขอทำงานดีกว่า

 

จะยุบโปรเจกต์ไหม เพราะว่าเราเป็นนายทุน เขายังไปกับเราไหม?
ตรงนี้ผมไม่ทราบ เอาเป็นว่าผมแค่ดึงตัวผมออกมา (ตัวเราออกมาแปลว่าเงินก็ต้องออกมา?) โนๆ ผมดูแค่โปรเจกต์บียอนเดอะสตาร์ ฉะนั้นอนาคตในภายภาคหน้า จะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ ผมก็ถือว่าอันนี้ไม่ได้เกี่ยวข้อง (บียอนเดอะสตาร์ไม่เกี่ยวข้อง?) ถ้าโปรเจกต์อื่นในซีรีส์เรื่องอื่นก็มี ที่จะออนแอร์ในเดือนมกราคม กลายเป็นโปรโมทซะงั้น (โปรเจกต์บียอนเดอะสตาร์นอกจากเขาก็มีบริษัทอื่น?) ไม่ได้หยุดครับ เราจะออนแอร์วันที่ 11 นี้ แต่ผมแค่อธิบายให้ฟังเฉยๆว่า โปรเจกต์บียอนเดอะสตาร์สิทธิ์การตัดสินใจอยู่ที่เอ็มโฟร์ เพราะเราเป็นคนลงทุน 100% อันนั้นคือโปรเจกต์ในภายภาคหน้าอาจจะไม่ได้ร่วมงานกัน คือมันก็ไม่ได้มีอะไร คือเราเป็นคนจัดการทุกอย่าง

 

กังวลไหมถ้าทางนั้นเขาออกมาพูด ?
ไม่กังวล เราเป็นคนทำงาน เติร์กรู้สึกว่าเราเอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าไหม อันนี้พูดตรงๆเลยครับ คือมันไม่จำเป็นต้องมาออกสื่อด้วยซ้ำ อะไรก็แล้วแต่คุยกันแล้วก็ควรจบ เติร์กคนที่ค่อนข้างมีอะไรคุยต่อหน้า คือหลังจากนี้จะมาอะไรก็แล้วแต่ สุดแท้ก็แล้วแต่เขาแหละ ผมขอเอาหัวไปทำงานดีกว่า ในเมื่อมาร่วมงานกันไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็หยุดแค่นั้นเอง ทีนี้ผมขอไม่ยุ่งแล้ว จะให้ข่าวอะไรก็แล้วแต่ผมจะทำหน้าที่ของผม

 

แปลว่าหลังจากนี้ไม่ร่วมงานกันแล้ว ?
ณ ตอนนี้ถ้าพูดตรงๆ ก็คงไม่ร่วมงาน เพราะต่างฝ่ายก็ต่างมีโปรเจกต์ของตัวเอง เราก็ไม่จำเป็นจะต้องมีอะไรที่ร่วมกัน

 

ความสนิทส่วนตัวจะลดลงไหม ?
ตอนนี้ก็ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ตัวเอง

 

จากพาร์ทเนอร์กลายเป็นคู่แข่งเรารู้สึกยังไง?
จริงๆเติร์กไม่ได้มองจากพาร์ทเนอร์กลายมาเป็นคู่แข่ง ผมใช้คำอย่างนี้ ถ้าคนทำธุรกิจประเภทเดียวกันแบบเดียวกัน แต่ถ้าเกิดมาเป็นพาร์ทเนอร์กัน มันมีวิธีไปด้วยกัน วินๆช่วยเหลือส่งเสริม คือมันอาจจะน้อยหน่อยแต่มันไปด้วยกัน แต่ถ้าเกิดวันนึงคุณมองเป็นคู่แข่ง เราจะไปห้ามความคิดเขายังไงครับ ถ้าบอกว่าตัวเติร์กซับพอร์ตพาร์ทเนอร์ขออะไรเติร์กให้หมด แต่ถ้าเขาจะมองสุดท้ายก็แล้วแต่เขา เพราะหลังจากนี้ก็ขอทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะจริงๆการให้ข่าวลักษณะนี้มันก็ไม่ใช่ตัวของเติร์กอยู่แล้ว

 

ได้ประสบการณ์ยังไงบ้างกับสิ่งที่เกิดขึ้น?
บอกตรงๆว่าหลายครั้ง เราค่อนข้างจริงใจกับพาร์ทเนอร์ คือค่อนข้างให้ 100% เพราะเราก็เคยเริ่มจากการที่เรามีปัญหา เราเคยลำบาก อยากขายแต่ไม่มีใครซับพอร์ต แต่พอวันนึงเราเห็นเขามีปัญหา แล้วเราแข็งแรงขึ้นมา เราก็อยากจะยื่นมือเข้าไปช่วย อันนี้พูดแบบไม่เอาหน้าเลยนะครับ แบบมาสิ ช่วยกัน เอาให้มันรอด แต่พอวันนึงเราให้ใจไปแล้ว หลังจากนี้เราคงต้องระวังตัวนิดนึง และอาจจะให้ความสำคัญกับบริษัทของตัวเองเป็นที่ตั้ง

เติร์ก คหบดี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ