บันเทิง

'เกรท วรินทร'เดินสายไหว้ทั่วอยุธยา หลังรับบท 'ขุนหลวงท้ายสระ'

02 พ.ย. 2566

"เกรท วรินทร"ก็ออกมาเล่าแบบหมดเปลือกถึงละคร พรหมลิขิต ในบทบาทสำคัญ "ขุนหลวงท้ายสระ" ที่เจ้าทำการบ้านอย่างหนัก และหลังถ่ายทำเสร็จก็เดินทางไปไหว้ทั่วจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

แค่ออกมาเปิดตัวพระเอกดังอย่าง "เกรท วรินทร"เป็นตัวละครลับในละครพีเรียดเรื่อง พรหมลิขิต ในบทของ "ขุนหลวงท้ายสร" หรือ สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ , สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 , พระเจ้าท้ายสระ , พระเจ้าภูมินทราชา , พระเจ้าบรรยงก์รัตนาสน์ พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระองค์ที่สามแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ก็เรียกว่าสร้างความฮือฮาและน่าจับตามองมากแล้ว ยิ่งละครออกอากาศยิ่งทำให้คนจับตามองมากเพิ่มขึ้นไปอีก

 

ล่าสุด "เกรท วรินทร"ก็ออกมาเล่าแบบหมดเปลือกถึงละครเรื่องนี้กับเบื้องหลังการทำงานที่ พูดได้เต็มปากว่ายากกว่าหลายเรื่องที่ผ่านมา ขนาดที่ว่าพระเอกหนุ่มต้องเดินสายไหว้ทั่ว จ.พระนครศรีอยุธยา เลยทีเดียว

 

  • พรหมลิขิต รับบทเป็น "ขุนหลวงท้าย" ?

"รับบทเป็นขุนหลวงท้ายสระ ก็เป็นบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบทบาทหนึ่งสำหรับชีวิตการแสดงของผม ในเรื่องพรหมลิขิต คือเราได้มาอยู่ในจักรวาลออเจ้า รู้สึกเป็นเกียรติมากเพราะว่าบุพเพฯก็ดีมากๆ ด้วยกระแสความสนุกมา พอมาพรหมลิขิตก็ดีใจที่ได้มามีส่วนร่วมในจักรวาลออเจ้า"

  • รับบทตัวละครที่มีจริงในประวัติศาสตร์ เราต้องไปอ่านประวัติหรือศึกษาเพิ่มเติมยังไงบ้าง?

"อันนี้ตัวละครที่มีประวัติศาสตร์และได้ฟังที่เขาเล่าให้ฟังว่ามันเป็นยังไงบ้าง แล้วเราก็มาเข้ากับบทและทำความเข้าใจ แต่ว่ามันจะมีบางฉากเรื่องของความแสดงออกและความเป็นกษัตริย์บุคลิกลักษณะนิสัยการตัดสินใจก็จะมีพี่นายผู้กำกับคอยบอก คือจริงๆบทนี้ไม่ได้ใช้คำว่าหนักใจ แต่มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เราต้องเคร่งคัด และตั้งใจมากเป็นพิเศษ ด้วยความที่ท่านเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ แล้วก็เป็นกษัตริย์เป็นบทที่ยิ่งใหญ่ และยิ่งแต่งองทรงเครื่องแล้วมันไปอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

 

จริงๆด้วยในบางโลเคชั่น แล้วพอไปหาในที่มีทุกๆคนมานั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรา แม้แต่ว่ามันจะเป็นการแสดง แต่ด้วยบทนี้ยิ่งบอกว่ามันมีประวัติศาสตร์มันเลยยิ่งทำให้หลายๆอย่างมันส่งพลัง  แล้วผมมองว่าสิ่งที่เราควบคุมได้ก็คือการทำตัวละครตัวนี้ให้สมบูรณ์แบบที่สุด มันเลยเป็นอะไรที่เราค่อนข้างอยากทำออกมาให้ดีที่สุดก็เลยต้องตั้งใจมากเป็นพิเศษ"

 

\'เกรท วรินทร\'เดินสายไหว้ทั่วอยุธยา หลังรับบท \'ขุนหลวงท้ายสระ\'

  • มีการบอกกล่าวกับบุคคลที่อยู่ในประวัติศาสตร์ยังไงในการที่เรารับเล่น?

คือผมอ่ะก็คิดตั้งแต่ตอนที่ตั้งใจรับบทนี้แล้ว ผมก็บอกว่าไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ ถ้าผมได้เล่นบทนี้ขอให้ท่านอยู่ข้างๆ แล้วก็เหมือนให้ท่านเลือกเรามา แล้วทุกครั้งก่อนเพราะฉากก็จะไหว้และขอให้ท่านช่วยให้ทุกอย่างมันผ่านไปด้วยดี จนถ่ายจบก็ได้ไปไหว้หลายๆที่ที่อยุธยา

  • อย่างคำราชาศัพท์ต่างๆที่เราพูดในละครมีการไปศึกษาลงลึกยังไงบ้าง?

"คำราชาศัพท์ในบทก็จะมีเขียนค่อนข้างเป๊ะอยู่แล้วและมันเป็นภาษาที่เราไม่สามารถอิมโพไวส์ได้ แต่ถ้าเป็นพูดปกติจะอิมโพไวส์ได้ แต่อันนี้คำต้องเป๊ะ ถ้าพูดถึงว่าเป็นราชาศัพท์แบบยากๆเลยไม่มี แต่ก็จะมีเป็นชุดคำ ที่หลายๆอย่างที่เราฟังแล้วรู้สึกว่าใช้คำนี้หรอ คือจริงๆแล้วอ่ะเราก็จะได้ฟังออกเพราะมันเป็นภาษาไทย แต่ว่าเพียงต้องท่องให้เป๊ะเพราะว่าถ้าพูดสลับกันมันก็จะความหมายเปลี่ยน เรื่องบทก็เป็นเรื่องยากอย่างหนึ่งมากๆของบทนี้

 

เนื้อเรื่องพูดยาว คือเป็นการเล่าเรื่องให้คนดูได้รู้เหมือนเราเล่าเรื่องผ่านตัวละครให้คนดูได้รู้ว่าเรื่องจริงๆที่มันเกิดขึ้นในยุคนั้นที่มันมีอยู่ในประวัติศาสตร์มันเป็นยังไง คนดูทางหน้าจอก็จะรับรู้ไปพร้อมๆกัน จริงๆเคยเล่นพีเรียดมาแล้ว แต่ในลักษณะแบบนี้ก็ถือว่าเป็นน้องใหม่ เพราะไม่เคยเล่นบทบาทแบบนี้เลย"

 

  • ขุนหลวงท้ายสระ หลายคนอาจจะได้ยินแค่ชื่อแต่ไม่เคยรู้ประวัติเลยเราจะต้องหาจุดเด่นของตัวละครนี้ยังไงที่ให้ภาพมันชัดเจน?

"ด้วยความที่บทละครของตัวละครที่เขียนมาค่อนข้างชัดเจนว่า มีงานอดิเรกและสิ่งที่ท่านทำและมีพระที่นั่งท้ายศาลาที่ท่านชอบไป แล้วก็มีเกี่ยวกับเรื่องของปลาตะเพียนที่ท่านชอบทานและออกกฏหมายควบคุม อันนี้คือเป็น detail ที่ทางทีมงานทำมา และอีกอย่างหนึ่งที่ใส่รายละเอียดเข้าไปตอนที่เล่น ก็คือคนที่เป็นกษัตริย์สมัยก่อนในมุมมองของคนที่เป็นกษัตริย์ในสมัยอยุธยา คนก็จะมองไม่เหมือนกัน

เช่น อย่างแรกๆที่ผมเข้าฉากกับ "เบลล่า"เราชอบเขาเขา  ตำแหน่งของเรา เรามีมีอำนาจอยู่ในมือ คือถ้าเราชอบใครอะ มันสามารถชี้ได้ในยุคนั้น อันนี้มันก็เป็นมายด์เซ็ตที่ใส่เข้าไปในตัวละคร แล้วเรื่องเวลาของเวลาราชการก็ต้องเด็ดขาด ต้องมีความดุดันชี้เป็นชี้ตายได้ อันนี้คือเป็น detail ของตัวละครตัวนี้"

 

  • เห็นว่าเรื่องนี้มีการใช้มือกินข้าว ?

"ใช่ครับก็ต้องฝึกว่าเวลากินข้าวใช้มือกันยังไง จับข้าว 3 นิ้วยังไง แล้วก็ต้องยกซด ก็ถือเป็นการใช้มือครั้งแรกในการใช้มือกิยน ก็กินกันจริงๆเอร็ดอร่อยเลยจริงๆ"

 

  • เจออุปสรรคอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำ ในกอง?

"สำหรับผมพูดจริงๆ นะ ผมรู้สึกว่าของผมไม่มีอุปสรรค เพราะว่าเราคิดว่าเราเตรียมตัวในส่วนของเรามาอย่างดีดีที่สุดอยู่แล้ว และทุกครั้งที่เล่นบทนี้จะไปรับพลังเอาข้างหน้า แต่เราก็มีครั้งที่เราทำมาอย่างเต็มที่และไปรอว่าข้างหน้า พี่นายผู้กำกับหรือสถานการณ์ด้านหน้าจะเป็นยังไง รอรับพลังกับทุกคน เพราะว่าผมเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างบน หลายๆฉากที่ต้องนั่งอยู่ข้างบนไม่ได้คุยกับใคร  น้อยมากที่ต้องยืนคุยกับใคร แล้วมันก็มีหลายๆฉากที่เราต้องนั่งอยู่ข้างบนและมีคนนั่งอยู่ข้างล่าง มันใช้สมาธิสูงและบทยาวคนแทรกก็ไม่ค่อยอยากจะแทรก เพราะเขาไม่กล้าแทรกกัน เขาก็คอยรับคำสั่งอย่างเดียว ก็จะมีโมโหมีไม่ได้ดั่งใจ

 

แต่พีเรียดก็จะดีที่ได้การสื่อสารทางด้านอารมณ์ เขาจะพูดช้ากว่ายุคปัจจุบัน บางทีมันก็เลยค่อนข้างชัดในการแสดงอารมณ์ ชอบไม่ชอบพูดทีละประโยค มันค่อนข้างแสดงอารมณ์ออกมาได้ชัดเจน คือผมอ่ะขนลุกมาตั้งแต่วันแรกเลยฉากเปิดตัวผมเป็นฉากขึ้นครองราชย์ครั้งแรก และเป็นบทที่ยาวมากครั้งแรก คือสองสามหน้า คนคั่นน้อยมาก แต่คือเราอ่านแล้วเราทำความเข้าใจได้ เพราะไม่ใช่เป็นการพูดคุยเป็นการเล่าให้ฟัง เล่าให้คนที่อยู่ทั้งข้างล่างฟังแล้วก็เล่าให้คนที่กำลังจะดูละครฟัง คือเล่าว่าที่เรามาขึ้นครองราชย์ได้ เราอ่ะเป็นมือใหม่นะแต่เราก็ขอบคุณที่มีใครบ้างที่เคียงข้างเรา และบ้านเมืองต่อไปจะเป็นยังไง ก็ต้องทำความเข้าใจในทุกๆประโยคว่าพูดประโยคนี้เพื่ออะไร

 

แล้วมันจะมีการสอดแทรกในเรื่องของเราที่ขึ้นครองราชย์และมันก็จะมีเรื่องของการระมัดระวังการกบฏอยู่ด้วย พูดเพื่อกดไว้อย่าทำนะ มันมีซับเทคหลายอย่าง มันคือฉากนี้เรียกว่าขนลุกจริงเลยและเรื่องนี้ตั้งแต่เล่นละครมายาวสุดเลย แล้วต้องท่อง มันจะพูดตามความความรู้สึกเหมือนละครปัจจุบันไม่ได้ ตั้งแต่เล่นละครมาเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำบทยากที่สุดแล้วในความที่มันยาวและยากก็เลยต้องให้เวลากับเขาเยอะๆ แล้วก็ค่อยค่อยไป"

 

  • ในเรื่องมีเก็ดความรู้เรื่องปลาตะเพียน?

"ปลาตะเพียนอร่อยนะครับ ก้างเยอะไปหน่อย คือท่านจะเป็นคนชอบตกปลาด้วย ในเรื่องก็จะมีฉากตกปลา คิดว่าวันนี้ก็น่าจะได้เห็น และเรื่องการออกกฏหมายห้ามจับปลาตะเพียนในเรื่อง ก็จะบอกว่าในยุคนั้นคนเข้าใจผิดว่าทำไมคุณหลวงถึงห้ามจับปลาตะเพียน แต่จริงๆแล้ว ห้ามจริงแต่ห้ามในแค่ตอนฤดูวางไขา เมื่อปลาตะเพียนจะได้แพร่พันธ์"

 

  • เรื่องของคอสตูมก็จัดเต็ม?

"แล้วนี่ก็เป็นเรื่องแรกเหมือนกันนะที่แต่งตัวแบบพิถีพิถันและอลังการมาก อย่างที่เวลาเรารับบทตำรวจเราใส่ชุดตำรวจเราก็จะรู้สึกว่าเราคือตำรวจ และชุดเนี่ยมันเป็นชุดที่ปราณีตมาก คือไม่กล้าเล่นเลาน เล่นน้อย ยิ้มแบบยิ้มไม่กว้าง แล้วผมว่าองค์ประกอบชุดและฉากมีส่วนในทำให้ตัวละครสมบูรณ์ เราเป็นนักแสดง เราก็เตรียมตัวมาแล้ว พอได้มาแต่งองค์ทรงเครื่องได้ใส่เต็มๆมันก็ทำให้มีอินเนอร์อะไรบางอย่าง ที่เราจะต้องนั่งบนบัลลังก์และเตรียมที่จะสั่งเตรียมที่จะพูด"

 

  • พอมาเล่นเรื่องนี้ก็เหมือนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปในตัว จริงเราเองชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไหม?

"เมื่อก่อนไม่ตั้งใจเลยอ่ะ เพราะชอบเล่นพละ ออกกำลังกาย ประวัติศาสเป็นวิชานึงที่ครูสอนแต่คราวนี้ต้องบอกก่อนว่ายุคเนี่ยอย่างละครบุพเพฯอย่างพรหมลิขิตดีมาก ตั้งแต่ผมเล่นมาทำให้ผมเข้าใจเสน่ห์ประวัติศาสตร์ เพราะว่าผมไปทำงานที่อยุธยาบ่อยขึ้น ได้ไปไหว้พระได้เห็นและเข้าใจได้ว่าเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ไทยมันอยู่ตรงไหน และทุกวันนี้ ยิ่งมีเสื้อผ้ามีการแต่งตัวที่ค่อนข้าร่วมสมัยมากขึ้น ผมว่ามันก็มีเสน่ห์มาก"

 

 

  • อย่างที่บอกว่าตัวละครนี้เป็นตัวละครลับ แต่ตอนนี้ไม่ลับแล้ว?

"คือไม่ลับแล้ว จริงๆแอบเหมือนคราวที่แล้ว ที่ตัวละครลับแต่ล่ะคน จะค่อยๆโผล่ออกมา แบบ Surprise คนไม่รู้  ก็ดีใจเราจะได้เป็นตัวละครลับแล้วก็ละครอ่อนแอไปซัก3-4ตอนต้อง คนตกใจแน่เลย มีพี่เกรทด่วยเหรอ แต่สรุป อ๋อ เปิดตัวไปแล้วเลย(หัวเราะ) แต่ว่าตอนถ่ายลับจริง ตอนเราไปถ่ายเมืองโบราณหรืออยุธยา มีนักท่องเที่ยวเราเข้าใจเราว่าลับไม่ใช่ลับแค่พูด ทีใงานบอกพี่เกรทอย่าพึ่งออกไปนะ ต้องเอาผ้ามาบัง คือแต่แฟนเคลับเขารู้นะไม่รู้ทำไม เก่งจริงๆ ก็ดีใจครับที่ได้เป็นตัวละครลับมีส่วนร่วมในเรื่องนี้"

 

  • แล้ววันนี้ (30 ต.ค.) จะได้เห็นคุณหลวงท้ายสระแล้ว?

"ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน นะคือมันก็ปิดกล้องไปสักพักแล้วนะแต่พอเรามาเห็นภาพในทีเซอร์ ในละครที่พอโผล่ออกมาบ้าง เราก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน และพอเห็นเรตติ้ง ก็โห เรตติ้งอลังการมากเลยนะ แล้ววันเนี่ยจะออกแล้วก็ดูกันเยอะๆด้วยนะอย่าให้เรตติ้งล่วงนะ เขินนะ ล่วงอ่ะนะ เป็นกำลังใจให้ผมนะแก๊งๆเพื่อนด้วยที่วันนี้เราจะออกมาสู่สายตาท่านผู้ชมกันแล้วในอีพี5 ก็เป็นอีกเส้นเรื่องหนึ่งที่ผมมองว่ามีความเข้มข้นเพราะว่าพ่อริด ก็อยู่กับเรา ก็คือพี่โป๊บอีกคนนึง อยู่ในแก๊งมหาดเล็กของผมด้วย"