อดีตภรรยา แฉ ‘โก้ บีมิกซ์’ ติดพนัน ขโมยทองลูกไปจำนำ เครียดจนคิดทำแท้งลูก

อาม ณัชชกมล อดีตภรรยาของนักร้องดังบอยแบนด์ โก้ บีมิกซ์ อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ดัง ที่วันนี้ (4 กันยายน 2566) ออกมาเปิดใจครั้งแรก หลังเพจดังแฉอดีตสามีอักษรย่อ ก.ติดพนันขั้นสุด กู้เงินนอกระบบ 27 แห่ง แล้วจริงหรือเปล่าเพราะปัญหาหนี้สินของอดีตสามีทำให้เธอคิดทำแท้งลูกคนที่ 2 มาแล้ว พร้อมเคลียร์ดราม่าถึงสาเหตุที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

 

 

โพสต์ที่เขาพูดถึงอดีตบอยแบรนด์ อักษรย่อ ก. ย่านลาดพร้าว ติดการพนัน กู้นอกระบบ 27 แห่ง ชอบจุ๊บเงินเมีย จนเมียทนไม่ไหวต้องเลิกขาด แล้วหวยมาออกที่อดีตสามีของคุณอาม ลามมาถึงชื่อเราจริงไหม ?

 

          อาม : จริงค่ะ

 

 

จุดเริ่มต้น มันเริ่มยังไงที่เขาเป็นหนี้ ?

 

          อาม : เรารู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก ก่อนที่เราจะคบกันว่าเขามีหนี้อยู่แล้วส่วนหนึ่ง ตอนที่เราตัดสินใจจะคบกันก็ถามเขาว่ามีปัญหาอะไร มีเรื่องเกี่ยวกับอะไร ก็รับทราบในหนี้ส่วนนี้

 

แต่เราโอเคตอนนั้น ?

 

          อาม : เราโอเค เพราะเรามองว่าเป็นหนี้ถ้าคุณไม่สร้างเพิ่ม แล้วเราก็ให้โอกาสในการเริ่มต้นชีวิตของเขา ช่วยกันทำ ช่วยกันหาไป ผ่อนจ่ายไป ไม่น่าเกิน 2 ปีหนี้ก้อนนี้ก็น่าจะหมด

 

หนี้เยอะไหม ?

 

          อาม : ประมาณ 4 ล้าน แต่เราไม่รู้ว่าหนี้ก้อนนี้มัน 4 ล้าน หรือมากกว่านั้น เพราะเราเคยให้เขาแพลนมาว่า 4 ล้านเป็นหนี้กี่เจ้า แล้วแต่ละเจ้าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ แล้วจ่ายดอกไปแล้วกี่บาท หรือมีต้นเท่าไหร่ เราให้เขาแพลน แต่เราไม่เคยได้ส่วนนั้น เราไม่รู้ว่าที่เราให้ไป ไปจ่ายเจ้าไหน หรือว่าเป็นหนี้อะไร

 

 

ตอนแรกที่คบกันเมื่อกี่ปีที่แล้ว ?

 

          อาม : 3 ปีค่ะ รู้จักกันเมื่อประมาณปี 2563

 

เราคิดว่าหลังจากแต่งงานมันจะดีขึ้น แล้วมันดีขึ้นไหม ?

 

          อาม : มันก็มีมาเรื่อย ๆ คือตอนที่เราตัดสินใจที่จะคบกัน เราก็มีน้องเลย พอมีปุ๊บก็มีเรื่องหนี้เข้ามาเรื่อย ๆ

 

เป็นหนี้ที่เพิ่มมา ?

 

          อาม : เป็นหนี้จากการที่เขาไปก่อหนี้ เหมือนเดินเข้ามาแล้วบอกว่า มีหนี้จากตรงนี้มานะ กลับไปเล่น ประมาณนี้

 

จริงไหมหนี้ก่อนแต่งงาน มันมาจากการที่เขาติดพนันบอล ?

 

          อาม : ค่ะ คือทั้งหมดเลย มาจากการเล่นฟุตบอล

 

อันนั้นก็หนี้ส่วนหนึ่ง แต่เขาก็พยายามจะทำงาน ถูกไหม ?

 

          อาม : ค่ะ ก็ทำงาน

 

ทำงาน มายืมเงินเราไปเปิดร้าน ?

 

          อาม : ใช่ค่ะ ร้านเหมือนมีแพลนที่จะเปิดมาก่อนที่จะคบเราแล้ว พอมาคบเราปุ๊บ เราเลยถามว่าทำไมร้านไม่เปิดสักที มีปัญหาติดขัดอะไรหรือเปล่าทำไมถึงไม่เปิด เขาก็แจ้งว่าเงินเขาไม่พอในการที่จะมาเปิดร้าน ไม่มีเงินที่จะไปลงทุน ไปซื้อของอะไรอย่างนี้

 

อามเลยช่วย ?

 

          อาม : ใช่ เพราะอยากให้เขาได้เปิดร้าน

 

เขาขอเรา หรือเราช่วยเอง ?

 

          อาม : เขาก็เอ่ยปากมาว่าขอยืมเดี๋ยวจะคืนให้ เหมือนยืมประมาณ 180,000 ไม่เกิน 200,000 แล้วเขาก็ขอเลขบัญชีเราไว้ ว่าขอนะ เดี๋ยวพี่จะโอนกลับเข้ามา เหมือนมี 5,000 หรือ 10,000 ก็จะโอนกลับเข้ามา

 

เป็นร้านอะไร ?

 

          อาม : ร้านส้มตำ ยำ

 

สุดท้ายได้เปิดไหม ?

 

          อาม : เปิดค่ะ แล้ว 180,000

 

ได้คืนไหม ?

 

          อาม : ไม่ได้คืน 5,000 หรือ 10,000 ก็ไม่เคยเข้ามาสักครั้ง

 

 

ร้านได้กำไรไหม ?

 

          อาม : ก็ขายได้ มียอดขายเข้ามา แต่เราไม่รู้ว่ายอดขายในแต่ละวันเขาเอาไปจ่ายอะไร ตรงไหน เราไม่ได้ทราบตรงนั้น

 

กลายเป็นว่าช่วงหลังโควิดเราต้องดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ?

 

          อาม : ค่ะ เกือบทั้งหมด หรือว่าทั้งหมดเลยก็ได้ แล้วลูกด้วย ค่าฝากท้อง ค่าหาหมอทุกอย่าง ค่าคลอดทุกอย่างเราหมด

 

ต่อเดือนตกเท่าไหร่ รวมถึงลูก ?

 

          อาม : ค่าใช้จ่ายใช่ไหม ประมาณ 2 แสนได้

 

ตอนสามีอยู่ให้สามีด้วย ให้เป็นเงินเดือน ?

 

          อาม : ค่ะ เฉลี่ยเป็นเงินเดือนให้ แต่จะมีแบบใช้เงินตรงนี้นะ

 

เดือนนึงให้สามีเท่าไหร่ ?

 

          อาม : ประมาณ 1 แสน

 

เขาใช้หมดไหม หรือใช้เกินแล้วมาขอเราเพิ่ม ?

 

          อาม : ก็มีมาขอเพิ่ม คือการขอเพิ่มของเขาไม่ใช่ว่าจะต้องให้นะ คนเราเวลาอยู่ด้วยกัน สามีบอกว่าเราเครียดจังเลยเธอ ต้องจ่ายหนี้ตรงนี้ เราต้องจ่ายอันนี้ พอเราได้ยินเข้ามาในหูปุ๊บ คนอยู่ด้วยกัน เป็นครอบครัวก็ต้องช่วย

 

ตอนเปิดร้านส้มตำขอไป 180,000 ตอนตั้งท้องลูกคนแรกเขามาขออีกก้อนนึง ?

 

          อาม : ค่ะ ประมาณ 140,000 มีอยู่วันนึงเขาเดินมา คุยกัน เขาก็ร้องไห้ เราก็ถามว่าเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม เขาก็บอกว่าไปเล่นมาแล้วเสีย จะต้องจ่ายเขาวันนี้ เราก็โอเคก็ให้ไปในก้อนนั้น คือเรามองว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วเรากำลังช่วยกันสร้างครอบครัวแล้วมีลูก มองว่าอะไรที่ช่วยเหลือเขาได้ แบ่งเบาเขาได้ เราก็ช่วย

 

 

นี่สลิปอะไร ?

 

          อาม : เป็นยอดเงินที่เราโอนให้เขา

 

ยังไม่หมด เห็นว่าหลังจากนั้นยอดสูงขอยืมเป็นล้าน ?

 

          อาม : ค่ะ ตอนนั้นคลอดลูกแล้วคนแรกประมาณไม่ถึงเดือน เขาก็บอกว่ามีคนมาตามหนี้เขา เขาจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนเงินเท่านี้ ล้านกว่าบาท ให้เขาได้ไหม เราก็คิดอยู่นาน เพราะมันเป็นจำนวนเงินที่เยอะพอสมควร แต่สุดท้ายตัดสินใจที่จะให้ไป เพราะว่าลูกเราก็ยังเล็กมาก ตอนให้เราบอกว่า เราให้คุณนะ เพราะเราซื้อพ่อที่ดีให้กับลูกแล้ว หลังจากนี้ก็ดูแลลูกให้ดี เป็นพ่อที่ดีให้กับลูก

 

แล้วช่วงนั้นอามประกอบอาชีพอะไร ?

          อาม : ก่อนหน้านั้นที่รู้จักกับเขา อามขายอาหารเสริม เป็นแบรนด์ตัวเองส่งออกอยู่แล้ว

 

พอให้เขาไปวันนั้นเป็นยังไง เขาแฮปปี้ ?

 

          อาม : เขาแฮปปี้ เพราะว่าปัญหาเขาถูกแก้ไขได้ ก่อนหน้านั้นเขาก็เครียดมาตลอด หลังจากที่คลอดลูก เขาจะเครียดทุกวัน

 

ก้อนที่ให้ไปล้านนิด ๆ เขาเอาไปทำธุรกิจของเขา ?

 

          อาม : ใช่ ธุรกิจของเขา ก็เหมือนรับเอง คือก่อนหน้านั้นเขาก็เหมือนไปรับเอง แล้วเราไม่รู้ว่าเราไปรับเอง คือรับเล่นเองหรือรับจากลูกค้ามา หรือยังไง แต่เขาจำเป็นที่จะต้องใช้หนี้ส่วนนี้ให้กับโต๊ะบอล

 

เราได้ถามไหม ?

 

          อาม : ก่อนที่เราจะโอน 1 ล้าน 1 แสน เราถามเขาว่าขอคุยได้ไหมกับโต๊ะหรือเจ้าหนี้ที่คุณบอก เขาก็บอกคุยได้โทร. ได้ แต่ถ้าบัญชีโอนเข้าไปที่โต๊ะแล้วเดี๋ยวมันจะมีปัญหานะ ฉะนั้นคุณโอนให้ทางเราเลยทุกครั้งที่เราโอนให้เขาเราจะถามตลอดว่าจ่ายเจ้าไหน จ่ายยังไง แต่เขาจะเลือกบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาเคลียร์เอง เดี๋ยวเขาเอาเงินไปหมุนจัดการเองทุกครั้ง เราก็เลยไม่รู้เลยว่าเขาเอาไปทำอะไรเขาเอาไปจ่ายอะไร เอาไปจ่ายตรงไหน แล้วหนี้ที่บอกกับเรามา4 ล้านตอนนี้เหลือเท่าไหร่ เราเองก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย

 

 

ก่อนที่เราจะให้เงิน 1.1 ล้านไปได้บอกเขาไหม กฎเหล็กของเราอย่างนี้ ๆ นะ ?

 

          อาม : มีค่ะ เขาบอกว่าหลังจากนี้ไปเขาจะไม่ยุ่งกับการพนัน แต่หนี้เก่าเขายังเหลืออยู่เราก็บอกโอเคก็ช่วยผ่อนไป เพราะมัน 2 ปีไง คลอดลูกมามันก็ปีกว่า ๆ เอง หนี้ก็ยังไม่หมด ก็ช่วยกันใช้ไปต่อ แต่หมายถึงหนี้ใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาเราขอไม่รับรู้ตรงนั้น

 

ได้ถามถึงหนี้ใหม่ ๆ ไหมว่าวันนี้มีอะไรไหม มีคนมาตามทวง ตอนนี้ยอดเท่าไหร่ ?

 

          อาม : ระหว่างหนี้ใหม่ที่เข้ามา อามไม่ได้มานั่งโฟกัสหรอกว่าวันนี้คุณจะทำหนี้เท่าไหร่ แต่เวลาเขามีปัญหาเขาก็จะเข้ามาบอกว่าวันนี้มีหนี้เท่านี้ ต้องใช้เท่านี้ ทางบ้านต้องใช้เงินเท่านี้นะ เขาก็จะมาบอก

 

เคยคุยกับเขาไหม เลิกเถอะ ทำอย่างอื่น ?

 

          อาม : คุยค่ะ คุยตลอด แต่พอเราพูดถึงเรื่องงาน เขาก็จะมองว่าเราไปห้ามเขาในอาชีพการงานที่เขาทำ แบบอย่ามาห้ามพี่เลยในสิ่งที่พี่ทำอยู่ สิ่งที่พี่คิดอยู่ ในอาชีพที่พี่กำลังจะทำอยู่

 

ขอคิดง่าย ๆ อาชีพเขาคือเจ้ามือหวย ?

 

          อาม : อาจจะต้องเรียกแบบนั้น เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คือหลังจากโต๊ะบอลเสร็จ หลังจากนั้นก็รับหวย เขาก็ได้เครดิตมาอีก แต่เราไม่สะดวกใจตั้งแต่แรกอยู่แล้วที่จะให้เขาไปยุ่งอะไรเกี่ยวกับพวกนี้ เพราะเรามองว่าเริ่มต้นหนี้สินมันมาจากสิ่งพวกนี้อยู่แล้ว เราไม่อยากให้เขาไปยุ่ง เพราะวันนี้มีลูกแล้ว 1 คน ณ เวลานั้นไม่ควรไปยุ่งกับอะไรพวกนี้อีก เพราะมันจะเป็นปัญหา

 

จากบอล มาเป็นหวย มันไม่มีการหยุดเลย ?

 

          อาม : ค่ะ แต่ในส่วนตัวเขา เขาอาจจะมองว่าเขาหยุดเล่นแล้ว เขาแค่มาประกอบกิจการเขา ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นการเล่น

 

การที่เขาเก็บเงินค่าหวยมันกระทบกับเรา ?

 

          อาม : เหมือนลูกค้าเราสั่งของที่เรา แล้วลูกค้าเราก็เป็นลูกค้าที่เล่นหวยกับเขา แล้วพอลูกค้าเราถูกหวยปุ๊บ เขาจะบอกว่าคนนี้ติดเงินอยู่เท่านี้ใช่ไหม งั้นเดี๋ยวหักกับค่าของไปเลยนะ

 

แล้วคนที่ถูกหวยโอเคไหม ?

 

          อาม : เขาเป็นลูกค้าเรา เขาต้องให้เงินเราอยู่แล้ว แต่ถามว่าอามโอเคไหม อามไม่โอเค แต่ไม่ได้บอกลูกค้าสินค้าเรามันมีทั้งต้นทุน มีทั้งค่าพนักงาน มันมีค่าใช้จ่ายทุกอย่าง

 

 

ซื้อ 1 จ่าย 16 คืออะไร ?

 

          อาม : หวยออกวันที่ 1 กับวันที่ 16 แล้วเหมือนพอซื้อวันที่ 1 ปุ๊บ เป็นปกติแหละที่คนจะต้องจ่ายวันที่ 16 เหมือนมีเครดิตจ่ายวันที่16 แต่ในระว่านั้น สมมติพี่พีเคซื้อ พี่ติดยอดเขาอยู่ 1 หมื่น แต่พี่ต้องจ่ายวันที่ 16 ใช่ไหม วันที่ 2 เขาก็โทรหาว่าพี่พีเค 1 หมื่นไม่ต้องจ่ายวันที่ 16 ได้ไหม จ่ายวันนี้ 9 พัน ได้ส่วนลดพันนึง แล้วเขาก็ได้เงินสดจากส่วนนี้ไปหมุน

 

แล้วถึงเวลาเอาเงินที่ไหนไปคืน ?

 

          อาม : ก็กู้ไงค่ะ กู้ใหม่ นี่แหละมันเป็นที่มาในใบที่เราเห็นว่าทำไมเป็นหนี้นอกระบบเยอะขนาดนั้น

 

ไม่ใช่แค่เงินของคุณอามนะ เห็นว่าจะเอาทองของลูกไปขายด้วย ?

 

          อาม : มันเป็นทองที่เวลาเราคลอดลูก ผู้ใหญ่ก็จะมาอวยพรหลาน รับขวัญหลาน แล้วเขาบอกว่าขอเก็บเองเพราะมันเป็นทองของทางฝั่งญาติเขาที่มาให้ เราก็โอเค เพราะเราคิดว่าของของลูกเขาไม่ทำหรอก เราคิดแค่นี้ แต่พอเวลาผ่านมา ลูกโตได้สักระยะนึง เราก็บอกว่าของของลูกอยู่ไหน เราขอเก็บได้ไหม เผื่อวันนึงลูกเกิดอะไรขึ้นมา เราจะต้องใช้ส่วนนี้ เขาก็บอกว่า เขาเอาไปจำนำ เขาไม่ได้ขายนะ เขาเอาไปจำนำ ทองมันก็ยังอยู่ที่เดิมที่โรงจำนำ เราก็ยังต่อดอกทุกเดือน เรามองว่ามันเป็นของลูก ไม่ควรทำกับลูกแบบนี้ บางทีลูกโตขึ้นมาของสิ่งนี้มันอาจจะมีคุณค่าทางใจให้กับลูกก็ได้ว่าอันนี้ย่าให้มานะ อันนี้ป๊าให้มา

 

 

เห็นว่าคุณอามกับสามีมีปัญหาเรื่องเงินจากการขายสินค้าในโมเดิร์นเทรดด้วย ?

 

          อาม : เขาเหมือนใช้ชื่อเสียงของเขาในการเข้าโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ มันจะมียอดขายในแต่ละเดือน ที่จะได้มาสมมติเดือนนึงยอดขายได้ 4 หมื่น แต่ 4 หมื่นบาท มันไม่ใช่ว่าเราได้ มันคือค่าทุนสินค้า ค่าพนักงานด้วย เขาคิดว่าเราได้ทั้งไมดเลยกำไรจากตรงนั้น เขาก็เหมือนอยากได้เงินส่วนนี้ เป็นจำนวนเงินเท่านี้

 

โปรดักส์ที่ขายคืออะไร ?

 

          อาม : อาหารเสริม ทุกวันนี้ก็ยังขายอยู่ ก็ขายดีค่ะ

 

เราลิสต์ว่าเขาพลาดตรงไหนบ้าง แต่ ณ ช่วงนั้นก็ยังอยู่กับเขา ?

 

          อาม : ค่ะ

 

เขาน่ารักตรงไหน ?

 

          อาม : เขาเป็นพ่อที่ดีมากกับลูก และเป็นสามีที่ด้อยู่ในระดับนึง แต่เขาติดปัญหาเรื่องเงิน เขาพูดกับอามมาตลอดว่า เขาเป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดี แต่อย่างเดียวที่เขามีปัญหาเลยคือเรื่องเงิน

 

เขาก็พูดตรงนะ เขาบอกตั้งแต่ก่อนแต่งแล้วใช่ไหม ?

 

          อาม : ใช่ แต่ในเรื่องเงินของเขามันเต็มไปด้วยการโกหก แต่เรื่องเงินมันก็สำคัญไง สำหรับชีวิตที่มีลูก

 

อามตัดสินให้ทุกอย่างมันหยุดหมดเลย คือให้เขาเลิกทำงาน ?

 

          อาม : ใช่ เขาก็บอกว่าเราห้ามเขาทำงาน แต่ 2 อาชีพที่เขาอยากจะเลือกในการทำงาน 1.เดินสายร้องเพลงตามต่างประเทศ เราก็มองว่าถ้าคุณไปเดินสายร้องเพลง รับงานตามต่างประเทศลูกจะยังไง เพราะไปที 15-20 วัน ลูกจะอยู่ยังไง ลูกจะถามหาพ่อไหม อาชีพที่ 2 คือกลับเข้าไปในวงการฟุตบอล เราไม่โอเคอยู่แล้วกับการที่กลับไปในวงการฟุตบอล เพราะว่าหนี้สินของคุณทุกอย่างมันเริ่มจากที่คุณทำอาชีพในวงการฟุตบอล เราถึงไม่อยากให้กลับเข้าไปเพราะสุดท้ายแล้วมันวนเวียน

 

ก็เลยบอกให้เขาเลิกทั้ง 2 อัน ?

 

          อาม : ใช่ เขาก็เลิกค่ะช่วงนั้น

 

ได้นานไหม ?

 

          อาม : ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันก็ไม่ได้ทำ แต่เขาก็ยังไปบอกคนอื่นว่าเราห้ามทำงาน ไม่ให้ทำงาน แต่เหตุผลหลัก ๆ เลยที่ไม่ให้ทำงานก็คือ 2 เหตุผลนี้

 

แต่เขาก็มาช่วยเราทำงาน ?

 

          อาม : เขาช่วยเราทำงาน

 

ช่วยเรายิงแอดโฆษณา ?

 

          อาม : ใช่ ๆ แต่เขาไม่ได้ลงมือทำ เหมือนเรายิงแอดอยู่แล้ว เราขายของอยู่แล้ว แล้วเราขายได้ยอดพอสมควรในแต่ละวัน ยอดเงินที่เข้า กำไรที่ได้ สมมติว่าวันนึงกำไร 15,000 เดือนนึงก็ 450,000 เขาก็จะมองแค่นั้น ไปจ้างดีกว่าในเมื่อเราทำไม่ไหว เพราะเราเลี้ยงลูก ก็จ้างเดือนละ 150,000 ค่าจ้างเราก็เป็นคนออกให้เอง แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายในการยิงแอดสินค้า มันมีต้นทุนต่าง ๆ ที่เราจะต้องจ่าย แล้วก็มันมีความไม่แน่นอน ความเสี่ยงในแต่ละวัน จะมีค่าสินค้าเพราะของที่ขายคือของเราถูกไหมค่ะ เขาเอาของเราออกไปขาย แต่ทุนสินค้าที่ออกไปขายก็ไม่ได้ให้เรา

 

อย่างนี้เรียกว่าขโมยของไหม ?

 

          อาม : ไม่ ตอนนั้นยังอยู่เป็นครอบครัว เรามองแค่ว่าช่วยเขาไปในหน้าที่ของเราที่เราช่วยได้

 

เขาก็อยากช่วยแหละ แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เขาก็ทำได้ดีที่สุดคือจ้างคนอื่นมาช่วย แต่ผลก็ไม่เป็นแบบที่คิด ก็เลยมีปัญหาอีก ?

 

          อาม : ก็เป็นหนี้ที่เพิ่มขึ้นมาอีก

 

 

แล้วที่บอกปัญหาไปถึงขั้นขโมยเลยคืออะไร ?

 

          อาม : นาฬิกาอามเหมือนอามซื้อโรเล็กซ์เอาไว้ให้ลูก เขาก็ยืมไปใส่เราก็โอเค เพราะคนในครอบครัวยืมกันใส่เป็นเรื่องปกติ เราก็บอกเขาว่าเธอเราขอยืมมาบ้างสิ เพราะบางทีเราออกงานเราอยากใส่เรือนนี้บ้าง เขาก็บอกว่าของก็อยู่ที่นั่น ที่นู่น บ่ายเบี่ยงไม่ให้ของมากับเรา จนสุดท้ายเราบอกว่าเราอยากได้คืนแล้ว เขาก็ให้เรามา แต่พอเราใส่ปุ๊ปมาแปลก ๆ

 

ยังไง มันเบา หรือว่าข้อมันไม่เป๊ะเหมือนสมัยก่อน ?

 

          อาม : ใช่ ๆ พอเราดูตัวเรือนปุ๊ป ตัวเรือนเราจะมีรอยอยู่รอยนึงเป็นรอยที่เราทำเองมันก็ไม่ใช่ เราก็เลยฝากเพื่อนไปตรวจ พอฝากเพื่อนไปตรวจเพื่อนก็โทร. มาเลยว่าซื้อที่ไหนเนี่ย เราก็บอกว่าเราก็ซื้อแล้วก็ผ่านการตรวจมาเรียบร้อยแล้วด้วย เพื่อนก็บอกว่าปลอมนะ

 

หมายถึงเขาเอาไปขายเหรอ ?

 

          อาม : เขาเอาไปจำนำ

 

เอานาฬิกาเราไปจำนำแล้วก็ไปตามห้างไปซื้อของปลอมมาสีเดียวกับหน้าปัดเดียวกันทำข้อเท่ากัน แล้วก็หายเรากลับคืนมาใส่ ?

 

          อาม : เหมือนเป๊ะ มันก็เป็นจุดที่เราจะอยู่ด้วยกันได้จริง ๆ เหรอ คนอยู่ด้วยกัน นอนด้วยกันทุกวัน สามีควรเป็นคนที่เราไว้ใจได้มากที่สุด ความเชื่ออใจหลาย ๆ อย่าง ก็พูดไม่ออก

 

แล้วได้บอกเขาไหม ?

 

          อาม : บอก ๆ ก็ถามว่าเธอเอานาฬิกาฉันไปทำอะไร เขาก็ยอมรับว่าเอาไปจำนำ

 

เขาก็ไม่โกหก ?

 

          อาม : เรามีหลักฐานจะเอาเรื่องด้วยตอนนั้น เราไม่ยอม

 

 

นาฬิกาว่าพีคแล้ว มีเรื่องพีคกว่าอีกช่วงที่มีเหตุการณ์วุ่นวายชุลมุนสุด ๆ ที่ทำให้เราเครียดมาก ๆ ก็ยังมีเรื่องให้เซอร์ไพร์สคุณอามอีก ?

 

          อาม : หลังจากนั้น 3 วันก็มาตรวจว่าท้องคนที่ 2

 

ทำให้ลืมปัญหาทุกอย่างหมดเลย ?

 

          อาม : ไม่ลืมสิคะ คิดหนักกว่าเดิม ลูกคนแรกว่าเหนื่อยแล้วลูกคนที่ 2 เราคิดเยอะขึ้นกว่าเดิม เพราะลูกคนที่ 2 มันไม่ใช่เรื่องเล่นแล้ว คิดแล้วว่าจะเอายังไงต่อดี เอาลูกไว้ดีมั้ย มันเครียดนะ

 

คิดขนาดถึงจะเอาออกเลยเหรอ ?

 

          อาม : เราก็ไม่รู้ว่าปัญหาที่เราจะเจอหลังจากนี้ไป ไม่รู้เราจะรับมันไหวมั้ย คิดแล้วก็เสียใจอยู่ทุกวันนี้นะ เพราะว่าลูกน่ารักมาก

 

อันนั้นออพชั่น 1 แล้วออพชั่น 2 คืออะไร ?

 

          อาม : เราแพ้ท้องหนักมาก ท้องสองเราก็แพ้ ท้องแรกเราก็แพ้ เราก็นอนทุกวันเลยเพราะว่าเราลุกไม่ไหว เราแพ้ท้อง แล้วเขาก็บอกว่าจะนอนอะไรเยอะแยะ ทำไมไม่ลุกขึ้นมาทำงาน ไหนบอกว่าจะทำงานใช้หนี้ให้ไง มันก็เป็นความรู้สึกของคนที่เป็นแม่ เราไม่ได้อยากจะแพ้ท้อง เราไม่ได้อยากจะอ่อนแอ เราไม่ได้อยากจะนอน แต่มันลุกไม่ไหวจริง ๆ

 

สุดท้ายเลือกเก็บเบบี๋เพราะอะไร ?

 

          อาม : ชีวิตเรามีทางเลือกให้ 2 ทาง ณ ตอนนั้น คือ 1 ไปต่อกับลูก หรือ 2 หยุดให้เงินเขาแล้วก็แยกกับเขา

 

ตัดสินใจเลือก ?

 

          อาม : ตัดสินใจเลือกเก็บลูกไว้แล้วไปต่อกับลูก

 

หยุดให้เงินเขาด้วย?

 

          อาม : ค่ะ หยุดให้เงินตอนนั้น

 

แล้วตอนที่มาขอเงินตอนคลอดลูกคืออะไร ?

 

          อาม : อันนี้คือที่เขาบอกว่าเป็นจุดแตกหักของเขาก็คือเรื่องนี้ ตอนนั้นเขามีเรื่องหนี้นอกระบบแล้ว เราเก็บเงินก้อนหนึ่งไว้เพื่อที่จะคลอดลูกเป็นจำนวนเงินนึง เขาก็บอกว่าขอยืมเงินก้อนนี้ก่อนได้ไหม เอาออกมาใช้หนี้ของเขาก่อนหรือเอามาใช้ส่วนตัวของเขาก่อน

 

ซึ่งอันนี้เราบอกว่าเราหยุดให้เงินแล้ว ?

 

          อาม : ใช่ค่ะ หยุดให้เงินแล้ว ก้อนนี้ที่สำคัญมันเป็นเงินของลูก ที่จะคลอดลูกคนที่ 2 ในเวลาอีกแค่ 2-3 อาทิตย์ก็จะคลอดแล้ว เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรเอาเงินสดมาเดี๋ยวเขาจะรูดบัตรของพี่สาวเขา แล้วเขาจะเป็นคนผ่อนจ่ายเองในแต่ละเดือน เราก็มาคิดว่าถ้าเราให้เขาไปแล้วถึงเวลาจริง ๆ เขาจะมีเงินจ่ายจริง ๆ หรือเปล่า สุดท้ายเราก็ต้องมานั่งจ่ายของลูกเราเองหรือเปล่า สุดท้ายจะรูดบัตรหรือผ่อนจ่ายเราก็ต้องมานั่งผ่อนเอง เราก็ตัดสินใจที่จะไม่ให้เขา เขาก็ออกเลยไปตั้งแต่วันนั้นค่ะ

 

 

เมื่อกี๊ว่าพีคแล้ว วันคลอดพีคกว่า ?

 

          อาม : อามนอนห้องไอซียูก่อนคลอด 5 วัน เพราะว่าในระหว่างคลอดเรามีภาวะเครียดมาโดยตลอด ลูกก็จะคลอดก่อน ก็ดูแลเอง ระหว่างนั้นก็ไปฝากท้องเองไปอะไรเองหมดทุกอย่าง เราไปคนเดียว ขับรถ เอาลูกคนโตใส่คาร์ซีตนั่งข้าง ๆ แล้วตัวเองก็ท้อง แล้วก็ขับรถไปโรงพยาบาล

 

แล้ววันคลอดมีใครมาเยี่ยมบ้าง ?

 

          อาม : ก็มีเขาเนี่ยแหละค่ะมาเยี่ยม คุณหมอก็บอกว่าให้ถ่ายภาพพ่อแม่ลูกตอนคลอดให้ลูกเก็บไว้ดู เขาไม่ถ่าย

 

กู้นอกระบบ 27 ที่ เป็นหนี้กว่า 20 ล้าน เรื่องราวมันเป็นยังไง ?

 

          อาม : คือกู้นอกระบบไม่ถึง 20 ล้าน กู้นอกระบบตามหลักฐานที่เพจเผยมาก็เป็นยอดเงินเท่านั้น แต่ไม่ถึง 20 ล้านแต่ 20 ล้าน คือหนี้ที่เขาบอกกับทางแฟนคลับเขาว่าเป็นหนี้อยู่เท่านี้

 

มีบอกแฟนคลับด้วย เพื่ออะไร ?

 

          อาม : ก็ไม่ทราบว่าเพื่ออะไร อาจจะอยากยืมเงินหรือว่าอะไร ยืมเงินแฟนคลับ

 

เพราะเขาต้องจ่ายหนี้นอกระบบทุกวัน ?

 

          อาม : ทุกวันค่ะ

 

แล้ว 27 ที่เหมือนกับยืมแล้วก็ไปโปะแบบนี้เหรอ ?

 

          อาม : ใช่ค่ะ ยืม 1 จ่าย 2 แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทุกวัน

 

 

อยากจะบอกอะไรกับคนที่รู้จักอามและรู้จักอดีตสามีเราด้วย ?

 

          อาม : ในส่วนของหนี้สินที่เขาทำเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ลูกเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น ที่คุณกู้ยืมกันเราไม่ได้รับรู้ เรามารู้ตอนหลังที่เรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว อยากจะบอกกับคนดูว่าอย่าไปเล่นเลย ทุกอย่างมันมีผลกระทบบางทีตัวคุณอาจจะไม่ได้มีผลกระทบมาก แต่มันมีผลกระทบกับครอบครัว กับลูก กับภรรยา กับพ่อแม่กับทุกคนในครอบครัว

 

แล้วถ้าอดีตสามีดูอยู่ในตอนนี้ด้วย อยากจะบอกอะไรเขา ?

 

          อาม : ในความเป็นสามีภรรยาไม่มีอะไรจะบอก แต่เราอยากจะบอกในเรื่องของลูก เราอยากได้สิทธิ์เลี้ยงดูบุตร100 เปอร์เซ็นต์มาที่เรา เพราะบางทีเขาทำงานต่างประเทศหรือบางทีเราไม่รู้ว่าอนาคตจะมาให้เราได้หรือเปล่า บางทีลูกต้องเซ็นเอกสารหรือลูกเจ็บป่วย วันนี้เขาพูดได้ว่าถ้าเป็นเรื่องลูกเขามาอยู่แล้ว แต่เราไม่รู้ว่าอีก 5 ปี 10 ปี 20 ปีข้างหน้า เขาจะมาได้หรือเปล่า ฉะนั้นที่เราออกมาในวันนี้เราอยากได้ตรงนี้ เราอยากได้สิทธิ์ปกครองลูกเรา 100 เปอร์เซ็นต์ มาเป็นของเราทั้ง 2 คน

 

ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่ยอม ?

 

          อาม : ค่ะ ก็เคยคุยกันแล้ว แต่เขาไม่โอเค แล้วก็มีในค่าเรื่องใช้จ่ายของลูก ช่วยส่งเสียลูกบ้าง

 

ผลกระทบต่าง ๆ โดนถึงลูกทั้ง 2 คนไหม ?

 

          อาม : ก็มีค่ะ (อย่างเช่น) บางทีด้วยความที่ลูกคนโตอยู่กับพ่อมาโดยตลอด พ่อเขาเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเด็ก ก็จะมีที่จะถามหาว่าพ่อไปไหน บางทีตื่นมากลางดึกตี 2 ตี 3 ก็จะผวาว่าพ่ออยู่ไหน ทุกวันนี้ใครหายไม่ได้เลยรอบตัว กลายเป็นกลัวการหายไป

 

          ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama