"แมนสรวง" รอบปฐมทัศน์ที่เปิดให้ได้ชมกันก่อนจะฉายจริง 24 สิงหาคม 2566 นี้ วันนี้คมบันเทิงจึงหยิบประสบการณ์ และมุมมองบางส่วนมา รีวิว กันเผื่อผู้ชมท่านไหนอยากทำการบ้านก่อนเข้าโรงไปดู
เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ให้ชมกันไปแล้ว สำหรับภาพยนตร์ไทยที่ตั้งเป้าเป็นพลังดัน Soft Power ไปสู่สายตาโลก ด้วยการหยิบวัฒนธรรมผ่านยุคสมัยอันเฟื่องฟูมาบอกเล่าเรื่องราวที่ถูกผูกขึ้นด้วยจินตนาการ นำแสดงโดยนักแสดงดัง ที่ประสบความสำเร็จจากซีรีส์ kinnporsche the series อย่าง
ภาคภูมิ ร่มไทรทอง (มาย) , ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ (อาโป), ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ (อาโป), อัศวภัทร์ ผลพิบูลย์ (บาส)
ตามเนื้อเรื่องที่พูดถึงยุคสมัยครั้งอดีตของสยามประเทศปลายสมัยรัชกาลที่ 3 ความรุ่งเรืองแห่งอารยะที่แผ่ขยายมายังไทยในแทบทุกรูป หลอมรวมกลายเป็นวัฒนธรรมที่งดงาม แต่ด้านมืดดำก็คลืบคลานมาพร้อมๆ กับแสงสว่างที่เจิดจรัส การเมือง , วัฒนธรรม ,ความรัก , การเอาตัวรอดของมนุษย์ พื้นฐานเหล่านี้ถูกก่อสร้างมาเป็น #แมนสรวง
ก่อนอื่นเลย "แมนสรวง" นั้นอาจจะเป็นหนังสำหรับคนที่หลงใหลในวัฒนธรรม ซึ่งคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์ หรือเสพงานศิลปะแขนงต่าง ๆ น่าจะทำให้อิ่มเอมในระดับหนึ่ง แต่อาจจะยังไม่เต็มที่มากนัก ด้วยการผูกเรื่องที่เล่าประเด็นการสืบหาความจริงเสียมากกว่า จึงทำให้งานศิลป์ที่สื่อมา ทำได้เพียงผ่านพร็อบ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเสียมากกว่า การหลอมรวมวัฒนธรรมในยุคนั้น
เรื่องนี้บทหนักตกไปอยู่ที่ "อาโป ณัฐวิญญ์" จะเรียกว่าแบกทั้งเรื่องก็เหมือนจะได้ เพราะเป็นตัวละครหลัก ซึ่งมีปมค่อนข้างเยอะ ไหนจะเป็นลูกกำพร้า , ไหนจะชอบการร่ายรำ ,ไหนจะต้องเปลืองตัว , ไหนจะถูกใส่ร้าย และทำงานใหญ่เสี่ยงชีวิต แต่ชื่นชมที่กล้าหยิบความสัมพันธ์และการกดขี่มาเล่าผ่านตัวละคร
ถามว่า "อาโป" เอาอยู่มั้ย ก็สามารถดูได้ทั้งเรื่อง และที่ขอชื่นชมอย่างมากคือการเตรียมตัวเรื่องงานนาฏศิลป์
ใครที่ตั้งใจจะเข้าไปดูโมเมนต์เลิฟซีนแบบดุเดือดของ "มาย - อาโป" ในเรื่องอยากให้ทำใจนิดนึง และอยากให้ลบภาพของ "คินน์ - พอร์ช" จากซีรีส์ออกให้หมด เพราะเรื่องนี้อาจทำให้คุณผิดหวัง แต่ที่ไม่ผิดหวังและอยากสปอยคือการเล่าเรื่องที่ทำให้ติดตามและดูไปได้เรื่อย ๆ มีความพลิกแพลงเหมือนกำลังดูฉากร่ายรำในหนังจีน และท้องเรื่องการสืบสวนโคนัน เลยทีเดียว
การเปิดตัวฉากแรกของ "พี่อร อรอนงค์" ทำให้รู้สึกว้าวได้ทั้งมุม การจัดวางต่างๆ มันดูทรงพลังและขนลุกในขณะเดียวกัน
การหยิบนำประเด็นการเมืองของคนชนชั้นขุนนางผู้มีอำนาจมาตั้งธงทำให้มีแรงกระเพื่อมมาถึงชนชั้นล่างของสังคมนั่นทำให้เห็นภาพชัดขึ้นและอาจจะทำให้คุณนั้นอินกับหนังเรื่องนี้ก็เป็นไปได้
แมนสรวง ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แทรกอยู่ในหนังอีกหลายมุม ซึ่งถ้าหากพื้นฐานประวัติ วัฒนธรรมไม่มีในระดับหนึ่ง หรือไม่ทำการบ้านมาก่อนนั้นก็อาจจะมองสิ่งเล็ก ๆ ที่ซึมอยู่ในนั้นได้ยากเลยทีเดียว
แต่ทั้งนี้นี่เป็นเพียงมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น อยากจะรู้ว่าเป็นอย่างไรอยากให้ลองไปชมกันดู ภาพยนตร์ไทยเรื่อง แมนสรวง ในโรงภาพยนตร์ 24 สิงหาคมนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง