'เมญ่า นนธวรรณ' เผย ชีวิตหลังแต่งงานแซ่บ ย้ำ ผัวที่ดีคือผัวใหม่

เรียกได้ว่าชีวิตรักครั้งใหม่ปังไม่ไหว สำหรับ "เมญ่า-นนธวรรณ ฌรรวนธร" ที่ล่าสุดเจ้าตัวออกมาอัปเดตชีวิตหลังแต่งงานครั้งที่ 2 ออกปากบอกเลยว่า ชีวิตมีรสชาติ แซ่บเหมือนเดิม สามีเข้ากับ "เบลิน" ลูกชายได้เป็นอย่างดี พร้อมเผยเข้ากับภรรยาเก่าของสามีได้ดี ส่วนแฟนใหม่ของสามีเก่าก็ได้เจอ ไม่กีดกันพ่อกับลูก

 

ชีวิตหลังแต่งงาน เป็นเหมือนที่คิดไหม?

"จริงๆ เขาก็ทำเหมือนเดิมมาโดยตลอด เขาทำให้เรารู้สึกมั่นใจได้ว่าเราจะมีความสุข มันก็ทำให้เรายิ่งรู้สึกว่าเราจะไม่กังวลว่าอนาคตเราจะไม่มีความสุข หรือจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป แต่รู้สึกว่ายิ่งเติมเต็มกว่าเดิมอีก พอเห็นลูกเราอยู่กับเขาได้ เราก็สบายใจ เราก็จะได้โฟกัสกับการใช้ชีวิตเราได้เต็มที่ เขาก็บอกว่าชีวิตดียิ่งขึ้น ดีกว่าเดิมอีก"

 

เรื่องอายุมีปัญหาไหม?

"ไม่ค่ะ เพราะเมญ่าจะมีความคิดที่โตกว่าตัว ส่วนเขามีความเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว และชีวิตที่ผ่านอะไรมาค่อนข้างเยอะ แต่เขายังมีความเป็นวัยรุ่น มันเลยทำให้มีความแมชกัน เขายังฟังเพลงแบบที่เราฟัง เราซะอีกที่ชอบฟังเพลงเก่าๆ ไลฟ์สไตล์ก็เลยตรงกัน ชีวิตตรงกัน กิจกรรมที่ชอบทำก็เหมือนกัน จริงๆ หนูได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่เราเคยคิดว่าคงไม่ได้ทำหรอก แต่ได้ทำกับเขา ไปสกีด้วยกัน กลายเป็นกิจกรรมที่รอคอยกันทั้งปีเพื่อที่จะได้ไปสกี และปีนี้ก็จะพาลูกไปด้วย"

 

กังวลเรื่องลูกมั้ยก่อนหน้านี้?

"พูดตรงๆ ว่าไม่มีเลยตั้งแต่แรก เพราะการที่เมญ่าจะเปิดใจรักใครสักคน อันดับแรกจะดูว่าเขากับลูกเราโอเคมั้ย นี่หนักเลย กลางคืนลูกตามหาเขาด้วยนะ ความกังวลเรื่องลูกไม่มีเลย เพราะลูกของเขาเองก็สนิทกับเรา ภรรยาเก่าเขาก็โอเคกับเรา คือฝากกันได้ ชีวิตครอบครัวดีค่ะ"

 

จะมีอีกคนไหม?

"กำลังปั้นอยู่ค่ะ ปั้นหนักมาก (หัวเราะ) คือตอนแรกเขาไม่ได้อยากมี ด้วยความที่เขาก็มีลูกมาครบทั้งสองเพศแล้ว บวกเบลินเข้าไปอีกก็ 4 คนแล้ว ฉะนั้นเรื่องลูกเขาก็เลยไม่ได้ซีเรียส แต่พอเขาเจอเรา เขาก็เลยอยากมีน้อง ซึ่งตอนนี้เราก็พร้อมมากค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เมญ่าอยากมีลูกสองคนมาตั้งแต่แรก แต่ด้วยสถานการณ์ชีวิตมันอาจจะไม่พร้อมที่จะมีเลย และใจจริงอยากจะโฟกัสกับลูกให้ 3 ขวบปีแรกให้เต็มที่ไปก่อน เพื่อที่จะได้โตอย่างมีคุณภาพ ตอนนี้เบลินก็ 4 ขวบแล้ว ก็น่าจะพร้อมแล้วค่ะ"

 

สามีดูเราเลี้ยงลูกแล้วว่ายังไงบ้าง?

"เบลินเลี้ยงง่ายนะคะ แต่เขาแค่ซนตามวัย แต่เลี้ยงง่ายมาก ตัวเขาเองก็อยากมีน้องมาก เขาชอบมานั่งคุย เวลาหนูกินข้าวอิ่มๆ ท้องก็จะป่อง เขาก็จะบอกว่าม่ามี๊เบบี้ นางขอกลับเข้าไปได้มั้ย หนูก็บอกว่าไม่ได้ลูก ลูกโตแล้ว (หัวเราะ)"

 

ตอนนี้ก็ปล่อยธรรมชาติแล้วใช่ไหม?

"ปล่อยแล้วค่ะ (ยิ้ม) ก็ตั้งเป้าว่าถ้าภายในต.ค.ก็ยังเป็นลูกสาวอยู่ เพราะว่าดูปฎิทินจีน (ยิ้ม) ตัวเขาเองก็อยากได้ลูกสาวค่ะ (ยิ้ม)"

 

จดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?

"เรียบร้อยแล้วค่ะ กลับไปจดล่าสุด เอาจริงๆ รอบนี้เหมือนแต่ง 4 รอบ งงมาก เพราะพิธีแรกหลวงพี่ที่วัดก็จัดง่ายๆ แล้วก็แต่งที่ภูเก็ต แล้วก็กลับไปแต่งที่สเปน พอหลังจากสเปน 1 เดือนก็ได้จดทะเบียนเรียบร้อย เลยเหมือนแต่ง 4 ครั้ง เหนื่อยค่ะ (หัวเราะ)"

 

 

ความรักครั้งนี้ดูลงล็อคทุกอย่าง?

"มันเป็นความเข้าอกเข้าใจกันด้วยค่ะ ความซื่อสัตย์ที่เขามีให้เรา เรามองหน้าเขาก็รู้ได้เลยว่าเขาไม่ไปมองคนอื่นหรอก และเขาก็มีความสุขที่เราได้อยู่ข้างเขา การได้ตื่นมาพร้อมกันมันคือความสุขที่สุดในแต่ละวัน การได้กลับไปนอนอยู่ข้างๆ กันนั่นคือสิ่งที่มีความสุขที่สุดก่อนหลับตา มันเป็นความสุขง่ายๆ ที่เราไม่ต้องใช้เงินซื้อเลย แค่อยู่ใกล้ๆ กันก็มีความสุขที่สุดแล้ว"

 

คาดหวังกับรักครั้งนี้ไหม?

"หนูรู้สึกว่าไม่ได้อยากคาดหวังอะไรแล้ว เพราะสิ่งที่มีตอนนี้ก็เกินคาดหวังแล้วค่ะ ความสุขที่มีก็เท่ากับสิ่งที่เราโหยหามาตลอดชีวิตแล้ว"

 

ที่โพสต์ว่า "ผัวที่ดีเท่ากับผัวใหม่"?

"วันนั้นที่อยู่กับพี่หนิง (ปณิตา) เราก็อยากให้กำลังใจพี่ แล้วเจ๊แกก็หัวเราะขึ้นมาเลย (ยิ้ม) หนูก็บอกว่าแม่สู้ๆ นะ ยังไงก็ผ่านได้ ถ้าผ่านครั้งนี้ไปได้มันก็จะมีแต่ความสุขอยู่ข้างหน้า เราเข้าใจหัวอกของคนที่ผ่านอะไร และต้องอดทน เราก็เลยอยากให้พี่เขาก้าวข้ามผ่านไปให้ไว พอก้าวข้ามผ่านไวพี่ก็จะมีเวลามีความสุขได้เร็วมากขึ้น (ยิ้ม)"

 

คิดมั้ยว่ามันจะเป็นมีมที่คนชอบ?

"หนูไม่ได้คิดอะไรเลย หนูพูดอยากให้พี่เขาหัวเราะ ให้พี่เขาแฮปปี้ ไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่ได้คิดว่าจะเป็นมีมอะไร (หัวเราะ) แต่เอาจริงๆ ส่วนใหญ่ถ้าในสถิติที่มองนะคะ ทุกคนก็จะใช้การพิจารณาของความต้องการมากขึ้นในชีวิต (ยิ้ม) เหมือนคนเราเคยล้มมาแล้ว เราก็จะรู้ว่าเราจะต้องเดินยังไงไม่ให้ล้ม เราก็จะพิจารณากับช้อยส์ที่เรากำลังจะเลือกให้ดีกว่าเดิมมากที่สุด ดังนั้นการผิดพลาดแบบเดิมก็จะน้อย"

 

 

ให้เราแนะนำคนที่ยังไม่กล้าก้าวออกมา?

"ในมุมของเมญ่าที่อยากจะให้มองก็คืออันดับแรกถ้าเราอยู่ในสภาวะของครอบครัว ทุกคนอยากจะทำให้มันดีที่สุดแหละ ก็ทำให้ดีที่สุดค่ะ จนเรารู้สึกว่ามันไม่มีทางไหนที่จะแก้ได้แล้ว และถ้าเราเดินออกมาแล้วเราไม่เสียใจกับสิ่งที่เราพยายามให้ดีที่สุด แต่ถ้ามันทำแล้วไม่เวิร์คและไม่ได้ทำให้เรามีความสุข การที่คนที่เป็นผู้หญิงหรือคนที่เป็นแม่หนึ่งคน มันจะส่งผลให้ลูกและอนาคตของลูกไม่มีความสุข"

 

"การแต่งงานหรือชีวิตครอบครัวมันก็จะเป็นตัวอย่างของเขา ถ้าเขาจะต้องตื่นมาทุกวันและเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน ตะโกนใส่กันทุกวัน มันไม่มีทางที่เด็กจะมาสร้างครอบครัวที่มีความสุขได้ ฉะนั้นการที่เราปรับชีวิตเรา มันกำลังจะเปลี่ยนชีวิตของอีกคนนึงด้วย ซึ่งเป็นลูกของเรา ดังนั้นอย่ากังวลกับสิ่งที่คนมองว่ามันจะเป็นการล้มเหลว มันไม่ใช่การล้มเหลวค่ะ มันคือบทเรียนของชีวิต มันคือบทเรียนนึงที่เข้ามาพิสูจน์ให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้วจุดนี้เรามีความสุขแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีความสุขก็แค่เดินหน้าต่อไป และค้นหาสิ่งที่มันเหมาะกับตัวเราเอง"

 

"หนูมองว่าทุกคนเกิดมามีทางเลือกที่จะมีความสุข อยู่ที่ว่าเราพร้อมที่จะรับมันหรือยัง หรือเลือกที่จะให้โอกาสกับตัวเองหรือยังเท่านั้นแหละ ของเมญ่าเองก็ยังให้ลูกได้เจอกับคุณพ่อของเขา ฝั่งพ่อเขามีแฟนใหม่ เราก็แฮปปี้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แค่ในพาร์ทของสามีภรรยาเราแค่ไปกันไม่ได้ แต่ในพาร์ทของคุณพ่อก็ยังเป็นผู้ปกครองที่ดีได้ และถ้าความสัมพันธ์ของครอบครัวใหม่เขา และครอบครัวใหม่เรา แม้กระทั่งอดีตของครอบครัวเรามันรวมกันได้ มันยิ่งทำให้เด็กมีความรักมากขึ้นค่ะ"