บันเทิง

'หนิง ปณิตา' ยังไม่หย่า เผย หาจิตแพทย์ทั้งครอบครัว ยังอยู่บ้านเดียวกับ 'จิน'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'หนิง ปณิตา' ยังไม่หย่า เผยสภาพจิตใจ ลูกสาว 'น้องณิริน' เป็นกำลังใจสำคัญ ครอบครัวหาจิตแพทย์ทั้งบ้าน รับ ยังอยู่บ้านเดียวกับ 'จิน'

เดินหน้าใช้สิทธิ์ความเป็นเมียหลวง ฟ้องร้องมือที่ 3 อย่างต่อเนื่อง สำหรับพิธีกรสาว "หนิง ปณิตา" หลังก่อนหน้านี้ ได้ขึ้นศาลฟ้องสาวบุคคลที่ 3 โดยศาลได้นัดไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่คู่กรณีกลับเบี้ยวนัด โดยหนิงมีกำหนดขึ้นศาลเพื่อไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันที่ 4 ต.ค.66 ที่ศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง 

 

ล่าสุด วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา "หนิง ปณิตา" ก็ได้ออกมาอัปเดตความคืบหน้า เผยว่าจนวันนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ มาจากฝ่ายไหนทั้งสิ้น แต่ยืนยันเดินหน้าฟ้องร้องต่อแน่นอน รวมถึงสภาพจิตใจของตนเอง และลูกสาว "น้องณิริน"

 

โดย "หนิง ปณิตา" ได้ออกมาอัปเดตว่า... "ความคืบหน้ายังเป็นวันเดิม (4 ก.ค.66) อยู่นะคะ ยังไม่ได้มีการติดต่อกลับมาจากทางใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ มีเรื่องอะไรมากระทบจิตใจเพิ่มนิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นจุดที่เอามาทำให้รู้สึกว่ามันจะแย่ลง หนิงว่าพอเวลามันเดินผ่านไปข้างหน้า มันก็จะเดินไปข้างหน้าได้แบบที่ดีขึ้นทุกวัน โชคดีของหนิงคือหนิงมีณิริน เขาเป็นเด็กที่พยายามที่จะเข้าใจและปรับตัว แก้ไขและปรับปรุง แล้วก็ให้กำลังใจ พอวันนี้เราเอาลูกเราเป็นหลักใหญ่ที่สุด มันก็เป็นกำลังใจ ที่ทำให้เรามองข้ามเรื่องอื่นไป"

 

"จะบอกว่าไม่เหนื่อย ก็คงไม่ใช่ ก็รู้สึกเหนื่อย เซ็ง เบื่อ แต่ก็ไม่เอามาเก็บเป็นอารมณ์ค่ะ อย่างที่บอก เวลาเราเห็นรอยยิ้มของลูกเรา เราเห็นความพยายามเข้าใจ ความพยายามในหลายๆ เรื่องของลูกเรา ที่พยายามปรับตัวกับเรา มันทำให้ทุกเรื่องมันเป็นเรื่องเบาไปเลย แล้วมันก็ทำให้เรามีแรงฮึด มีพลังที่จะทำเรื่องดีๆ ออกมาทำงาน มาเจอผู้คน ใช้ชีวิตให้มันเป็นปกติ มีรอยยิ้ม แล้วก็กลับมาทำงานหาเงิน"

 

 

ทางด้านสภาพจิตใจ และความรู้สึกของ "น้องณิริน" ลูกสาว "หนิง ปณิตา" เผยว่า...

 

"มันก็ไม่ง่ายสำหรับเด็กคนหนึ่ง หนิงก็ขอบคุณ ทะเลาะกันตลอดนะคะ แต่การทะเลาะกัน เหมือนเราเป็นเพื่อนกัน ณิรินเองในภาวะแบบนี้ เขาก็เป็นเด็กคนหนึ่ง ที่สอนให้เรารู้จักที่จะเรียนรู้ในหลายๆ เรื่อง เช่นเดียวกับการที่เขาเอง เขาก็ต้องเรียนรู้ในหลายๆ เรื่องที่มันเกิดขึ้น"

 

"หนิงจะพูดกับน้องเสมอ เวลาเราเจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไร ตั้งแต่เรายังอายุน้อยๆ ถือว่าเป็นความโชคดีของเรานะ เพราะแต่ละปีๆ เหมือนเราเรียนหนังสือ เราก็จะต้องเรียนสิ่งที่ยากขึ้นไป ถ้าเราผ่านมันไปได้ เดี๋ยวเราก็จะเจอเรื่องยากกว่านี้ แต่ถ้าเราผ่านมันไปไม่ได้ เรื่องของปีนี้ก็จะไปทบเรื่องของปีหน้า เรื่องของปีหน้าก็จะไปทบเรื่องของอีกปีหนึ่ง ก็พยายามอธิบายให้เขาฟัง คุยกับเขาเยอะๆ ก็เรียกว่าเบื้องบนเมตตา เพราะทุกวันนี้อย่างที่บอกแหละ เวลาไหว้พระไหว้เจ้า หนิงอธิษฐานอย่างเดียว ว่าขอให้ลูกหนิงมีความเข้าใจ แล้วก็เป็นเด็กดี เป็นคนดี หนิงขอแค่นี้"

 

ในฐานะแม่คน หนิงยอมรับว่า ยากทุกครั้งที่ต้องอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้ลูกฟัง เพราะมองว่าในการอธิบายเรื่องๆ หนึ่งให้เด็กฟัง ต้องประเมินว่าควรพูดแค่ไหน และต้องไม่คาดหวังว่าลูกจะเข้าใจทั้งหมดกับสิ่งที่พูดไป เพราะลูกยังเด็ก แต่ลูกก็พยายามที่จะเข้าใจ และสิ่งที่ทำให้อึ้งและน้ำตาไหล คือลูกเดินมากอดมองหน้าเวลาตนเหนื่อยหรือท้อ บอกว่าแม่สู้ๆ นะ หนูอยู่ตรงนี้ หนูส่งพลัง หนูกอดๆ หนูเป็นกำลังใจให้แม่ แต่ยังไม่เคยร้องไห้หนักให้ลูกเห็น แต่จิตแพทย์แนะนำ ต้องแสดงความอ่อนแอบ้าง

 

"ยังไม่เคยถึงขั้นแบบน้ำตาไหลพราก แต่ระยะหลังนี้ มันก็จะมีแบบ พอเราสองคนมีการคุยกับคุณหมอด้วยกัน มันก็จะมีมุมที่เขาก็แสดงออกมาให้เราเห็น เราก็มีมุมที่บางทีเราไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้ แต่ประเมินแล้วว่ามุมนี้ให้ลูกรับรู้ได้ ก็ให้ลูกเห็นในมุมของความอ่อนแอของเราบ้าง เราคุยกับจิตแพทย์ ทั้งตัวหนิงเอง ตัวน้อง แล้วก็คนในครอบครัวทั้งหมดค่ะ"

 

"คือก่อนหน้านี้หนิงจะมีการไปคุยกับหมอเป็นระยะๆ ตั้งแต่น้องเกิดมา เพราะเราอยากที่จะเรียนรู้ที่จะเข้าใจเด็ก คำว่าช่องว่างระหว่างวัยเราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ว่าจริงๆ มันเกิดขึ้นได้ เราอยากเข้าใจเด็ก ต้องพูดคำไหนให้เขาเข้าใจเรา แต่ช่วงหลังๆ มานี้ มันจะไม่ใช่แค่หนิงกับน้อง แต่ยังมีคุณอา คุณยาย แล้วคนที่อยู่รอบข้างหนิง ที่มีผลต่อความรู้สึกของณิริน เราก็จะไปกันหมด แล้วเราก็จะมีการบ้านมา ว่าต้องทำแบบนี้ๆ ก็ช่วยกันค่ะ"

 

"มันเป็นการฮีลกันทั้งหมด แล้วข้อดีคือระหว่างแม่กับหนิงเอง บางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจเรา มันก็ส่งผลให้เรามีพฤติกรรมแบบนี้ออกมา เราก็เข้าใจแม่เรา เขาก็เข้าใจเรา เราก็เข้าใจลูก ในก็กลายเป็นเรื่องของทั้งครอบครัวค่ะ หนิงว่ามันเป็นเรื่องที่ดี เพราะสุดท้ายแล้วคำว่าครอบครัวสำคัญ สำหรับการเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่ง ที่จะทำให้เด็กคนหนึ่งเติบโตขึ้นไป ได้อย่างที่เขารู้สึกว่า เขายังมีอีกหลายๆ คนที่พร้อมจะโอบกอดเขา"

 

โดย "หนิง ปณิตา" ยังได้เผยด้วยว่า กับสามี "จิน-จรินทร์ ธรรมวัฒนะ" ยังเจอกันอยู่ เพราะยังอยู่ในบ้านเดียวกัน ในส่วนของพ่อกับลูกยังมีปฏิสัมพันธ์กันปกติ

 

\'หนิง ปณิตา\' ยังไม่หย่า เผย หาจิตแพทย์ทั้งครอบครัว ยังอยู่บ้านเดียวกับ \'จิน\'

 

\'หนิง ปณิตา\' ยังไม่หย่า เผย หาจิตแพทย์ทั้งครอบครัว ยังอยู่บ้านเดียวกับ \'จิน\'

 

\'หนิง ปณิตา\' ยังไม่หย่า เผย หาจิตแพทย์ทั้งครอบครัว ยังอยู่บ้านเดียวกับ \'จิน\'

 

\'หนิง ปณิตา\' ยังไม่หย่า เผย หาจิตแพทย์ทั้งครอบครัว ยังอยู่บ้านเดียวกับ \'จิน\'

 

\'หนิง ปณิตา\' ยังไม่หย่า เผย หาจิตแพทย์ทั้งครอบครัว ยังอยู่บ้านเดียวกับ \'จิน\'

 

\'หนิง ปณิตา\' ยังไม่หย่า เผย หาจิตแพทย์ทั้งครอบครัว ยังอยู่บ้านเดียวกับ \'จิน\'

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ