'อั้ม อธิชาติ' โดนบูลลี่เป็นเกย์ เจอข่าวฉาวรุมเร้าในอดีต จนเป็นบาดแผลในใจ

ห่างหายจากงานละครไปนาน สำหรับ พระเอกหนุ่มหุ่นล่ำ "อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์" ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดใจ เล่าถึงปมข่าวฉาวในอดีต ที่โดนทั้ง "พระเอกปากแดง" หรือ "พระเอกตัว อ." และกระแสข่าวลือแต่งงานกลบข่าวเกย์ จนเป็นที่มาของฉายา "เจ้าพ่อโดนบูลลี่" จนกลายเป็นกระแสด้านลบที่รุมเร้า จนรู้สึกแอนตี้สังคม กลายเป็นบาดแผลในใจ ถึงขนาดไม่อยากออกจากบ้าน ทั้งหมดนี้ในรายการ WOODY FM

 

อั้ม อธิชาติ เผยว่า "ผมคิดว่าน่าจะเป็นรุ่นแรกๆ เลยที่เข้าวงการบันเทิงมายุค 90 ประมาณนั้น ผมเข้ามาในปี 1997 จากการประกวด สมัยก่อนเริ่มต้นเป็นเด็กขี้อาย เป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก และตั้งใจไว้เลยว่าวงการบันเทิงเป็นอาชีพที่จะไม่ทำเลย เด็กๆ เราก็อยากเรียนวิศวะ อยากเรียนหมอตามความคิดเดิม"

 

อีกทั้งพระเอกหนุ่ม อั้ม อธิชาติ ยังบอกด้วยว่า "วงการบันเทิงดูไม่จริงใจ ไม่ชอบสิ่งที่หลอกลวง ตอนเด็กๆ เราคิดแบบนั้น เราเองไม่ใช่คนที่ชอบแสดงออกก็เลยไม่อยากทำ จนจับพลัดจับผลูเข้ามาจริงๆ เรียกว่าไม่ใช่แรงผลักดันนะเป็นแรงคุณแม่ถีบ คือแม่พยายามจะให้ไปประกวด ให้ไปทำโน้นให้ไปทำนี่จนได้เข้าวงการมา ช่วงแรกๆ ผมเล่นละครแข็งเป็นหุ่นยนต์เลย ไม่ชอบแสดงออกไม่ชอบเข้าสังคม โลกส่วนตัวสูง ก็เลยเป็นที่มาของการไม่ชอบออกรายการ"

 

 

ก็คือเลือกที่จะคุยหรือไม่คุย ?

อั้ม อธิชาติ : เลือกที่จะไม่คุยเพราะบางทีเรารู้สึกว่าไม่ได้อยากสื่อสาร เป็นคนไม่ชอบพูดเรื่องของตัวเองออกไป แล้วช่วงเด็กๆ เราแผลเยอะเหมือนกัน เฉพาะข่าวฉาวหนึ่งในนั้นมี อธิชาติ ชุมนานนท์ แน่นอน เยอะมาก ในสมัยก่อนอาทิตย์หนึ่งต้องมีอธิชาติ 1-2 วัน เชื่อไหมตื่นเช้ามาเมื่อก่อนนะ ลงมาจากบ้านหยิบหนังสือพิมพ์ทุกครั้งจะเปิดหน้าบันเทิงก่อนวันนี้จะมีชื่อเราไหมน้า เมื่อก่อนจะมี พระเอกปากแดง พระเอกตัว อ. อย่างงั้นอย่างงี้มีทุกเรื่อง แม้กระทั่งแต่งงานไปแล้วนะ ก็มีบอกว่าเขาแต่งกลบหรือเปล่านะ เป็นแล้วพยายามแต่งหลบเลี่ยงหรือเปล่า เมื่อก่อนแรกๆ ผมเป็นข่าวกับมดดำเยอะมาก ตั้งแต่เราเจอกันเด็กๆ ตามสำนักเข้าทรง คือในสมัยก่อนเราจะหน้าขาวปากแดง คือจำได้ว่าปากแดงมาเข้าฉาก ผู้กำกับบอกว่าไปลบปากได้ไหม ผมก็บอกว่าผมไม่ได้ทามันเป็นแค่ลิปมัน คือด้วยความที่เด็กๆ เราขาว เราก็จะโดนมาตลอด ข่าวของการเป็นเกย์ก็มี ข่าวผู้หญิงก็มีเยอะ จนบางทีเราก็นั่งถามตัวเองเหมือนกันนะว่าตกลงจะระบุเพศไหนให้กูกันแน่ เราก็เลยรู้สึกว่าค่อนข้างแอนตี้กับการสื่อสาร เด็กๆ เราก็จะจัดการตัวเองไม่ถูก เลยรู้สึกว่าทำไมสังคมทำแบบนี้กับเราไม่เข้าใจ บอกแบบนี้แล้วทำไมสังคมหรือนักข่าวก็ยังเอาเราไปนินทาสนุกสนานทั้งที่เราทุกข์มากนะ

 

ทุกข์แค่ไหน?

อั้ม อธิชาติ : รู้สึกว่าไม่อยากออกจากบ้าน ไม่อยากจะเจอใคร บางทีมองหน้าคนจะคิดไปเลยว่าคนนี้จะต้องคิดแบบนี้กับฉัน เพราะบางทีไม่ใช่แค่คิดเราเดินไปไหนก็ได้ยินเขาแอบกระซิบกระซาบกัน เคยไปงานหนึ่งผมแค่เดินหันหลังกลับมานิดเดียว ได้ยินอั้มไงคนนั้นที่เป็นเกย์อย่างงี้เลย ในสมัยก่อนผมมีเพื่อนที่เป็นเพศที่ 3 เยอะมาก จะมีข่าวขนาดไหนไม่ว่ายังไงผมก็ไม่สนเพราะนี่คือเพื่อน เราให้ความเคารพในความเป็นเพื่อนเขาจะเป็นยังไงก็แล้วแต่

 

ทุกวันนี้ยังโดนบูลลี่อยู่ไหม?

อั้ม อธิชาติ : ก็คงน้อยลงครับ ถ้าบูลลี่แปลว่าเราถูกพูดเยอะในที่สาธารณะ ซึ่งสมัยเด็กเราก็มองว่าเป็นบาดแผลอย่างหนึ่ง เป็นการเติบโตอย่างหนึ่งให้เราได้เรียนรู้

 

ตอนที่คบกันหรือแต่งงานกันแล้ว เวลาคุณโดนแซวว่าเป็นเกย์ "นัท มีเรีย" เคยมาพูดไหมว่าโดนแซวอีกแล้ว?

อั้ม อธิชาติ : (หัวเราะ) เคย ตอนแรกเราไม่รู้หรอกพี่วู้ดดี้ คบกันไปสัก 1 ปีเขาถึงมาบอกความลับว่า เขาเองก็ไม่มั่นใจ เขาเองก็ได้ยินคนมาเยอะนะ เขาต้องเอาดวงไปตรวจดู  ดู 2 รอบด้วย (ยิ้ม)

 

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.