
นักธุรกิจหมื่นล้าน 'แอ็คมี่' เล่าโมเมนต์ขอ 'นนนี่ ณัฐชา' นางเอกดัง แต่งงาน
"แอ็คมี่" ศิลปินร็อคเจ้าของฉายาวงร็อคเพื่อนรักนักเทรด อยู่ระหว่างที่ซุ่มทำผลงานเพลงใหม่ของวง DoubleDeep ทำดับเบิลเซอไพรส์ขอแต่งงานนางเอกสาว "นนนี่ ณัฐชา" พร้อมกับเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่ ทุ่มงบกว่า 10,000 ล้านบาท ลุยลงทุนใน (UAE)
"แอ็คมี่ DoubleDeep" หรือ "วรวัฒน์ นาคแนวดี" ศิลปินร็อคเจ้าของฉายาวงร็อคเพื่อนรักนักเทรด แถมยังเป็นเทรดเดอร์ชื่อดังที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในตลาดโลกมานานกว่า 10 ปีในนาม "Acme Traderist" รวมถึงยังเป็นซีอีโอของ บิทแนนซ์ (Bitnance) บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน เผยให้ฟังหลังสร้างเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานนางเอกสาว "นนนี่ ณัฐชา" ที่เมืองดูไบว่า นอกจากที่ชวนนางเอกสาวไปเที่ยวเพื่อขอแต่งงานแล้ว ยังได้เดินหน้าธุรกิจก้าวสำคัญ นั่นคือการจับมือกับ Mr. Panicker ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TransEuro Group บริษัทตัวแทนและให้คำปรึกษาที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มานานกว่า 20 ปี เพื่อลงทุนมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ในอุตสาหกรรมหลายชนิดในสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ (UAE) โดยเน้นที่เมืองดูไบเป็นหลัก
"ช่วงระหว่างที่ผมกำลังซุ่มทำเพลงใหม่ของวง DoubleDeep ผมก็คิดแผนเรื่องขอแต่งงานน้อง นนนี่ ไว้ในใจตลอดว่าจะขอเค้าที่ไหนดี คิดไว้เยอะมากทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ และพอดีกับที่ TransEuro Group ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ที่ปรึกษาในการทำธุรกิจที่ดูไบติดต่อมาว่ามีธุรกิจที่น่าลงทุกมากมายผมเลยตัดสินใจเดินทางไปเลย วางแผนตั้งแต่เมืองไทยว่าต้องการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน นนนี่ โดยเปลี่ยนบรรยากาศกลางทะเลทรายให้สวยงามเหมือนเรายกโรงแรมห้าดาวมาไว้กลางทะเลทราย ซึ่งยากมากแค่เดินสายไฟก็ยี่สิบกิโลแล้ว แถมยังมีการตกแต่งด้วยกุหลาบขาวจนทะเลทรายกลายเป็นเหมือนสรวงสวรรค์เลย โห แต่ก็คุ้มครับ เพราะบรรยากาศตอนคุกเข่าขอแต่งงานนี่เป็นอะไรที่เราสองคนรู้สึกดีที่สุดในชีวิต เพื่อคนที่เรารักอะไรก็ได้เสมอครับ
ก่อนอื่นเลยคือเรารู้ว่าทำแหวนไม่ทันแน่ ๆ เลยคุยกับทางร้านที่ออกแบบว่า ขอแหวนที่สามารถเอาไปแทนที่เหมาะสมก่อน เพราะโอกาสมาถึงแล้ว ซึ่งก่อนไปคุยงานทางพาร์ตเนอร์ครั้งนี้ทางโน้นก็แจ้งกำหนดการทั้งหมดว่าวันไหนต้องแต่งตัวอย่างไร เข้าพบใคร และดินเนอร์ที่ไหน ต้องทำยังไงบ้าง มีชุดธีมขาวที่ทางดูไบให้ผมเตรียมพอดี โดยชุดนี้เค้าให้รายละเอียดขนาดที่ว่าเป็นสูทสีขาว ต้องใช้ผ้าลินินเท่านั้น ดังนั้นคนที่ไปกับผมก็ต้องหาชุดเพื่อให้แมตช์กัน
ส่วนวันที่ขอแต่งงานตรงกับวันที่เราทั้งคู่ได้บินข้ามน้ำมาที่แนวทะเลทรายเพื่อมาขี่อูฐ ซึ่งตรงนั้นไม่มีร้านอะไรเลย พอลงจากเฮลิคอปเตอร์ก็มีรถ Rolls Royce Cullinan สีขาวมารับ พร้อมช่อดอกไม้ที่ผมสั่งเตรียมไว้มอบให้นนนี่ ทางนนนี่ก็แอบคิดสงสัยว่าวันนี้ผมจะต้องขอแต่งงานน้องแน่ ๆ และ เราก็นั่ง Rolls Royce ไปด้วยกันจนสุดทางที่รถจะไปต่อได้ เราจึงลงจากรถ แล้วเปลี่ยนมาขี่อูฐแทนประมาณ 15 นาทีมาจนถึงสถานที่ผมและทีมงานจัดเตรียมไว้ ซึ่งตรงนั้นจริง ๆ แล้วไม่มีอะไรเลย เป็นทะเลทรายว่างเปล่าแต่เราสร้างเป็นโต๊ะอาหารตัวเดียว กับ แคมป์สำหรับครอบครัวอีก 2 แคมป์ โดยการสร้างพื้นที่ดังกล่าวมีการลากสายไฟฟ้ามากลางทะเลทรายตามระยะทางหลายกิโล มีการขนเอาดอกกุหลาบขาวมาตกแต่งให้เป็นสถานที่ดินเนอร์ร่วมหลายพันดอก แก้วแชมเปญและผ้ากันเปื้อนสลักเป็นชื่อเราสองคน มีการแสดงดนตรีพื้นเมือง มีการโชว์การฝึกนกฟอลคอนและให้อาหารซึ่งเป็นกีฬาของราชวงศ์ UAE รวมถึงการเดี่ยวแซกโซโฟนจากศิลปินดูไบ
จนกระทั่งนนนี่ถามผมว่า "วันนี้พี่จะขอหนูเหรอ" ผมก็ทำได้แค่ยิ้ม ๆ และตอบไปว่า “พี่เตรียมตัวไม่ทันจริง ๆ แหวนก็เตรียมไม่ทัน แต่พี่ก็พยายามทำทั้งหมดนี้เพื่อให้ดินเนอร์ในคืนนี้เป็นดินเนอร์ที่ดีที่สุด และเป็นอีกวันที่น่าจดจำของเราสองคน"
ต่อมามีโชว์การเต้นระบำหน้าท้องอันมีชื่อเสียงของที่นั่นที่ออกแนวเซ็กซี่หน่อย ๆ นนนี่จึงพูดว่า “เชื่อละ มีแบบนี้ไม่ได้ขอแต่งงานแน่ ๆ” และตามมาด้วยโชว์กระบองไฟ นนนี่ก็ดูเหมือนจะร้อนใจจึงถามว่ามีไรหรือเปล่า จนนนนี่เริ่มถอดใจและพูดว่า "หนูจะรวบผมแล้วนะ"
จนกระทั่งผมชวนนนนี่ไปห้องน้ำ และพอเดินกลับมา ก็เจอจอหนังที่เปิดฉายภาพเก่า ๆ ของเรา และผมก็พานนนนี่เดินไปที่ชิงช้า นักแซกโซโฟนก็เป่าเพลง Perfect ของ Ed Sheeran ในระหว่างนั้นวงแหวนไฟยักษ์คำว่า "Marry Me" ถูกจุดติดขึ้นมาจนเพลิงไฟสว่างไปทั่ว ผมก็คุกเข่าลงและขอแต่งงานน้องท่ามกลางแสงไฟนั้น นี่คือเบื้องหลังการขอแต่งงานครั้งนี้ของเราครับ
นอกจากนี้ยังมีหลายคนสงสัยว่าผมไปทำอะไรที่ดูไบอีก จึงอยากเล่าในส่วนของ TransEuro Group ที่ผมได้ร่วมงานนั้นถือเป็นบริษัทระดับโลกมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 735,000 ล้านบาท และทำธุรกิจที่หลากหลายแบบ Luxury ทั้งธุรกิจน้ำมัน ทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ ชิ้นส่วนเครื่องบิน กลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ผมจึงตัดสินใจลงทุนใน UAE กว่าหมื่นล้านบาท (300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยให้ TransEuro Group เป็นที่ปรึกษา ซึ่งมั่นใจว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการวางรากฐานการขยายธุรกิจของผมให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน"