บันเทิง

'เอ๋ ไพโรจน์' ลั่น ไม่เข็ด 'วัยอลวน 5' เจ๊งยับ ลุยทำหนังใหม่ สร้างแพลตฟอร์มเอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลุยสร้างหนังใหม่ 'เอ๋ ไพโรจน์' เปิดใจ ไม่ท้อ 'วัยอลวน 5' เจ๊งยับ 100 เปอร์เซ็นต์ ลงทุนหลักล้านสร้างแพลตฟอร์มเอง ไม่ง้อโรงหนัง

นักแสดงรุ่นใหญ่ 'เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร' เปิดใจ ไม่เข็ด แม้หนัง "วัยอลวน 5" ที่ลงทุนทุ่มเงินสร้างไปกว่า 30 ล้าน จะเจ๊งยับ 100 เปอร์เซ็นต์ เผย กำลังลุยสร้างหนังเรื่องใหม่ ในฐานะคนที่รักหนังไทย ไม่ท้อ และครั้งนี้จะไม่ง้อโรงหนัง เพราะจะสร้างแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาเอง 

 

ซึ่งก่อนหน้านี้  เอ๋ ไพโรจน์ เคยออกมาอัดคลิป ตัดพ้อ ขอให้ทุกคนช่วย เพราะ หวั่นล้มละลาย หลังขาดทุนจากการทำหนัง วัยอลวน 5 โดยเจ้าตัวเล่า หนังเรื่องนี้ตั้งใจมาก ทั้งกำกับเอง แสดงเอง ลงทุนเอง กว่า 30 ล้าน พร้อมเผยว่าแท้จริงแล้ว หนังเรื่องนี้ เข้าโรงฉายครั้งแรก ไปเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 ฉายได้เพียงวันเดียว แต่ถูกโรงหนังสั่งหยุด และเลื่อนฉายออกไป ด้วยสถานการณ์โควิด ทั้งที่ตอนนั้นรายได้เปิดตัววันแรกดีพอสมควร

 

ล่าสุด เอ๋ ไพโรจน์ ออกมาเปิดใจ เล่าให้ฟังเกี่ยวกับประเด็นนี้ ที่งานพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ครอบเศียรหนุมานวายุบุตร เนื่องในวันวิสาขบูชา วัดไผ่ล้อมจัดพิธี วิสาขบูชารำลึก 111 ปีชาตกาล ครบรอบ18 ปี พระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข ละสังขาร

 

  • ตอนนี้กำลังทำหนังเรื่องใหม่อยู่?

"ตอนนี้ก็ยังรอ เรื่องเก่ามันยังขาดทุน 100% อยู่ กำลังพยายามที่จะทำแพลตฟอร์มเพื่อที่จะฉายแล้วให้คนเข้าไปดู คล้ายๆ เน็ตฟลิกซ์ บังเอิญคนถามว่าเยอะว่าทำไมไม่เข้าเน็ตฟริกซ์ก็คุยกับเขาแล้ว เขามีนโยบายมาจากต่างประเทศว่าถ้าหนังที่มันเป็นภาคต่อ แล้วเขาไม่ได้ซื้อมาตั้งแต่ภาคแรก มันเป็นนโยบายที่เขาบล็อกไว้ เพราะฉะนั้นเราก็เลยต้องทำเอง ก็กำลังทำ อีกประมาณ 2 เดือนน่าจะได้คลอดออกมาได้"

  • ทำเป็นรูปแบบไหน?

"อย่างเวลาเราไปดูเน็ตฟลิกซ์เราไปเสียเงินดูเป็นเดือน ตรงนี้ก็คล้ายๆ กัน คือเสียเงินเข้ามาดู เข้าไปแล้วได้สิทธิ์ดู วันสองวันอะไรก็แล้วแต่ จะประมาณนั้น เป็นแพลตฟอร์มที่เราทำขึ้นมาเอง"

 

  • แล้วทำขึ้นมาเองใช้เงินเยอะมั้ย?

"ไม่เยอะมาก แต่ต้องใช้ความรู้เยอะ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้เป็นคนที่มีความรู้ ก็ต้องไปรวบรวมความรู้ของคนอื่นมา คำว่าเยอะมันก็เป็นหลักล้านอะนะ แต่เราก็จะใช้วิธีการรวมคนที่เก่งมา วิธีการก็อาจจะทำจากเล็กแล้วขยายขึ้นไปเรื่อยๆ เปรียบเทียบง่ายๆ การทำแพลตฟอร์มก็เหมือนการสร้างบ้านนะครับ เริ่มต้นเราอาจจะสร้างบ้านเล็กๆ พอมีคนเข้ามาดูในปริมาณที่รองรับไม่พอเราก็ค่อยขยายขึ้นมา เพราะฉะนั้นในช่วงต้นเราคงจะไม่ได้ใช้งบสูงอะไรมาก ทำความเข้าใจคือ เราจะต้องไปเช่าเซิร์ฟเวอร์ ก็อยู่ที่ว่าเราไปเช่าพื้นที่มากน้อยแค่ไหน ยังไง การออกแบบต่างๆ ก็ต้องทำกราฟฟิก มันก็คือค่าใช้จ่าย แรกๆ เราก็ทำให้สมกับตัวเราเองก่อน แล้วค่อยๆ ขยาย"

 

  • จะมีหนังของเราคนเดียวหรือมีหลายๆ เรื่อง? 

"เรามีความรู้สึกว่าตลอดระยะเวลาที่ผมกลับมาทำหนัง โลกมันเปลี่ยนไปเยอะมาก สมัยก่อนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ทำหนังมา 11 เรื่อง เวลาเราจะไปเข้าโรง เวลาเราน้อยเขาก็จะให้เรา 1 โรง แต่เขาก็ให้เราทั้งวัน ฉายไป 3-7 วันไม่มีคนดู ถอดออก เราก็ไม่เสียดาย ทุกวันนี้เราก็ไม่รู้ เข้าโรงปั๊บให้เรารอบเดียว โรงเดียว แล้วให้เรารอบเช้า เรามีความรู้สึกว่ามันเป็นการทำธุรกิจที่มันไม่ยุติธรรมอ่ะ แล้วมันเป็นการทำลายวงการหนังไทย หนังไทยจะอยู่ไม่ได้ ถ้ามันยังไม่มีการแก้ไข"

 

"เราจะไม่ใช้คำว่าลองก่อน แต่เราจะเป็นผู้เริ่มต้น เพื่อความอยู่รอดต่อไปของหนังไทยต่อไป ในฐานะที่ผมก็เป็นคนที่รักหนัง และเป็นผู้สร้างหนังที่มีอายุพอสมควร ปัจจุบันเรามองเห็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือช่องทางของการที่เราจะนำเสนอ หนังไทยจะอยู่ไม่ได้ถ้าเราไม่มีช่องทางเลย ถ้าเราสร้างขึ้นมาแล้วทุกคนเข้ามาดู ผมก็จะพยายามรวบรวมหนังไทยโดยที่เราเป็นตัวเปิดเกม ปังปั๊บหลังจากนี้เราจะรวบรวมหนังไทยมา ซึ่งมันไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นหนังเข้าโรงใหญ่อย่างเดียว หนังสั้น สารคดี เราก็จะเปิดพื้นที่ให้เขา ถ้ามีเวทีให้เขาได้ลงเล่น ตรงนี้คือความอยู่รอดของหนังไทย"

 

"เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร"

 

  • ตอนนี้มีแค่เราที่สู้อยู่คนเดียว หรือมีคนอื่นคอยซัพพอร์ตด้วย?

"ผมคิดว่าทุกคนที่มีปัญหาคือแนวร่วมของเรา เพียงแต่มันไม่มีคนที่บุกเบิกนะครับ หรือมีบารมีพอที่จะกล้าขึ้นมางัดข้อกับใครเขา ทุกคนเขาก็จะกลัวความอะไรก็แล้วแต่ เราก็มองดูว่าทุกวันนี้บางครั้งเนี่ยเราก็คิดว่าคนที่เขาดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโรงหนัง ผมว่าเขาอาจจะคิดไม่ถูกนัก อย่างเช่น พอหนังเข้า เราชวนคนไปดู เขาจะถามว่าเน็ตฟริกซ์เข้าเมื่อไหร่ จะรอไปดูเน็ตฟริกซ์ กับสองบอกว่าอย่าเพิ่งดูเลยตอนนี้เดี๋ยวก็ลดราคา แล้วเมื่อก่อนลด 89 มา 69 เหลือ 39 บาท มันเป็นอย่างนี้ ตรงนี้ผมมองว่าเขาคิดไม่น่าจะถูก เพราะเป็นการทำลายกันทางอ้อม มันเป็นการด้อยค่าหนังไทยเรา ถ้าหนังฝรั่งมาขายเต็มราคา พอหนังไทยคนบอกไม่เอาเดี๋ยวรอดู ตรงนี้ต่างหากที่เป็นสิ่งที่คนรักหนังอย่างผมจะต้องมาหาวิธีแก้ไขกัน แล้วไม่ใช่แก้เพื่อตัวเอง แต่ต้องแก้เผื่อไปถึงน้องๆ ให้เขาได้มีเวทีเล่น ให้เขามีรายรับ จะเห็นเลยว่าตอนนี้แพลตฟอร์มมีแต่ของต่างประเทศ ถ้าเราร่วมใจกันแล้วมีแพลตฟอร์มสักอันที่เป็นที่รวบรวมหนังไทยตรงๆ แล้วถ้าทุกคนในประเทศไทยช่วยกัน ไม่ใช่ว่าช่วยผม แต่ช่วยคนทำหนังไทยทั้งประเทศ ก็จะเป็น Soft Power ที่สำคัญที่สุดที่เรากำลังพยายามพูดกันอยู่ตลอด การที่เราจะต้องสร้างความภารภูมิใจให้กับคนไทยตัวนี้สำคัญที่สุดเลย"

 

"เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร"

 

"เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร"

 

"เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร"

 

'เอ๋ ไพโรจน์' ลั่น ไม่เข็ด 'วัยอลวน 5' เจ๊งยับ ลุยทำหนังใหม่ สร้างแพลตฟอร์มเอง

 

 

logoline