
'เจนี่' ลงทุน 100 ล้าน ทำธุรกิจกับ 'วุ้นเส้น' ไม่ทิ้งละคร ยังมีสัญญา ช่อง 3
"เจนี่" ลงทุน 100 ล้าน ทำธุรกิจกับ "วุ้นเส้น" ไม่หวั่นมีปัญหา เผยทำธุรกิจเพื่อลูก ส่วนงานในวงการยังไม่ทิ้ง เพราะยังมีสัญญากับช่อง 3
มีลูกแล้ว งานในวงการอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำธุรกิจด้วย ล่าสุด "เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร" หรือ "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" ลงทุน 100 ล้าน ทำธุรกิจ เซวา ครีมโสมทองคำ กับเพื่อนซี้ "วุ้นเส้น วิริฒิพา" โดยเจ้าตัวบอกว่า ทำธุรกิจกับเพื่อนไม่หวั่นมีปัญหา มีอะไรบอกกันตรงๆ ทำธุรกิจเพื่อลูก ส่วนงานในวงการยังไม่ทิ้ง เพราะยังมีสัญญากับช่อง 3
ทำธุรกิจกับเพื่อนต้องปรับตัวกันยังไง?
จริงๆ ตอนแรกเราก็คิดเยอะ ทำกับวุ้นเส้น เราจะยังไง แล้วเราจะทะเลาะกันไหม เราเคลียร์กันตั้งแต่ทีแรกว่าเพื่อนมีอะไรบอกกันตรงๆ รู้สึกยังไงให้พูด จริงๆ การที่ทำธุรกิจเป็นอะไรที่สำคัญมากกับการที่เราไม่ต้องเก็บเอาไว้ ชัดเจนเคลียร์ตั้งแต่วันแรก
ทำไมถึงตัดสินใจทำธุรกิจกับเพื่อน ทั้งๆ ที่ก็มีหลายคนติดต่อเราเยอะเหมือนกัน?
ก็มีเหมือนกันค่ะ หนึ่งเองคือกับวุ้นเราสนิท อยู่กลุ่มเดียวกับเจนมาเกือบ 20 กว่าปีแล้ว เราร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาตลอด ทั้งตีกันๆ (ยิ้ม) จนมีวันนี้แล้วเจนก็มั่นใจว่าเราไม่ตีกันแล้ว ถึงเราจะตีกันเราก็จะตีกันในวงนี้ แต่เราไม่ตีกันเรื่องธุรกิจนี้แน่นอน
พี่ๆ ในกลุ่มมีบอกไหมว่าอย่าตีกันอีก?
ไม่ค่ะ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ดีกันอีก แต่ตีกันได้ ตีกันเพื่อให้เราเข้าใจกันมากขึ้น คุยกันปรึกษากันให้เข้าใจกันมากขึ้น (ยิ้ม)
แสดงว่าครั้งนี้ก็กว่าจะลงตัวกันได้?
ใช่ค่ะ เพราะการที่เราจะทำอะไรด้วยกันจริงๆ เราไม่สามารถที่จะเก็บเงียบได้หรือว่ามีอะไรในใจจนมันกลายเป็นปัญหาขึ้นมา เรามีอะไรเราคุยตรงๆ ชอบไม่ชอบ ถูกใจหรือยัง ไม่ถูกใจยังไง เมื่อกี้บนเวทีที่บอกครีมมีการแก้ไปเป็น 100 ครั้ง คือวุ้นอาจจะรู้สึกเหนื่อย แต่เจนก็บอกวุ้น หนึ่งคือเจนเสียหน้าไม่ได้จริงๆ คือมันเป็นยี่ห้อเจนแล้ว JT ก็คืออยู่บนกระปุกถ้าเจนใช้อะไรที่มันไม่มีคุณภาพแล้วเจนใช้ของไม่ดีหน้าเจนก็จะไปอยู่บนหน้าผู้หญิงทุกคน คนก็จะมาว่าเจนได้ ไหนว่าของดีไม่ได้ดีหนิ เราก็เลยต้องไปถึงเกาหลีไปดูสูตรด้วยตัวเอง
การทำธุรกิจกับเพื่อนมันมีข้อดียังไงบ้าง?
พอมันเป็นความรักของเราทุกคนก็เป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าเราได้แชร์ร่วมกันเราได้มีความไว้วางใจและรู้สึกว่าเราช่วยกันทำมาหากิน มันก็เป็นอีกขั้นของชีวิตเป็นสเต็ปที่เราจับมือไปพร้อมกัน นอกจากแต่ก่อนคือเจอกันกินข้าวกัน ตอนนี้เจอกันอยู่ด้วยกันช่วยกันทำธุรกิจ ช่วยกันทำมาหากิน (ยิ้ม)
ลงทุนไปเยอะขนาดไหน?
ก็อยู่ในงบ 100 ล้านค่ะ
เป็นการลงทุนที่เยอะที่สุดเลยไหม?
เยอะที่สุด ตั้งใจทำแล้วก็อยากให้มันออกมาดีที่สุด
วางงานในวงการบันเทิงกับธุรกิจไว้ยังไงบ้าง?
จะผิดไหมถ้าจะบอกว่าอย่างละครึ่งๆ (ยิ้ม) คือเจนก็ยังรักที่จะทำงานละครอยู่เพราะยังอยู่ช่อง 3 มีสัญญาอยู่ แต่ตรงนี้ก็เป็นเหมือนอีกบทบาทของชีวิตที่เจนเองก็รู้สึกว่าเราโตแล้วนะ ถ้าเจนมาทำธุรกิจหรือมาทำอะไรที่เรารู้สึกว่ามันชัวร์กับชีวิตแล้วทำให้ชีวิตเราเหมือนเป็นอีกระดับแล้วมีความมั่นคงขึ้นก็เป็นอะไรที่สำหรับวัยเราก็ควรที่จะเริ่มได้แล้ว
อะไรคือส่วนที่ทำให้เราคิดว่าชีวิตต้องมั่นคงขึ้น?
ลูก เจนอาจจะรู้สึกว่าเราต้องทำอะไรให้เขาเราต้องมีอะไรให้เขาแล้วก็รู้สึกว่าเหมือนกับเรามองตาเขาทุกเช้าแล้วเราก็จะ แม่อยากทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุดให้กับเขาได้ (ยิ้ม)
แบ่งพาร์ทดูแลลูกดูแลธุรกิจยังไง?
ครึ่งๆ ค่ะ
งานละครกลับมาหรือยัง?
กลับค่ะ ยังไงก็ต้องกลับเพราะเจนมีสัญญาช่อง 3 แล้วไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ มีอะไรติดต่อมาเจนก็ยินดีที่จะรับ
มีที่เราพิจารณาไว้บ้างไหม?
มีค่ะ (ยิ้ม)
บทบาทจะเปลี่ยนไปไหม ไม่รับดราม่าหนักแล้ว?
ไม่เกี่ยวค่ะ อะไรก็ได้ที่ขอเป็นงาน (ยิ้ม) เราห้ามเกี่ยงนะคะ ห้ามปฏิเสธงาน
แล้วเรื่องต่อไปจะเป็นแนวไหน?
แล้วแต่คุณผู้ชมเลยค่ะ (ยิ้ม) แต่เจนเองจะรู้สึกว่าเราอยากเล่นอะไรที่ท้าทายกับตัวเราเอง แล้วเจนว่าทุกคนน่าจะชอบอะไรแบบ ใจเริง มุนินทร์ หรืออะไรที่มันเหมาะเชียร์อยากให้เจนเล่นบทแรงๆ ก็กำลังดูอยู่ (ยิ้ม)