สามี ถูกโยงมีบ้านน้อย 'ชมพู่ อารยา' บอก ไม่มีใครชอบ ให้ใครมาแตะครอบครัว

ก่อนหน้านี้ "น็อต วิศรุต" นักธุรกิจหมื่นล้าน สามี "ชมพู่ อารยา" เจอข่าวลือ สามีนางเอกดัง มีบ้านเล็กบ้านน้อย "สามีของดาราคนคนนี้ดังมาก หล่อมาก ส่วนบ้านเล็ก เป็นสาวน้อยสวยมากเพียบพร้อม สามีของดาราสาวคนนี้หลงมาก ข้อมูลที่ได้รับมาบอกสามีพาสาวขึ้นคอนโดด้วย และยังเน้นย้ำเรื่องเอียงซ้าย" 

ทำเอา ดาราสาว "แทน ธนัชชา" ถูกโยง เหตุมีคนสังเกตเห็นน็อตมักกดไลท์ภาพของแทนในอินสตาแกรมบ่อยๆ ก่อนต้นสังกัด และคนใกล้ตัว ออกมาช่วยชี้แจงว่า "รู้จักกันนานแล้ว ในฐานะลูกจ้างที่ฟิตเนส"

ล่าสุด "ชมพู่ อารยา" ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ว่า "ก็ไม่ใช่แล้วไง ไม่มีใครชอบให้ใครมาแตะครอบครัว เราก็ให้คุณค่าเป็นอันดับ 1 คงไม่ได้ถึงกับจ้าอะรก็ได้ เกิดขึ้นกับใครก็ไม่มีใครชอบ ถามว่าคุยไหม ก็คุยแต่ไม่ได้ลักษณะว่า มันเป็นใคร! แต่ถามว่าใครทำอะไรเรา ถามว่า งง ไหมถูกโยง เราผิดหวังมากกว่า เรารู้สึกว่าเราไม่เคยรังแกใคร กับ "แทน ธนัชชา" ไม่ได้คุย เพราะไม่ได้ถึงจุดที่ไปเคลียร์ เพราะเรารู้เหตุผล เลยไม่ต้องคุยกัน เพราะเดือดร้อนก็เดือดร้อนทุกคน 

คุณน็อตก็ถามความรู้สึกเรา และแล้วแต่เราว่าอยากจะยังไง ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย ก็คงบอกว่าเราโกหก เพราะมีข่าวมันคือสังคม พอคนมองเข้ามา เราไม่สามารถห้ามอะไรใครไม่ได้ ไม่สามารถทำให้ทุกคนคิดเหมือนที่เราคิด เราอยู่ในวงการเรารู้อยู่แล้ว เราต้องปล่อย เราอยู่ของเราดีๆ ทำไมถึงเกิดขึ้น เราไม่ต้องตามหาก็คงมีคนบอก ลูกยังเด็กมาก คงยังไม่รู้เรื่องอะไร ขอบคุณทุกคนที่รักครอบครัวเรา เราซาบซึ้งจริงๆ 

ถ้าพูดไปเหมือนออกตัวแทนผู้ชาย เราไม่รู้สึกว่าต้องออกมาพูด ว่าเขาเป็นคนแบบนี้ ซึ่งคุณน็อตก็ไม่สนใจว่าคนจะมองเขายังไง ก็ไม่ใช่ที่เราต้องออกมาอธิบาย ถามว่าอะไรทำให้เรามั่นใจ เพราะเรารู้จัก เรามีภาพบางอย่างร่วมกัน ซึ่งมันไม่ควรที่ต้องถูกทำลายเพราะเรื่องนี้ เพราะเรามีอะไรที่เราทำด้วยกัน 

คนพยายามเข้ามาสามี ไม่เคยนะ ที่ผ่านมาไม่เคย และเราก็ไม่ได้โฟกัส หรือจับผิดว่าคนนี้มอง หรือคนนี้ดูหิว เราไม่เคยโฟกัส คนมองว่าสามีหล่อขึ้น เราก็ไม่ทราบ เพราะเราห้ามความคิดใครไม่ได้ แม้ว่าวันนี้สัมภาษณ์จบ เราก็ห้ามความคิดใครไม่ได้ แต่เรากลับรู้สึกว่าทำให้เราได้กลับมามองเป้าหมายที่เราวางไว้ด้วยกัน 

เรื่องมรดกหมื่นล้าน เป็นเรื่องที่เราคุยกันมาตลอด เป็นเพราะเราผ่านการสูญเสีย และอยู่ด้วยกันมานาน ตั้งแต่เขากลับมาใหม่ๆ เขาทำธุรกิจของที่บ้าน เราฟังความฝันของเขามาตลอด เราคุยกันตลอด ถ้าใครไม่อยู่ลูกจะยังไง ถ้าพี่ไม่อยู่จะทำยังไง เราคุยกันตลอด เรื่องพินัยกรรมให้ชมพู่แต่เพียงคนเดียว เราก็เขินเหมือนกัน ทุกอย่างก็ประมาณนั้น คิดว่าเขาคงไว้ใจเรา และเห็นว่าสุดท้ายถ้าใครคนหนึ่งไม่อยู่ คนที่เหลือก็ต้องดูลูก

ส่วน "ดิว อริสรา" เห็นกระแสข่าวก็ห่วง เรารู้จากข่าว ไม่อยากคอมเมนต์มาก เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ ก็ยังไม่มีโอกาสได้คุยกัน เรื่องมันเกิดขึ้นกับใคร ก็ล้วนแต่เป็นบาดแผล เพราะเราเองก็มีลูกสาว