'เอ๊ะ จิรากร' เล่าเหตุโดนต่อยหน้า หูได้ยินน้อยลง ผวาจนไม่กล้ากลับบ้าน

หลังจากที่เมื่อวานนี้ 5 ก.พ. 2566 นักร้องชื่อดัง "เอ๊ะ จิรากร" ถูกชายคนหนึ่ง ใส่เสื้อสีขาว เดินถือแก้วน้ำเข้ามาที่เวที ก่อนการ์ดของผับพยายามห้ามไม่ให้เข้าใกล้นักร้อง จากนั้นชายเสื้อขาว ได้ผลักการ์ดออกไป ก่อนจะใช้มือขวาต่อยหน้า เอ๊ะ จิรากร สาดน้ำใส่บริเวณหน้าเวทีอีกด้วย

 

โดย "เอ๊ะ จิรากร" เปิดใจในโหนกระแสว่า "ตรวจร่างกายแล้ว ระดับการได้ยินลดลงกว่ามาตรฐาน เพราะต่อยเข้าหู เขาไม่ได้เหวี่ยง จากภาพเห็นเลยว่าตัวเองกระเด็นไปไกลมาก เหตุการณ์วันนั้นเราเล่นเพลงที่ 5-6 เวลาประมาณ 00.30 น. ชายผู้ก่อเหตุส่งเหล้า เราก็ดื่มปกติ และเล่นดนตรีต่อ จากนั้น 10 นาที เขาเดินมาอีก ยื่นแก้วกับโทรศัพท์ให้ ซึ่งเรายื่นมือไปโอบ จะถามว่ามีอะไร แต่เขาไม่ทันกระซิบบอก แต่การ์ดมาดึงออก เขาก็เลยผลักการ์ด แล้วใส่ผมเลย 

ชายอีกคน ไม่ได้วิ่งไปห้าม แต่กะเข้าไปต่อยเอ๊ะซ้ำ แล้วมีเพื่อนเข้ามาอีก 2 คน ซึ่งมีการต่อยการ์ดด้วย คิดว่าถ้าไม่มีคนกลางคงโดนอีก เพราะยืนดูสถานการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เอ๊ะไม่เคยมีศัตรู วันนั้นก็ไม่มีการพูดแซว พูดสุภาพมาก แรกๆคิดว่าเขาตามหาแฟน แต่คิดว่าหลังๆเหมือนเขามุ่งที่จะหาผม คาดว่าเป็นการป่วน  

 

ส่วนที่เขาอ้างสะบัดมือแย่งไมค์ ถ้าแย่งไมค์เขาต้องคว้าที่มือ แต่เขาเข้าที่หน้าเลย ตนก็กังวล หลังจากนั้นให้ทีมงานช่วยเช็ก ว่าเขาเป็นใคร และต้องเปลี่ยนรถ ไม่กล้ากลับบ้าน และคุยกับผู้ใหญ่ว่าจะเอายังไงดี ไม่รู้ว่าเป็นแฟชั่นหรือเปล่า หรือการเลียนแบบ ด้วยสังคมที่เปลี่ยนไป เราก็อยากสร้างบรรทัดฐาน และขอความเป็นธรรม เพราะล่าสุดไปเล่นคอนเสิร์ตก็ยังกลัวๆ 

 

พร้อมเล่าย้อน ตอนที่การ์ดพาผู่ก่อเหตุออกไปที่รถ ทุกคนชะงักออกมาหมดเลย เพื่อนผมก็ออกมา บอกเอ๊ะมึงไปอยู่ห้องนักดนตรีก่อน รอให้เขากลับไปก่อน เพราะเห็นว่ามีอะไรไม่รู้ เรื่องอาวุธต่างๆ ผมก็ไม่ทราบเลย 

 

(คู่กรณีให้สัมภาษณ์ตามหาแฟน เมาสติหลุด ภาพถือปืนบีบีกันเป็นคอนเทนต์ ด้านป้าผู้ก่อเหตุ บอกเป็นปืนปลอม หลานเป็นคนดี) คิดว่าแปลกๆ ไม่ชอบมาพากล เพราะเหตุการณ์นี้ ทำให้ตนไม่กล้ากลับบ้าน เพราะวันที่เกิดเหตุ เขาขับรถออกไปอย่างเร็ว

 

ทั้งเล่าว่า ก่อนเล่าว่าช่วงที่เกิดเรื่องใหม่ๆ มีคนโทร.ขอ อย่าเพิ่งลงคลิป ทำให้ตนคิดว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ ไม่ธรรมดา ซึ่งหลังจากนี้ จะเดินทางไปแจ้งความต่อ (เขาบอกจะขอโทษ) ก็รับรู้ ให้ "กันจอมพลัง" จัดการ 

ด้าน "เวอร์" เจ้าของร้าน บอกว่า "เด็กเสิร์ฟเล่าว่าเขาเคยมา ช่วงกลางปี 2565 ตอนนั้นไม่มีปัญหาอะไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ส่วนตัวและพนักงานคิดว่าเป็นการป่วน ถ้าจะอ้างตามหาแฟน เป็นไปไม่ได้ แฟนเขาไม่ได้มาแถวนี้ จากที่ดูในกลุ่มไลน์พีอาร์ เพราะถ้าเขามาหาแฟน คงถามหาจากพีอาร์ด้วยกัน แต่ที่ดูจากกล้องวงจรปิด เวลาคอนเสิร์ตขึ้น ไม่ได้ดูว่ามีกิริยาสนุกสนาน เพราะตอนเอ๊ะร้องเขาเฉยๆ นั่งหันหลังให้เวทีด้วยซ้ำ แล้วเขาเรียกพีอาร์ไปนั่งที่โต๊ะ 3 คน พีอาร์บอกนั่งเงียบๆดูโทรศัพท์ เหล้าบนโต๊ะก็ยุบน้อยลงมาก (เขาให้ปากคำว่า ก่อนหน้านี้ดื่มมาแล้ว เมามาก ?) ดูทรงแล้ว ไม่น่าเมา เพราะปริมาณเหล้ายุบน้อยลงมาก น้องพีอาร์ที่นั่งที่โต๊ะ ก็ยืนยัน 

 

การ์ดชุดนี้ ร้านจ้างบริษัทภายนอก ไม่ใช่การ์ดของร้าน ถ้ามีคอนเสิร์ตก็จะจัดชุด 3-4 คนมา ก่อนหน้านี้อีกชุด อันนี้ก็หน้าใหม่หมดเลย ซึ่งตนก็ติงไป ทางบริษัทเขาก็ยอมรับผิด และขอโทษ 

 

ปกติร้านจะมีซุ้มทางเข้า มีการ์ด 1 คนคอยตรวจอาวุธ ซึ่งวันที่มีคอนเสิร์ต จะไม่มีคนไหนพกอาวุธได้ เพราะมีการ์ดคอยเช็ก คอยปั๊มแขน และมีการ์ดข้างเวที แต่พวกนั้นเขาตามการ์ดเข้าไป มีอะไรหรือเปล่าไม่รู้ เพราะการ์ดถอยออกหมดเลย เพราะตอนเข้าก็ไม่ยอมปั๊มแขน ก็รู้สึกแปลกๆ เพราะตอนคอนเสิร์ตก็เดินเข้าเดินออก 

 

ร้านได้รับผลกระทบ เสียหาย เพราะกระแสค่อนข้างแรง ยอมรับว่าการ์ดทำงานบกพร่องจริง คอนเสิร์ตครั้งหน้าต้องเข้มงวดกว่านี้ รวมถึงเวทีคอนเสิร์ต โดย เก๋ แอดมินเพจร้าน เล่าต่อว่า ว่าวันนั้นมีลูกค้าไม่พอใจ บางส่วนต้องคืนเงิน บางส่วนอยู่ต่อ แต่ต้องเข้าไปเคลียร์

 

ขณะที่ช่วงนึงของรายการ ได้มีการเปิดภาพรถ ของแฟน 1 ในผู้ก่อเหตุ ที่โดนทุบเสียหาย และปล่อยเสียงแฟนผู้ก่อเหตุ พูดคุยกับ เก๋ แอดมินเพจร้าน หัวหน้าพีอาร์ โดยในคลิปมีเนื้อหาทำนองว่า "เลิกกันแล้ว ไม่อยากยุ่ง ผู้ก่อเหตุคงไม่รู้ว่าวันนั้นตนไม่ได้ไปทำงานที่ร้าน เขาชอบทำร้ายร่างกาย เอาปืนจี้ เวลาเมาใครห้ามอะไรไม่ได้ กลัวไม่กล้ามาให้ข้อมูล"