
ตั้งแต่ทำตา "หม่ำ จ๊กมก" ก็ดูสดใสหน้าเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด
ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์อยู่ช่วงหนึ่งสำหรับการตัดสินใจทำศัลยกรรมของตลกชื่อดังอย่าง หม่ำ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือ หม่ำ จ๊กมก เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น
โดยตอนนั้น หม่ำ จ๊กมก ศิลปินตลกรุ่นใหญ่วัย 57 ปี เผยว่า ตัดสินใจทำศัลยกรรมเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ซึ่งเกิดจากอาการหนังตาตก ทำให้ไม่สามารถมองสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจนเหมือนเก่า
ซึ่งช่วงแรกของการพักฟื้น หม่ำก็เจอกับกระแสดราม่า กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต ที่ส่วนใหญ่หาว่าหม่ำอยากทำศัลยกรรมเพราะติดหล่อ หรือหน้าเก่าดีอยู่แล้วจะไปทำทำไม
แต่ภาพล่าสุดของ หม่ำ จ๊กมก ก็ทำให้ใครหลายคนที่เคยวิพากษ์วิจารณ์หม่ำในทางไม่ดีต้องกลับมาคิดใหม่ ซึ่งเป็นภาพที่ มด เอ็นดู ภรรยาคู่ชีวิตของหม่ำเป็นคนแชร์ผ่านอินสตาแกรม @motjokmok ของ มด เอง ซึ่งเผยให้เห็นใบหน้าในตอนนี้ของหม่ำที่ดูเปล่งปลั่งออร่าแบบสุดๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของดวงตาที่ดูเปล่งประกาย แถมยังดูกระชับอ่อนกว่าวัยขึ้นกว่าเดิมมากมายหลายเท่า ซึ่งแฟนๆ ก็คอมเมนต์ทักเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่ไปทำตามา หน้าของหม่ำก็ดูเด็กลงจริงๆ
ซึ่งการที่ "หม่ำ จ๊กมก" ตัดสินใจทำศัลยกรรมตัดหนังตา ก็เพื่อแก้ไขปัญหาหนังตาตก ทำให้ขนตาทิ่มตาตลอด แต่ตอนทำใหม่ๆ หม่ำก็ต้องเจอคอมเมนต์เชิง "บูลลี่"
ซึ่งหม่ำเคยพูดถึงเรื่องบูลลี่ดังกล่าวว่า “เคยให้สัมภาษณ์มานานแล้วว่า หนังตามันตกมา 4-5 ปีแล้ว ก็หาจังหวะ ไปคุยมา 6-7 เดือน กว่าจะไปทำ คือเราก็ตัดสินใจอยู่นานเหมือนกัน กลัวเจ็บ กลัวเขาจะอำ กลัวพวก "เท่ง-โหน่ง" จะอำ ว่าติดหล่อติดอะไรพวกนี้ จริงๆ ถ้าลองดูภาพเก่า-ภาพใหม่อ่ะ จะรู้เลยว่าด้านซ้ายเกือบจะปิดตาดำละ ขนตามันไปแหย่ตาดำ แล้วน้ำตามันก็ไหล มันก็จะมองไม่ค่อยชัด แต่ตอนนี้คือเราก็รู้สึกดีขึ้นมองเต็มตาขึ้น”
ส่วนที่ "เอ็ม บุษราคัม" ลูกสาว โพสต์ข้อความสงสารพ่อถูกบูลลี่ จริงๆ ก็ประสาลูกแหละ แต่บางทีก็ไม่อยากให้ไปต่อปากต่อคำ คนก็มีสิทธิ์พูดได้แหละ ติดหล่ออะไรบ้าง แต่เขาไม่เห็นหรอกว่าที่ทำมันมีปัญหาสุขภาพตาดำ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำวิจารณ์ เพราะคิดว่ามีแต่แฟนๆ และเขาเพียงแค่อยากเห็นหน้าเก่ามากกว่า ส่วนตัวไม่ได้อ่านคอมเมนต์ เพราะไม่มีโทรศัพท์ มีแต่ลูกเมียมาเล่าให้ฟัง ถึงอ่านก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก เขาคงจะเป็นห่วงมากกว่า หน้าเก่าไม่ดีกว่าหรอ ก็แล้วแต่คนจะคิด คิดอะไรก็ได้มันเสรีอยู่แล้ว ภาพรวมไม่ได้ซีเรียสอะไร"