โอ้โห "พิ้งกี้" เปิดภาพตัวเอง เป็นสาวผมสั้น หน้าสวยคมอลังการเหมือนเดิม

ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง สำหรับนางเอกสาว "พิ้งกี้ สาวิกา" หลังเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าหนี้ ตกเป็นข่าวฮือฮา เพจ ทีวีพูล TVPool โพสต์ภาพพิ้งกี้ถ่ายแบบกับนิตยสารทีวีพูล ฉบับที่ 1486 เดือนกุมภาพันธ์ เทศกาลแห่งความรัก หลังกลับมาสู่ชีวิตที่มีอิสรภาพอีกครั้ง ขณะที่พิ้งกี้แชร์ภาพดังกล่าว ลงในอินสตาแกรมสตอรี่ส่วนตัวบอกว่า "เมื่อสมัยยังผมยาว" ซึ่งภาพดังกล่าวนั้นเป็นภาพเก่า เนื่องจากตอนที่เธออยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ต้องตัดผมสั้นตามระเบียบ 

โดยล่าสุด "พิ้งกี้" ได้โพสต์ภาพตัวเองผมสั้น ผมสีน้ำตาล แต่งหน้าสวยสับ ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว เขียนข้อความว่า "ศิลปะแห่งการระบาย Real makeup AI style by @tippymakeup #arttherapy" ท่ามกลางเพื่อนดารา แฟนคลับ ที่เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมถึงความสวย ที่ยังคงเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง รวมทั้งให้กำลังใจ ขอให้พิ้งกี้กลับมาทำงานในวงการเหมือนเดิมโดยเร็ว 

"พิ้งกี้" เกี่ยวข้องกับ คดีแชร์ Forex ยังไง หากย้อนกลับไป เมื่อปี 2562 มีประชาชนถูกหลอกให้ร่วมลงทุนโดยมีผู้เสียหายเบื้องต้น 8,720 ราย ตรวจสอบพบเงินหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้านบาท พบว่า แชร์ FOREX 3D มี นายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหารบริษัท FOREX 3D ผู้ก่อตั้งแชร์ลูกโซ่พันล้านบาท ซึ่งหลบหนีคดีตั้งแต่ปี 2562 กระทั่งพบว่าแอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงนำกำลังเข้าจับกุมและตรวจค้น จากนั้นจึงนำตัวไปฝากขัง

ส่วน "พิ้งกี้" และครอบครัว เข้าไปเกี่ยวข้องจากการถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนแชร์เทรดเงินในครั้งนี้ ก่อนวันที่ 7 ม.ค. 2563 เข้าให้ปากคำ ในฐานะพยานต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เนื่องจาก พิ้งกี้เป็นดาราที่ปรากฏตัว ในภาพถ่ายร่วมกับ นายอภิรักษ์ โกฎธิ หลายสถานที่ อาทิเช่น งานเปิดตัวโชว์รูมรถยนต์ RKK ปี 2561 ส่วนพี่ชายของสาวพิงกี้ ก็ยังเคยโพสต์ชวนลงทุน forex 3D

จากนั้น 3 มี.ค. 2564 "พิ้งกี้" และครอบครัว เข้าพบ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ  เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีพิเศษที่ 153/2562 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดร่วมกันกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

ก่อน 11 มี.ค. 2564 พิ้งกี้เปิดใจครั้งแรกเกี่ยวกับคดีนี้ ว่า "ได้เข้าไปทาง DSI แล้วเพราะมีการเปลี่ยนทำสำนวนใหม่หมด ตอนนี้เราเกิดความเสียหาย ณ ที่นี่คือเสียเงิน จิตใจ เสียเป็น 10 ล้าน วันนั้นที่เข้าไปก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ให้ทำอะไรก็ทำ ไม่รู้สึกกังวลแต่อยากได้เงินคืน และมีปรึกษาทนาย ตอนนี้ก็เดินหน้าหาเงินกันใหม่ไม่ตายก็หาใหม่ได้"

กระทั่ง เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2565 "พิ้งกี้" พร้อมด้วย "แม่" และ "พี่ชาย" ถูกพนักงานอัยการสำนักอัยการคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้องพร้อมพวกรวม 19 คน ในความผิดฐานโดยทุจริต โดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง มีผู้เสียหายหลงเชื่อ ถูกหลอกลวง จำนวน 9,824 คน มูลค่าความเสียหายรวมกัน 2,489,820,321.52 บาท ซึ่งตอนนั้นศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง ก่อนคุมตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง

และเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 ศาลอาญา อนุญาตให้ประกันตัว ในราคาประกัน 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หากเปลี่ยนถิ่นที่อยู่ ให้แจ้งต่อศาลภายใน 7 วัน และให้รายงานตัวต่อศาลทุกเดือน จนกว่าจะมีเหตุเปลี่ยนแปลง และให้แจ้ง ตม.ทราบด้วย