เบียดก่อนบวช "กอล์ฟ อนุวัฒน์" เผยฤกษ์แต่ง หลังหมั้นเงียบ รับกลัวขาดอิสระ

ก่อนหน้านี้ ช่วงกลางปี 2565 พระเอกหนุ่ม "กอล์ฟ อนุวัฒน์" ขอแฟนสาว "คูณ ปิยวดี" แต่งงาน จากนั้นไม่นาน ทั้ง 2 ก็จัดพิธีหมั้นแบบเงียบๆ ภายในครอบครัว หลังคบหาดูใจกันได้ 6 ปี สบโอกาสเจอพระเอกหนุ่ม ที่งานบวงสรวงละคร ตะนาวศรี เจ้าตัวเล่าว่า

"หมั้นแล้วนะครับ (ยิ้ม)​ สวมแหวนไปแล้ว ขอกับพ่อไปแล้ว แต่ยังไม่ได้จัดงาน แต่น่าจะเร็วๆ นี้ครับ ดูฤกษ์ทุกอย่างดูหมดแล้วครับ พร้อมหมดแล้ว คิดว่าเป็นงานแบบเรียบง่าย คิดไว้ว่าจะเชิญแขกที่สนิทจริงๆ เพื่อนเรา เพื่อนเขา ญาติผู้ใหญ่ทางเขาและทางเรามาให้รู้จักกัน จริงๆ ก็ต้องขอบคุณเขาด้วย เพราะพ่อเขากับเขาเข้าใจ เพราะเราไม่ได้ชอบจัดงานแบบใหญ่โต มันอยู่ที่เราสองคน และเขาก็เข้าใจ น่ารักมากๆ ในการโอเคแค่นี้

ความรู้สึกที่ใกล้จะเป็นเจ้าบ่าว ก็ตื่นเต้นนิดนึง ต้องปรับตัวให้ไวที่สุด ถามว่าความรู้สึกเปลี่ยนไปจากตอนเป็นเพื่อนยังไง อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับ (ยิ้ม) คือเราจะขาดอิสระหรือเปล่า ก็มีความกลัว เราจะทำอะไรได้หรือเปล่า แต่ด้วยการที่คุยกันและความเป็นเขา เขาก็พร้อมจะซัพพอร์ตเราด้วยซ้ำในการที่เราอยากจะทำอะไร อย่างเช่นตอนนี้ผมก็สนใจเรื่องพระ เขาก็พยายามสนับสนุนว่าลองไปดูที่นั่นที่นี่ดูสิ ลองทำอย่างนั้นอย่างนี้ดูสิ ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าไม่มีอิสระอะไร 

(เรื่องสาวๆ หรือเปล่า?) ไม่ใช่ๆ (หัวเราะ)​ จริงๆ ผมไม่ใช่คนนอกลู่นอกทางอยู่แล้ว แต่การขาดอิสระเราคือ เขาจะห้ามเราไปวิ่งไหม ห้ามไปเตะฟุตบอล ห้ามเราไปเจอเพื่อนไหมอะไรแบบนี้มากกว่า มันกลัวไปหมด แต่เขาก็ซัพพอร์ตเต็มที่ เลยไม่มีความรู้สึกนั้นเลย แต่ก่อนหน้านั้นที่ถูกบอกเลิก ความกลัวมันมาหมดเลย แต่ตอนนี้เหมือนคนปกติคนนึงที่มันจะมีงานๆ นึงที่บอกกล่าวว่าเราเป็นแฟนกันนะ แค่นั้นเอง

เรื่องลูก ยังไม่ได้คิดเลยครับ ตอนนี้โฟกัสเรื่องงานก่อน และตอนนี้แม่ผ่าตัดหลังด้วย กระดูกทับเส้นประสาท ผมก็เอ็นที่ขาฉีกอีก ก็เลยไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นเลย อยากจะดูแลแม่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ส่วนเรื่องขาตอนนี้ ก็มีเอ็นฉีก และปีนี้ปีชงด้วย ตั้งแต่ก่อนปีใหม่เจอเยอะมาก เอ็นฉีก แม่ผ่าตัด แล้วก็มาท้องเสียอีก (หัวเราะ) แต่จริงๆ ปีนี้ผมไม่ได้ชงด้วยนะ แต่ไม่รู้ไปทำอะไรมา ถึงได้รู้สึกว่าต้องเจออะไรแบบนี้ แต่เราอาจจะประมาทด้วย เรียกว่าเป็นโรคภัยมากกว่า เราคิดว่าเราเป็นคนแข็งแรง ก็ไม่คิดว่าเราจะทรุดได้ ก็หยุดไปเป็นเดือนเลยไม่ได้ออกกำลังกาย คืออาจจะไม่ใช่เรื่องของการชง แต่มันมาโดยรวม คือพอเอ็นฉีก แล้วเฝือกก็กัดจนเป็นแผลอีก ก็งงเหมือนกัน เพราะมันบวมมากแล้วก็กัดจนเป็นแผล ทุกวันนี้ยังไม่หายเลย โคตรซวย (หัวเราะ) แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่ต้องสูญเสียอะไรไปมากกว่านี้

ปีใหม่ล่าสุดนี่เดินสายทำบุญเกือบ 9 วัดเลย แต่สิ่งที่เราคิดไว้ตอนเด็กคือไปครบทุกวัด ไปบอกกล่าวพระว่าถ้าเราพลาดหรือลืมอะไรไปขออภัยด้วย อโหสิกรรมให้เราด้วย จริงๆ ไม่ได้คิด แต่เรื่องราวมันทำให้เราคิด ว่าหรือเราอาจจะลืมอะไรหรือเปล่า เราก็จำไม่ได้ ก็เลยไปบอกกล่าวขอพรท่าน ก็ขอให้จากหนักให้เป็นเบา ตอนแรกผมไม่เคยเชื่อเรื่องนี้เลยนะ หรือมันจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า ก็พอมีโอกาสก็ไปทำ

เรื่องบวช หลังจากนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ถ้าไม่มีละครเข้ามา ก็ยังดูอยู่ครับ แต่ยังไงก็น่าจะปีนี้แน่นอน เพราะเราตั้งใจมานาน และรับปากกับป๊ากับแม่ และหลายๆ คนที่เรานับถือเป็นแม่เราจริงๆ เรารับปากท่านไว้ ก็เลยถือโอกาส ด้วยอายุ ด้วยเวลา ด้วยสภาพจิตใจที่เราอยากบวชจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยอยากบวชเลย แต่ตอนนี้อยากบวช พ่อกับแม่ เขาดีใจอยู่แล้วล่ะ เขาก็บอกว่าบอกให้บวชตั้งนานแล้ว (ยิ้ม)​ เราก็บอกว่าตอนนั้นยังไม่รู้สึก แต่ตอนนี้เรารู้สึกแล้วว่าอยากจะบวชจริงๆ เวลาบวชเราก็อยากจะทำให้มันเต็มที่จริงๆ ได้เรียนรู้ธรรมะ ได้เรียนรู้พระพุทธศาสนาจริงๆ อยากจะปฏิบัติจริงๆ ให้มันเกิดกับตัวเราเองและครอบครัวเรา

จะบวชก่อนเบียดหรือเบียดก่อนบวช น่าจะต้องเบียดก่อนบวช (หัวเราะ) แต่มุมมองผมคือยังไงก็ได้ มันไม่มีการตายตัวแล้วครับ บางคนบวชตอนมีลูกแล้ว และยังบวชอีกหลายๆ ครั้งได้เลย ผมว่ามันอยู่ที่ความรู้สึกและความพร้อมของเรามากกว่า จะบวชนานแค่ไหน จริงๆ อยากจะแพลนไว้สัก 2 อาทิตย์ แต่ถ้ามากหรือน้อยกว่านั้นก็ค่อยว่ากัน แต่ก็อยากจะแพลนไว้ให้มากที่สุดครับ"