คนดังก็ยังโดน "อู๋ ธรรพ์ณธร" ถูกโกงเงิน 1,500 บาท โร่เอาเรื่องถึงกองปราบ

นักร้องดัง "อู๋ ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา" เจ้าของเพลงในตำนาน หัวใจกระดาษ ได้เดินทางมายังศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชากลางตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมกับภรรยา "เก๋า กรวิวรรณ์ ศรีพันธุ์" และทนายความส่วนตัว "นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์" เพื่อเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองปราบ พหลโยธิน หลังสั่งซื้อหมวกปานามาจากร้านออนไลน์ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ในราคา 1,500 บาท แต่พอโอนเงินไปแล้วกลับไม่ส่งของ แถมบล็อกช่องทางการติดต่อจนไม่สามารถติดต่อคู่กรณีได้ จึงตัดสินใจดำเนินคดีเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ เพราะไม่อยากให้ไปทำกับคนอื่นอีก เกรงว่าจะมีประชาชนโดนหลอกเป็นจำนวนมาก 

อู๋ : "สืบเนื่องมาจากช่วงโควิดผมอยู่บ้านก็เลยช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์นึง เป็นหมวกปานามา มือ 2 แต่เป็นแบรนด์เนม แล้วเขาไม่ได้ส่งของให้เรา แต่จริงๆ แล้วมูลค่าไม่ได้เยอะ มันแค่ 1,500 บาทเอง แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือเราอยู่ในสังคมเดียวกัน ความถูกต้องมันต้องเกิดขึ้นเราเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะปล่อยผ่านไปเพราะคิดว่ามันนิดเดียวเอง ไม่มีอะไรหรอก ช่างมันเถอะ แต่ผมอยากให้คนเราทุกคนอยู่ในสังคมร่วมกันโดยไม่เอาเปรียบกัน และอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องระวังซึ่งกันและกัน เพราะมันอาจทำให้คนเหล่านี้ย่ามใจแล้วทำอย่างอื่นก็ได้ครับ

หลังๆ ผมช้อปปิ้งออนไลน์บ่อย ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาครับ แต่เพิ่งมาเจอครั้งนี้ครั้งแรกครับ เราสั่งของในขณะที่เจ้าอื่นเขาส่งมาให้แล้ว แต่เจ้านี้เรารู้สึกแปลกๆ ก็เลยเช็กไป ปรากฏว่าเขาเป็นพวกมิจฉาชีพครับ แต่ก่อนที่เขาจะมาเปิดเพจนี้เขาเปิดอีกเพจนึงซึ่งขายพวกเสื้อสเวตเตอร์ครับที่สำคัญไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเพิ่งแต่งงานแล้วผมโดนภรรยาบ่นครับ (หัวเราะ) มันเสียฟอร์มตรงนี้แหละครับ แค่ 1,500 บาทเอง

ถามว่ารอนานแค่ไหน ปกติส่วนใหญ่ถ้าในกรุงเทพฯ วันรุ่งขึ้นของก็ถึงแล้วครับ อย่างช้าก็ 1-2 วัน แล้วผมสั่งเจ้าอื่นไปด้วยซึ่งเขาก็ส่งของมาให้แล้ว ก็ให้ภรรยาเช็กให้ พอวันรุ่งขึ้นที่ผมไม่ได้ของปรากฏว่าเขาบล็อกผมไปแล้ว เขาไม่ได้ตอบว่าทำไมส่งช้า เขาบล็อกผมไปเลย แล้วผมก็ไปตรวจสอบดูมันก็มีโดนแบบนี้เยอะเหมือนกัน เราเป็นผู้เสียหายก็อยากให้หลายๆ คนที่เสียหายออกมาเรียกร้องความถูกต้องแค่นั้นเอง ผมเชื่อว่าเราต้องอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในสังคมผมไม่อยากให้เขาไปทำกับใครอีก

ตอนที่เขาบล็อกผมไปแล้ว มีเพื่อนๆ หรือภรรยาผมก็ยังเข้าไปในเพจนั้น เขาก็ยังบอกว่า รับไหมคะ 700 บาท ส่งเลยนะคะ เขาก็ยังสามารถอยู่ได้ในสังคมนี้ครับ เพจนี้เป็นครั้งแรกที่ผมซื้อของกับเขา ส่วนใหญ่ที่ผมซื้อจะเป็นเพจต่างประเทศ หรือซื้อกับเพจในเมืองไทยก็ไม่มีปัญหาเลยครับส่วนจะดำเนินคดีฟอกเงินด้วยไหม ผมปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายดีกว่านะครับ ผมแค่รู้สึกว่าไม่ควรมาเอาเปรียบซึ่งกันและกัน มันไม่เกี่ยวกับจำนวนเงินนะครับ แต่ว่าเราต้องอยู่ด้วยกันโดยสันติสุขและมีความสุขในสังคม และเขาจะไม่ไปทำกับคนอื่นๆ"

ทนาย : "ในทางคดีจากที่คุณอู๋พูด คือต้องทำเป็นตัวอย่าง อย่าไปมองเรื่องของมูลค่าเงิน แล้วอีกอย่างนึงคุณอู๋เป็นที่รู้จัก การที่คุณอู๋ออกมาวันนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องดีให้คนอื่นเห็นว่าถึงแม้มูลค่าเงินจะน้อย เราควรต้องใช้สิทธิ์ อย่าให้คนกลุ่มนี้อยู่ในสังคมแบบนี้ เจตนาที่เขาเปิดผ่านโซเชียลมันเป็นเรื่องของการฉ้อโกงประชาชน การฉ้อโกงประชาชนมันไม่ได้ดูที่จำนวนผู้เสียหายนะครับ แต่มันดูเจตนาของเขาในการเผยแพร่ออกสู่สังคม ไม่ได้ดูมูลค่าเงิน

ถ้าเข้าข่ายฉ้อโกงอย่างกรณีของคุณอู๋ เขาปิดการสื่อสารทุกด้าน มันก็ชัดเจน มีการเจตนาในการบอกว่าจะขายเท่าไหร่ คุณอู๋โอนเงินแล้วนะครับ ความเสียหายเกิดขึ้นทันทีเมื่อเขาปิดช่องทางการติดต่อ พอเป็นความผิดที่เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน มันก็เข้าข่ายของการฟอกเงิน ซึ่งเป็นมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ตามกฎหมายเหมือนกัน ซึ่งตรงนี้ผมต้องเรียนให้พนักงานสอบสวนท่านพิจารณาในส่วนนี้ด้วยจะได้เป็นตัวอย่างครับ"

อู๋ : "ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันครับ ก็อยากจะฝากไว้นิดนึงครับสำหรับคนที่ซื้อของออนไลน์ให้มีความระมัดระวังรอบคอบมากขึ้น หลังจากที่ผมโดนไปก็เพิ่งรู้ว่าในกูเกิ้ลสามารถเช็กได้ว่ามีเพจไหนที่เป็นมิจฉาชีพ จะมีแจ้งไว้ แต่ผมว่าบัญชีน่าจะสืบไม่ได้หรอกครับน่าจะเป็นบัญชีม้า ถ้าหลังจากนี้เขาติดต่อมาขอส่งหมวกมาให้ แลกไม่ให้เอาเรื่องเขา ถามว่าจะยอมไหม สำหรับผมได้นะแต่ในเรื่องของกฎหมายผมไม่ทราบว่ายังไง"

ทนาย : "ในคดีถ้าเป็นฐานความผิดเรื่องฉ้อโกงประชาชนมันยอมความไม่ได้อยู่แล้วนะครับ พื้นฐานขั้นต้นเป็นฉ้อโกงครับ เจตนาคือฉ้อโกง เราไม่ได้ดูที่จำนวนผู้เสียหาย เราดูจากเจตนาเขาที่เผยแพร่ออกมาผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งสิ่งที่ผมพูดมีแนวพิพากษาศาลฎีกาว่าการกระทำผิดแบบนี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน

กรณีของการฟ้องออนไลน์ที่ศาลแพ่งท่านมีนโยบายไว้ เป็นเรื่องของการฟ้องศาลแพ่ง แต่อันนี้ที่เรามาแจ้งความร้องทุกข์ เราดำเนินคดีอาญา เดี๋ยวมาพิจารณาดูว่าจะไปควบคู่ไหม อย่างน้อยๆเราได้ดำเนินการกับคนๆ นึงที่มีพฤติกรรมไม่ดีแบบนี้ให้ออกไปจากสังคมบ้าง อย่างน้อย 1 รายก็เป็นเรื่องดี แล้วก็เป็นตัวอย่าง จริงๆ ต้องขอบคุณคุณอู๋ด้วยที่ยอมมาเสียเวลาในการดำเนินการแบบนี้ครับ"

อู๋ : "ผมไม่อยากให้นิ่งนอนใจว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องปกติ เราอยู่ในกติกาอย่างเดียวกัน เราก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน ถามว่ารู้หรือยังว่าเขาเป็นใคร ผมว่ายาก อย่างเช่น มันมีบัญชีแอ็กเคานต์ที่ผมจ่ายไปอาจจะไม่ใช่เป็นของเพจนั้นก็ได้ อาจจะเป็นของคนอื่นที่เขาเรียกว่าบัญชีม้าก็ได้มันก็ต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนครับ"