
"ม้า อรนภา" ยันแค่ แตะ ไม่ใช่ ตบ ดาราหนุ่มพ้อแค่อยากสั่งสอน แต่ดันเรื่องใหญ่
"ม้า อรนภา" ยันแค่ แตะ ไม่ใช่ ตบ แจงอีกมุมเหมือนหนังคนละม้วน ด้านดาราหนุ่มเครียดแค่ต้องการสั่งสอน ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดประเด็นร้อนแรงในวงการบันเทิง เมื่อ "ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด" เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยเรื่องราวของดาราหนุ่มช่องดังว่าถูกคนในวงการบันเทิงตบหน้ากลางห้างที่ประเทศเกาหลี เพียงเพราะไม่ยอมไปกินปูด้วยกัน ซึ่งต่อมาทางดาราหนุ่มก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจของเกาหลีใต้ ต่อมามีคนเปิดวาร์ปทั้งดาราหนุ่มและคู่กรณี พบว่าฝ่ายชายชื่อ "เอ็ม" เป็นเด็กในสังกัดช่อง 3 ส่วนมือตบนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน "ม้า อรนภา กฤษฎี" พิธีกรและนักแสดงชื่อดังนั่นเอง งานนี้ก็เลยมีชาวเน็ตหลายรายบอกว่าอดีตเคยทำงานด้วยก็โดนแบบนี้เช่นกัน
ล่าสุด (30 พฤศจิกายน 2565) ม้า อรนภา พร้อมแล้วที่จะชี้แจงทุกเรื่องที่เกิดขึ้น โดยตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องพยายามเขียนแล้วก็โพสต์ แต่คนข้างๆบอกว่าอย่าเพิ่ง ใจความคือ "ขอโทษ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับผิด ขอโทษน้องแล้ว ปรับความเข้าใจแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นน้องมีอะไรที่ติดค้างคาใจ เลยมีไปปรึกษาทนายหลายคน หลังเกิดเรื่องก็ยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันหลายวันมากๆ พอเกิดเรื่องก็ติดต่อน้องไป แต่ติดต่อไม่ได้ เขาเองก็ไม่กล้ามาเจอหน้าพี่ ขอโทษคุณพ่อคุณแม่ของเขา ขอโทษทุกคนที่ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวพี่ แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน อยากให้ฟังจากปากของเราทั้ง 2 คน" ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ไม่ได้โพสต์ไป
จากนั้นก็เล่าต่อเลยว่าเคสนี้เคสแรกกับการพาไปศัลยกรรมที่เกาหลีหลังหยุดไป 3 ปี เพราะโควิด น้องติดต่อมาเองว่าอยากทำศัลยกรรม ตนก็ติดต่อกับทางโรงพยาบาลเกาหลี เขาก็บอกว่าอยากเที่ยวก่อน 2 วัน ที่จะทำ พร้อมบอกว่าตนพาเที่ยวด้วย ซึ่งตนก็ทำแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว คือพาเที่ยวด้วยทำศัลยกรรมด้วย เขาคือลูกค้าของตน เพราะฉะนั้นตนดูแลเขาเป็นลูกค้า โดยผิดพลาดตั้งแต่เดินทาง เพราะมาคนละไฟท์ เขามาถึงก่อนตน 2 ชั่วโมง ตนก็บอกให้รอตนก่อน เขาก็บอกว่าไม่มีปัญหา จากนั้นก็ไปเช็คอินที่โรงแรม แล้วก็ถามเขาว่าไปทานอาหารที่ไหนดี กินปูไหม เขาบอกเอาๆชอบกินปู ก็พาเขาไปกินเร็วหน่อย เนื่องจากต้องอดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
พอออกไปเดินเที่ยวกันสักพักเขาบอกว่าให้แยกกัน เพราะเกรงใจตน ตนก็บอกว่าไม่ต้องเกรงใจ เขาก็ไปช็อบปิ้ง 2-3 ชั่วโมง กลับมาพร้อมกับ 4-5 ถุง ซึ่งตนก็ถามเขาไหวไหม 2-3 รอบเขาก็บอกว่าไหว แล้วตนก็ไปเดินซื้อของบ้าง พอซื้อเสร็จเขาก็พูดว่า ไม่ไปกินปูแล้วนะ ตนก็เลยแตะหน้าเขาเลยพร้อมพูดว่า "จะบ้าหรอ" ยอมรับว่ามือไว แต่ไม่ได้โกรธ ตามที่เห็นในคลิปดูก็รู้แล้วว่าเบาไม่ได้แรง
เขาก็โมโหเลย แล้วบอกว่าตบหน้าเลยหรอ พร้อมบอกว่าถ้าเป็นคนอื่นผมด่าแล้วนะ ตนก็ขอโทษ เขาบอกผมโกรธมาก แล้วปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว ตนก็ปล่อย จากนั้นก็เข้าไปขอโทษอีกรอบ ตนแค่ตกใจ เพราะเราคุยเราแพลนกันไว้หมดแล้ว จากนั้นเขาก็บอกว่า ได้ครับ ผมเข้าใจและจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แล้วก็กอดตน บอกว่าเคารพตนมาก ที่สอนหลายๆอย่าง แล้วเขาก็บอกว่าไปกินปูกันครับ ก็เลยพากันนั่งแท็กซี่ไปกัน พอกินกันเสร็จเขาก็บอกว่าตนว่าอยากดูละครที่ตัวเองเล่น แล้วก็ขอแยกตัวออกไป ตนก็คิดว่าคงไปเที่ยวกลางคืน ก็เลยย้ำเขาว่าให้อดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัดนะ
เช้ามาเขาก็บอกว่าเมื่อคืนไปเที่ยวมาตามที่ตนคิดไว้จริงๆ จากนั้นก็ส่งเขาเข้าห้องผ่าตัด แล้วก็ไปรับเขาตอนเย็น ตลอดระยะเวลาตนคอยดูแลเขาอย่างดี ว่าอาการเป็นยังไงบ้าง กินข้าวหรือยัง กินยาด้วยนะ ย้อนกลับไปหลังเกิดเหตุก็ไลน์ไปถามผู้จัดการส่วนตัวของเขา เขาก็บอกว่าไม่ได้ดูแล้ว เพราะทะเลาะกัน และวันที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ ตนก็ตกใจมาก เพราะยังโทรศัพท์คุยกันทุกวัน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้มีการติดต่อใดๆกับตน แล้วก็โทรหาทันที เขาก็ไม่รับ ไลน์หาก็ไม่อ่าน แถมย้ายโรงแรมหนีตนอีกด้วย
และวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ได้เจอกันเพราะต้องตัดไหม เขาก็พูดว่า ผมเครียดมาก ไม่คิดว่าเรื่องจะใหญ่ขนาดนี้ เพราะอยากจะแค่สั่งสอนตนเท่านั้น ว่าอย่าไปตบหน้าใคร และตนทราบมาว่าเขาทักไปหาทนายหลายคน แต่มีคนนี้ตอบกลับมาคนเดียว ส่วนพ่อแม่ของน้อง ทางผู้จัดการส่วนตัวได้ไปคุยแล้ว โดยจะได้เจอกันและเคลียร์พร้อมกันในรายการคุยแซ่บโชว์ ทีเดียว นอกจากนี้เขายังเปลี่ยนวันกลับด้วย เพื่อหนีตน จริงๆต้องกลับด้วยกันเมื่อวานนี้ แต่เปลี่ยนเป็นกลับวันนี้ ยืนยันไม่มีเรื่องชู้สาว