"มินดา" ไม่ชี้เป้าใช่พระเอก ฟ. ไหม แต่กระซิบ ผจก. โร่เข้ามาเจรจาหวังสงบศึก

จากกรณีดราม่าร้อนระอุระหว่างนักแสดงสาว "มินดา มีทรัพย์สิน" และพระเอกหนุ่มช่องมากสีที่คาดกันว่าคือ ฟ. ที่ตอนแรกเหมือนแค่ออกมาแฉกันไปมา แต่ล่าสุดเรื่องราวถึงขั้นเป็นคดีความอยู่ในชั้นสอบสวนเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากสาวมินดาเข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เหตุโดนหนุ่ม ฟ. ข่มขู่ คุกคาม ทำลายข้าวของที่หน้าบ้านของเธอ จนกระทั่งต่อมา พนักงานสอบสวน สน.บางเขน เตรียมออกหมายเรียก พระเอก ฟ. หลังจากไปบุกทุบรถสาวมินดา เมื่อช่วงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 2 ต.ค. ซึ่งมินดาเผยว่าถูกนักแสดงชายรายนี้ เข้ามาทุบรถที่ลานจอดรถของห้างฟู้ดแลนด์สาขารามอินทรา ซึ่งนักแสดงสาวได้เข้ามาแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา

โดยทาง พ.ต.ท.สราวุฒิ กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เพื่อให้นักแสดงชายเข้ามาพบ และเจรจากับฝ่ายหญิงผู้เสียหาย เนื่องจากคดีดังกล่าวสามารถยอมความกันได้ หากพูดคุยกันแล้วตกลงกันได้ก็สามารถถอนแจ้งความภายหลัง แต่หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และหากไม่มาพบตามนัดจึงจะขอศาลออกหมายจับต่อไป ทั้งนี้ด้าน พระเอก ฟ. ได้เปิดใจกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่า ไม่ได้มีการคุกคาม ข่มขู่แน่นอน มีแต่พูดคุยกันดีๆ เท่านั้น แต่งานนี้ดูเหมือนจะดิ้นไม่หลุด เพราะมีภาพกล้องวงจรปิดจับพฤติกรรมไว้ได้ จากในเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ที่ออกมาระบุว่า พระเอกคมเข้มช่องใหญ่ อักษรย่อ ฟ. ตามคุกคาม ข่มขู่หญิงสาวรายหนึ่ง (ต่อมาทราบว่าเป็นมินดา) โดยทางเพจได้เผยคลิปจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านของบ้านตรงข้าม ที่ พระเอก ฟ. ไปจอดรถ และไปบังคับเพื่อให้มินดาออกมาคุย 

ล่าสุด ปอร์เช่ คมชัดลึก บันเทิง ได้พูดคุยกับสาวมินดาถึงเรื่องนี้ โดยเธอก็ยังยืนกรานที่จะไม่บอกว่าใช่ พระเอก ฟ. หรือไม่ เพราะยังคงมีความห่วงใยอยากให้ฝ่ายชายได้ทำงานในวงการบันเทิงต่อไปได้ เธอบอกอีกว่า ล่าสุด ฝั่งผู้ชายติดต่อมาเหมือนจะขอเคลียร์ และคนกลางบอกมาว่า ผจก. กำลังคิดว่าจะให้อดีตแฟนหนุ่มมาขอโทษเธอในทุกๆอย่างที่ทำลงไป แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้ฝ่ายชายรับรู้ด้วยหรือไม่ว่าทุกคนติดต่อมาแบบนี้ พร้อมทิ้งท้ายไว้อย่างน่าเห็นใจว่า "หนูไม่อยากทำร้ายเค้า หนูพยายามบอกคนกลางไปตลอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แรกๆ แต่เค้าก็เงียบ พอมาเป็นข่าว ถึงได้พากันรีบติดต่อมา ทั้งที่เมื่อก่อนมีแต่หนูติดต่อไปขอคุยด้วยตลอด หนูแค่ต้องการความเป็นธรรมให้ตัวเอง และอะไรที่เค้าผิดพลาด ก็อยากให้เค้าได้ปรับปรุงแก้ไข ตัวเอง หนูต้องการให้เค้าทำงานในวงการต่อค่ะ"