"เบสท์" เสียงสั่นต่อหน้าพ่อ น้องชาย เครียดดราม่ามีแฟน ถามผิดขนาดนั้นเลยหรอ | คมชัดลึก

เป็นครอบครัวคนบันเทิงที่มีแฟนคลับไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ คำสิงห์ ที่ล่าสุด คุณพ่อ สมรักษ์ ควงลูกสาว น้องเบสท์ และลูกชาย น้องโบ๊ท มาเปิดใจผ่านทางรายการ ฮัลโหล ซุปตาร์ ทางช่อง 7HD กดหมายเลข 35 ผลิตโดย บริษัท นีโน่ บราเดอร์ส ของผู้จัด นีโน่ เมทนี และ หนิง ปณิตา ถึงประเด็นดราม่าต่างๆ

งานนี้ สาวเบสท์ ถึงกับยอมรับเสียงสั่นว่าจากเรื่องราวต่างๆ ที่เข้ามา ทำเอาเครียดไม่น้อย จนคุณแม่จะพาไปพบนักจิตบำบัดเลยทีเดียว
 

เป็นครอบครัวคำสิงห์มีผลไหม เวลาไปโรงเรียน?
เบสท์ : ของหนูมีผล เพราะเป็นผู้หญิง ผู้หญิงจะมีความซุบซิบรินทากันเยอะ

ผู้ชายไม่กล้าจีบ เพราะกลัวพ่อหรือเปล่า?
เบสท์ : อาจจะใช่ ตั้งแต่เด็กๆ จะเป็นผู้หญิงมากกว่าที่จะชอบมอง ถ้าเราหน้านิ่ง แบบ..เห้ยเราหาเรื่องหรือเปล่า เราหยิ่งไรอย่างนี้

บอกพ่อไหม?
เบสท์ : ไม่เคยบอกพ่อเลย เรากลัวพ่อเราไปจัดการเขา เราเลยไม่เคยฟ้อง ทุกอย่างจัดการเองหมด แต่ก็ไม่มีใครมาท้าตบ ท้าต่อย ไม่มี

เห็นว่าโดนบูลลี่ด้วย?
เบสท์ : โดนตั้งแต่เด็ก พอคนรู้จักเรา เขาก็จะมีแบบมาบูลลี่ว่า ไม่เห็นสวยเลย หน้าก็ยาว ตอนเด็กอ้วนด้วย ก็จะโดนอ้วนก็อ้วน ดำก็ดำ ก็จะโดนบูลลี่

เขามาบูลลี่ต่อหน้าหรือเม้าท์กัน?
เบสท์ : จะสมัยก่อนจะเป็นเฟซบุ๊ก โพสต์แต่ว่าไม่ได้แท็กเรา แต่รู้ว่าเป็นเรา

ตอนนั้นเราทำไง?
เบสท์ : ก็ไม่ทำยังไง ตอนนั้นอยู่กับเพื่อนที่สนิทแค่นั้น แต่ว่าใครที่ด่าเรา เราก็ไม่เอาตัวเข้าไปสนิท

ตอนนี้ทำอะไรอยู่?
สมรักษ์ : ตอนนี้หันหน้าไปทางการเมืองแล้ว ตั้งใจไปพัฒนาบ้านเกิดแล้ว

เบสท์เคยโดนเรียกผู้ปกครอง เขาบอกฝ่ายปกครองเรียกพบเพราะเรื่องผู้ชาย?
เบสท์ : มีค่ะ ตอนสมัยเรียนเราก็มีแฟน เดินกับแฟน เดินเฉยๆ นะ มีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งมา แฟนก็ดึงมือเราหลบ ครูก็เรียกเข้าห้องปกครอง บอกว่าจับมือกันไม้ได้นะ เป็นนักเรียน เราก็บอกว่าเมื่อกี้มอเตอร์ไซค์มา เขาเลยจับมือหนูหลบ หนูก็งงว่าหนูผิดอะไร เพราะคนที่จับหนูคือผู้ชาย ทำไมไม่ไปด่าผู้ชาย ทำไมด่าแต่ผู้หญิง

ตอนนั้นเบสท์ทำไง ได้พาคุณพ่อไปไหม?
เบสท์ : เหมือนเขาโทรหาแม่ แม่หนูบอกว่าจัยมือดีกว่าไปทำอะไรอย่างอื่น จับเดินข้ามถนนมันก็ถูกต้องแล้ว ก็เลยไม่ได้โดนแะไรต่อ

โบ๊ทเห็นอย่างนี้ฮอตมาก สาวๆ จีบเยอะ เห็นว่าเข้าทางโบ๊ทไม่ได้ ไปเข้าทางคุณแม่จริงไหม?
คุณแม่ : ช่วงแรกๆ มีแบบผู้หญิงโทรมา เบอร์ติดต่องาน โทรมาแบบคุณแม่ค่ะ หนูขอเป็นแฟนพี่โบ๊ทได้ไหม

คุณแม่รู้ไหมว่าอยู่โรงเรียนน้องโบ๊ทฮอตมากเหมือนกัน มีเด็กประถมมาจีบเต็มไปหมดเลย?
คุณแม่ : เหรอ ไหนบอกว่าชอบรุ่นพี่

อายุห่างจากเรากี่ปี?
โบ๊ท : 3-4 ปี แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครคุยด้วยเลย

เบสท์ : หนูไม่ห่วงเรื่องมีแฟนทถ้ามีเร็วก็จะได้รู้ว่าผู้หญิงบนโลกนี้มีแบบไหนบ้าง อยากมีก็มีไปเลยแล้วเรียนรู้เอา ความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอก หนูเข้าใจวัยรุ่น

ครอบครัวยูทูบ ตอนนี้ช่องมีคนตามเท่าไหร่?
เบสท์ : 5 ล้านค่ะ

ตรงไหนคือจุดเริ่มต้นของเรา?
เบสท์ : คือหนูทำยูทูบก่อนตั้งแต่สมัยเรียน ม.6 เพราะว่าพ่อบอกให้ทำ เพราะพ่อไปรู้มาว่าทำแล้วได้เงิน เราไม่รู้จะถ่ายอะไร เริ่มจากถ่ายน้องเตะบอล มีเด็กๆ มาตาม จากน้องมาเป็นครอบครัว มาเป็นตัวเอง ก็เป็นเหมือนไลฟ์สไตล์เราไปเลย

ช่องเริ่มติดคอนเทนต์ไหน?
เบสท์ : จริงๆ เริ่มติดตั้งแต่โบ๊ทแล้ว

สมรักษ์ : ทำเพลง มีคนตามอยู่ ร้อยกว่าคน ผมก็ไปให้อาจารย์ทำเพลง โม้จริงๆ ให้โบ๊ทร้อง ปล่อยปุ๊บ ตื่นเช้าขึ้นมา 4 หมื่นกว่าคนเลย

ไม่กี่ปีมานี้มีข่าวว่าเป็นหนี้กว่า 20 ล้าน หมดหรือยัง?
สมรักษ์ : ยังๆ ตรงนี้เป็นหนี้เกิดจากคดีลอตเตอรี่ที่เป็นข่าว ผมไม่รู้เรื่องลอตเตอรี่ อยู่บ้านเฉยๆ แล้วมีชาวบ้านเหมารถตู้มาหาผม มาขอความช่วยเหลือเรื่องลอตเตอรี่ เราไม่รู้เรื่อง ขอความช่วยเหลือแค่ให้เป็นแบล็คให้หน่อย แบล็คยังไง คือมีการซื้อขายลอตเตอรี่ โดยการโอนเงินเข้านี่ แล้วชาวบ้านก็โอนต่อไปนี่ คือเป็นแบล็คหน่อย ถ้าชาวบ้านเกิดเรื่องอะไร ตามไม่ได้ คุณสมรักษ์คงไม่มีใครกล้าโกงประมาณนั้น เราก็เอาตามสบายใจเลย แบบไหนก็ได้ อยากช่วยชาวบ้าน พอเขาโอนเข้าบัญชีผมปุ๊บ การโอนต่อไปนี่ก็ชาวบ้านเป็นคนโอนต่อ ผมเปิดแอพโทรศัพท์แล้วยกโทรศัพท์ให้เขา พอเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ตามที่เป็นข่าวไป เพราะฉะนั้นเรามีหน้าที่รับผิดชอบชาวบ้านต่อ ไม่เป็นไรผมไม่ตาย ผมหาได้ เบสท์ช่วยมา 5 ล้าน ยอดประมาณ 20 ล้าน

เงินจากยูทูบเหรอ?
เบสท์ : ใช่ ก็เหมือนเป็นเงินเก็บหนูจากยูทูบ

พอรู้ว่ามีหนี้ก้อนโตเกิดขึ้น เราต้องทำงานเยอะขึ้น ช่วงนั้นทำอะไรบ้าง?
เบสท์ : อาชีพหนูคือยูทูบเบอร์ เราก็ต้องทำยูทูบให้สม่ำเสมอ แล้วก็ขยันทำ

ปัจจุบันเบสท์ซื้อบ้าน 2 หลังแล้ว?
เบสท์ : ใช่ค่ะ 30 ล้าน

ทำไมต้องซื้อ 2 หลัง?
เบสท์ : ตอนแรกจะซื้อหลังเดียว บังเอิญตรงข้ามยังว่างอยู่ ก็เลยลองดูว่าจะได้ไหม ก็ผ่านเลยเอา 2 หลังเลย คือหนูหลังหนึ่ง พ่อ แม่ ก็อยู่กันเป็นครอบครัวนี่แหละ แค่แบบเราได้มีห้องถ่ายคลิป ห้องฟิตเนส มีห้องเกมอะไรอย่างนี้ หลายห้อง หนูซื้อของทุกอย่าง หนูใส่ชื่อคนเดียวเลย คือน้องชาย ที่ใส่ชื่อน้อง เพราะว่า ยูทูบมาจากโบ๊ทและเบสท์ เริ่มจากถ่ายน้อง รู้สึกว่าถ้าหนูเป็นอะไรขึ้นมา ทุกอย่างต้องเป็นของน้องหนู

เบสท์เองก็มีดราม่าหลายเรื่องเหมือนกันในชีวิต เรื่องความรักก็ดราม่าเยอะอยู่?
เบสท์ : จริงๆ ก็มีเรื่องนี้แหละ เรื่องความรักที่โดนหนักสุด แต่ถ้าก่อนหน้านี้จะไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ เพราะคนจะจำว่านี่คือลูกสาวสมรักษ์ แต่พอเรามีแฟนเป็นดารา ก็จะจำว่ามีแฟนเป็นดาราแบบคอมเมนต์นู้น คอมเมนต์นี่

เขาบอกว่าคุณเป็นคนทำคอนเทนต์เก่ง มาเรื่องความรักมันก็เป็นคอนเทนต์ทุกอย่าง?
เบสท์ : จริงๆ ความรักไม่ได้เป็นคอนเทนต์ รักก็คือรักจริง แต่พอเราจะเซอร์ไพรส์แฟน เรารู้สึกว่าอยากเก็บภาพไว้เหมือนกัน ก็เลยเกิดการถ่ายคลิป ปกติหนูถ่ายตั้งนานแล้ว ถ้าตามตั้งนานก็จะรู้ว่าหนูถ่ายเป็นปกติ

วันเกิดแฟนเปย์หนักมาก?
เบสท์ : เขาให้หนูก่อน วันเกิดหนู หนูถามเขาว่าวันเกิดหนูเขาลงทุนเท่าไหร่ เขาบอกจำนวนเงินหนูมา พอวันเกิดเขา เราเลยให้คืนเทืานั้น ซึ่งอันนี้ทุกคนอาจจะไม้รู้ มันก็เป็นเรื่องของคนสองคนคุยกัน แต่ที่ทุกเห็นแบบของหนูมากกว่าเลยคิดว่าหนูเปย์เยอะกว่า ที่บ้านหนูสอนมาว่าถ้าสมมติว่าใครให้เรามาเท่านี้ เราต้องให้กลับคืนเขา

แพงที่สุดเท่าไหร่?
เบสท์ : ครึ่งล้าน 5 แสนค่ะ

พ่อรู้เรื่องไหม?
สมรักษ์ : เรื่องเงินผมไม่ยุ่ง อะไรที่ทำแล้วมีความสุขทำเลย เขาหาเอง เงินเขา

เขาเม้าท์กันว่าการเปย์แบบนี้มันจะทำให้ผู้ชายไม่ไปไหน จริงไหม?
เบสท์ : หนูบอกพี่เขาตลอดเลยว่าถ้าไม่มีความสุขอยู่กับหนู ถ้าไม่รักกันแล้ว หรือไม่แฮปปี้แล้ว เดินออกไปจากชีวิตหนูได้เลย หนูรู้สึกว่าหนูให้พี่เขาเต็มร้อยแล้ว ทุ่มเทและค่อนข้างที่จะเปิดกับความรักครั้งนี้ หนูไม่ได้ไปกั๊กเขา หรือบังคับเขา

พี่ตงตงว่ายังไง?
เบสท์ : เขาบอกว่าหนูอ่านคอมเมนต์เยอะ ตัวเจารักเรา เขาเลยอยู่กับเรา เขาบอกว่าอย่าไปอ่านคอมเมนต์เยอะ

อีกหนึ่งกระแส หลังๆ ลงรูปกันน้อยลง ยังรักกันดีหรือเปล่า หรือเลืกกันแล้ว?
เบสท์ : พอหนูลงรูปเยอะก็ว่าหนูอวด หนูก็เลยไม่รู้ว่าจะลงเยอะหรือลงน้อยยังไงดี ก็คุยกับพี่เขา เราก็คบกันส่วนตัวมากขึ้น เพราะพอเราเปิดแล้วคนก็จับผิดไปหมด ก็เลยแบบไม่ลงแล้วกัน

ตกลงยังรักกันดีอยู่ไหม?
เบสท์ : ดีค่ะ

คุณเจอดราม่าหนักมาก จนหลังๆ ไม่ออกสื่อเลย สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
เบสท์ : คือเราก็เครียดมาก และทำตัวไม่ถูก อย่างมาออกรายการวันนี้ก็ทำตัวไม่ถูกว่าจะพูดยังไง อย่างพี่แอร์พูด เบสท์ดูไม่มีเอ็นเนอจี้เลย ทุกครั้งที่มาออกรายการหนูไม่รู้ว่าหนูต้องพูดยังไง เล่นกับพิธีกรยังไง เพราะหนูเล่นกับพี่แอร์ พี่นุ้ย หนูไม่รู้ว่าหนูเล่นได้มากน้อยแค่ไหน เพราะว่าคนก็รุมด่าเรา มันเหมือนไม่เป็นตัวเอง ปัจจุบันก็คือค่อนข้างเครียดเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเวลาออกสื่อเราจะต้องอยู่จุดไหน ทุกคนถึงพอใจ ไม่รู้ว่าเรามีแฟนแล้วมันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ จริงๆ เรื่องบูลลี่หนูไม่ซีเรียสเลย ก็จะมีเรื่องความรักนี่แหละ คือทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากความรัก มันทำให้รู้สึกว่า หนูก็เป็นมนุษย์คนนึงที่มีแฟน ทำไมทุกอย่างมันรุมมาที่หนู แล้วมันไม่ค่อยมีความสุขเวลาที่มาออกรายการ ยังบอกแม่เลยว่าไม่อยากออกรายการเท่าไหร่ แล้วเมื่อก่อนเวลาออกรายการทีวี หนูเล่นนู้น เล่นนี่แล้วคนคอมเมนต์ว่าหนูตลกจังเลย หนูร่าเริงจังเลย แล้วทำไมวันนี้หนูก้าวร้าว หนูมั่นหน้าอะไรอย่างนี้ หนูก็เป็นหนูเหมือนเดิม คือตอนนี้หนูไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้ว ทุกคนทักหนูว่าดูเรียบร้อยขึ้นจังเลย โตขึ้นป่ะเนี่ย ก็โดนนี่แหละค่ะ เลยไม่กล้าเข้าไปเล่นกับใครเท่าไหร่

โดนแบบนี้บ่อยๆ คุณแม่บอกเลยว่าจะพาไปหานักจิตบำบัด?
คุณแม่ : ใช่ค่ะ

เบสท์มีความเชื่ออะไรบางอย่างที่ทำไมเราขยับตัวก็เป็นดราม่า?
เบสท์ : คือหนูเคยไปดูดวง หนูไม่ได้ถามเขานะ แต่ว่าหมอดูทักมาเลยว่าเป็นดวงที่เหมือนกับว่าคนจะไม่ค่อยชอบ ถ้าจะคบใครก็อย่าคบตามใจให้ดูนานๆ เขาก็เตือนมา หนูก็ถามเขาว่าดวงคนไม่ชอบคือยังไง เขาบอกอยู่เฉยๆ คนก็มองมาไม่ชอบ เหมือนดวงเราไม่มีเสน่ห์หรือไม่มีอะไรที่ทำให้คนรักหรือเปล่า

เบสท์อยากพูดอะไรกับคนที่ไม่เข้าใจเราอยู่ตอนนี้?