บันเทิง

"โตโน่" บวงสรวงจัดใหญ่ถวายเครื่องสักการะพระธาตุพนม ก่อนเริ่มภารกิจสุดโหด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กลายเป็นประเด็นดราม่า แทบจะทุกประเด็น สำหรับ"โตโน่ ภาคิน" ที่ล่าสุดถึงนครพนมแล้ว พร้อมเตรียมทำกิจกรรมว่ายข้ามโขง และที่เหนือความคาดหมายยิ่งกว่า คือ ยอดบริจาคที่พุ่งสูงเรื่อยๆไม่มีพัก

ทีมข่าวคมชัดลึกบันเทิง อย่าง "ภาคย์ พรภวิษย์" ลงพื้นที่ก่อนที่ "โตโน่" จะเริ่มภารกิจในวันพรุ่งนี้ นั้นก็คือ 22 ตุลาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ตามกำหนดการ เลยมีโอกาสได้เก็บภาพการบวงสรวง และสักการะองค์พระธาตุพนม เพื่อเป็นสิริมงคล และให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวงในการทำภารกิจช่วยโรงพยาบาลทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงด้วย และทำให้มีเวลาพูดคุยกับสื่อมวลชนที่มารอกันหลายสำนัก อีกด้วย 

โตโน่บอกว่าได้รับกำลังใจจากชาวจังหวัดนครพนมตลอดทาง และหวังว่าพรุ่งนี้จะให้คนไทยทุกคน เห็นถึงความรักความมีน้ำใจ ทั้งคนไทยคนลาว รวมถึงความรักที่มีต่อหมอและพยาบาลด้วย

"ขอให้เรารักกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลก ต้องการมากตอนนี้ครับ"

"โตโน่" บวงสรวงจัดใหญ่ถวายเครื่องสักการะพระธาตุพนม ก่อนเริ่มภารกิจสุดโหด

ซึ่งโตโน่ก็ยอมรับว่า ไม่เคยว่ายระยะไกลขนาดนี้ และซ้อมมาเต็มที่และดีที่สุด เท่าที่เวลาจะมีได้ และยอมรับตามตรงว่า บางทีควบคุมสภาพอากาศไม่ได้ "มันไม่ใช่แค่ผม ผมคือตัวเล็กๆที่ลงไปว่าย แต่เงินทุกบาท ทุกสตางต์ ที่ช่วยคุณหมอคุณพยาบาล ผมจะเอาไปเป็นแรงของผม ผมจะนึกถึงน้ำใจและรอยยิ้มของทุกคน จะคืดถึงพลังของทุกคนที่ส่งมาให้"

โตโน่บอกอีกว่า "มีคนมาให้กำลังใจ ก็อยากจะให้เขามีความสุข กิจกรรมนี้ เกิดขึ้นทาเพราะเราอยากให้ เราอยากช่วย เปลี่ยนการขอ เป็นการให้อย่างเต็มใจครับ"

"โตโน่" บวงสรวงจัดใหญ่ถวายเครื่องสักการะพระธาตุพนม ก่อนเริ่มภารกิจสุดโหด

ด้านกระแสน้ำ ที่โตโน่ต้องเผชิญ มี 3 แบบในการทำภารกิจ ในวันที่ลงว่ายจริง บอกว่า "ช่วงแรกระดับน้ำจะช่วยเราเพราะไม่แรงมาก เหมือนโหมโรง แต่ยังพูดไม่ได้ต้องดูอากาศอีกที แต่ช่วงว่ายตัด จะเป็นน้ำนิ่ง เพราะถ้าว่ายตัดไม่ได้ ช้า จะมีมวลน้ำ ถ้าทำสำเร็จ ก็จะมีกระแสฝั่งลาวช่วยอีกที" 

ซึ่งหลังจากขึ้นฝั่งจากน้ำที่ประเทศลาว ก็จะมีการไปหาคุณหมอและพยาบาลที่โรงพยาบาลท่าแขก ถึงจะไปที่จุดพักที่มีทีใรออยู่ และมีศิลปินลาวมาด้วย ถ้ามีแรง ก็อาจจะขึ้นไปขอแจมร้องด้วย 

และมีความคิดว่าจะกลับเลยช่วยเย็น และน้ำจะแรงกว่าช่วงกลางวัน ถ้าว่ายตัดไม่ได้ จะถูกกระแสน้ำผลัดไปได้ จริๆ "ที่เล่าให้ฟังทั้งหมด ผมไม่ได้กังวล แต่ผมแค่เราให้ฟัง ว่าจะเจออะไรบ้าง เราเตรียมใจไว้แล้ว และ  "ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นยังไงผมถือว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พญาศรีศัตตนาคราช แม่น้ำโขง ความเชื่อ ความรัก ความศรัทธาของพวกเรา ท่านอยากให้เป็นอย่างนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมยินดีที่จะเจอครับ"

"โตโน่" บวงสรวงจัดใหญ่ถวายเครื่องสักการะพระธาตุพนม ก่อนเริ่มภารกิจสุดโหด ในเรื่องการดูแลตัวเอง ต้องทานให้เยอะ นอนให้หลับ แต่โตโน่ก็มีความกังวลว่าจะนอนหลับไหม เนื่องจากมีความตื่นเต้น

และนอกจากกิจกรรมที่จะทำ ภารกิจที่จะช่วยโรงพยาบาล โตโน่บังบอกว่า สำคัญไม่แพ้กันคือ อยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม ถ้าทุกคนช่วยกันดูแล 

"โตโน่" บวงสรวงจัดใหญ่ถวายเครื่องสักการะพระธาตุพนม ก่อนเริ่มภารกิจสุดโหด

คำถามที่ถามว่าทำไมถึงว่ายในแม่น้ำโขง ?
โตโน่บอกว่า "แม่น้ำโขงเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่สำคัญมากๆครับ เรายังมีแม่น้ำอีกหลายสาย ที่หลายคนยังไม่รู้ ว่าต้องเจอกับวิกฤตอะไร มันจะพังลงแบบไหน สายพันธ์ปลาที่จะสูญพันธ์"

บอกด้วยว่า ในเรื่องความปลอดภัยนั้น เป็นทีมที่ซ้อมมาด้วยกัน เป็นทีมพายคายัก 4 คน นักว่ายน้ำ 4 คน รวมผม เป็น 5 เพื่อนๆ 4 คน" จะสลับกันว่ายตามที่ตัวเองถนัด ส่วนโตโน่จะว่ายเต็มระยะทาง และ "กฎของกีฬาประเภทนี้ ที่ว่ายน้ำในพื้นที่เปิด จะต้องคาดลูกโป่งที่ลอยน้ำ เราจะเกาะไว้ เพื่อกิน ต้องใส่ไว้ และทีมที่อยากจะมาว่ายด้วย ต้องใส่เซฟตี้กันหมด เป็นสีสะท้อนแสง คนบนฝั่งจะได้เห็นด้วย"

งานนี้ โตโน่ยกมือขอบคุณท่วมหัวเลย สำหรับยอดบริจาคที่ยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอ[คุณมากๆ สำหรับคนที่ช่วยกันระดมทุนช่วยโรงพยาบาลในครั้งนี้

"เราไม่รู้หรอกว่าเราจะป่วยวันไหน คุณหมอคุณพยาบาล ถ้าได้เครื่องมือที่มากขึ้น ก็จะดูแลพวกเราได้มากขึ้น ผมอยากเปรียบเทียบง่ายๆ ทะเล แม่น้ำ ก็เหมือนโรงพยาบาล เอาไว้ลองรับคนป่วย ไม่สบาย ทะเลก็รองรับ สิ่งของทุกอย่าง ถ้าเมื่อไรทะเลพัง รับไม่ไหว โรงพยาบาลรับคนป่วยไม่ไหว เราทุกคนก็แย่เหมือนกัน"

ดังนั้น "ถ้ากิจกรรมนี้เกิดขึ้น อยากให้ช่วยกันฟังที่วัตถุประสงค์ เป้าหมายของเรา ฟังถึงการวางแผน ลองช่วยกันคิด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่รู้จะไหว้สำเร็จไหม แค่จะทำให้ดีที่สุด ไม่อยากให้ทุกคนตื่นตัวแค่วันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่ขอให้ช่วยนักกัน สามัคคีกัน ดูแลกันไปจนกว่า วันนี้ผมดีใจที่เห็นทุกคน ผมขอบคุณมากๆครับ ขอบคุณที่เห็นความสำคัญมากๆครับ"

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวบันเทิงคมชัดลึก ยังคงเกาะติดสถานะการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้อย่างต่อเนื่อง ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของคมชัดลึก ยังคงนำเสนอเรื่องราวของภารกิจนี้ต่อไป
แต่ทีมข่าวของเราจะเดินทางมาเกาะติดสถานะการณ์อย่างใกล้ชิดแบบนี้ไมไ่ด้เลบ หากขาดคุณหมอผู้เป็นห่วงและใจดี อย่าง "แพทย์หญิง ทิพย์วิมล ปกรณ์วณิชชา" หรือ หมอกระติ๊บ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวพรรณ ที่หากใครได้รู้จักคุณหมอท่านนี้ จะรับรู้ได้ว่า เธอคือคุณหมอ ที่เล็งเห็นโอกาสต่อ ยอดต่างๆ ด้วยการให้ความช่วยเหลือสังคม มีความประสงค์ในการยกระดับชีวิต  แก้ปัญหาเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวงการแพทย์ สังคม และผู้ป่วย ลูกค้า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา พร้อมเป็นผู้นั่งแท่น ผู้บริหาร ASEAN Beauty Clinic ที่เราเคยสัมภาษณ์ในประเดินของการว่ายน้ำ และปิวที่ต้องโดนแสงแดดโดยตรงของโตโน่ไปแล้ว  สนับสนุนการเดินทางมาเพื่อให้สื่อมวลชนได้เผยแพร่ข่าวให้มวลชนได้รับทราบในครั้งนี้กันด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ