บันเทิง

ไม่น่าเชื่อ อูน เจ้าของ เพลงฮิต "เฮอร์ไมโอน้อง" ถูกตราหน้า แรง ถึงขั้น ปล่อยโฮ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไม่น่าเชื่อ "อูน ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์" เจ้าของ เพลงฮิต "เฮอร์ไมโอน้อง" ถูกตราหน้า แรง ถึงขั้น ปล่อยโฮ หลังผันบทบาทเปลี่ยนจาก CEO เป็นนักร้อง

นาทีนี้คงไม่มีใคร ไม่รู้จักเพลงฮิตอย่าง "เฮอร์ไมโอน้อง" ที่ขับร้องโดย CEO สาว "อูน ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์" โดยตอนนี้ปล่อยเพลงไปได้แค่ 3 เดือน แต่ยอดวิวในยูทูบยังพุ่งไม่มีหยุด ตอนนี้กำลังจะทะยานสู่ 30 ล้านวิวแล้ว ซึ่งใครจะไปรู้ว่าภายใต้ความดีใจของผู้ทำเพลง การประสบความสำเร็จของ CEO คนหนึ่งที่ลองหันมาทำเพลงเป็นครั้งแรก จะไม่ได้สวยหรูอย่างที่ทุกคนเห็นกัน เธอต้องเผชิญกับความทุกข์มากมายที่ไม่เคยเจอมาก่อน จนถึงร้องไห้ออกมา เรียกว่าเจ็บปวดมากๆ ทำเอาชีวิตเกือบพังเลยทีเดียว 

โดยสาวอูน ได้เปิดเผยเรื่องนี้ ในรายการ "WOODY FM"

เรียนรู้อะไรบ้างช่วงนี้ ?
อูน : เรียนรู้มากที่สุดก็คือ อูนเข้าใจโลกนี้น้อยไป พี่วู้ดดี้ลองนึกดูนะว่าอูนทำธุรกิจมาเป็น 10 ปี ขึ้นไปบรรยาย มี Tiktok แล้วก็มีโซเชียลมีเดีย คนก็จะเข้ามาถามเพราะว่าภาพชีวิตเรา สามีดี งานโอเค รายได้แฮปปี้ ทุกอย่างดูกลมกล่อมไปหมด เพราะฉะนั้นเรามักจะเป็นผู้ที่ถูกถามเสมอว่าทำยังไงให้ชีวิตกลมกล่อมขนาดนี้ แล้วอูนก็เลยเข้าใจว่าความทุกข์แบบนี้ต้องจัดการแบบนี้ แล้วยิ่งเรามีความชื่นชอบทางด้านพระพุทธศาสนาด้วยเราก็จะปล่อยวางวิธีนี้นะ คือเราเข้าใจว่าเราเข้าใจ แต่อูนเพิ่งมารู้ว่าเราไม่เข้าใจอะไรเลย ตอนที่อูนก้าวขาเข้ามาทำเพลงเฮอร์ไมโอน้อง 

อูน

เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ออกซิงเกิลเฮอร์ไมโอน้อง ?
อูน : คืออูนเพิ่งรู้ว่าเราน่ะเปลือกมากเลย ด้วยความที่อูนทำธุรกิจ เราทำด้วยความจริงใจและมั่นใจ เพราะอูนเป็นคนที่เรื่องเงินมาทีหลังจากความสุขในการทำงาน เลยมั่นใจนี่คือตัวตนว่าเราจัดการความทุกข์และความสุขได้ แต่ทั้งหมดนั้นคือเปลือกที่อูนเอาไว้หุ้มตัวเองหมดเลย ความสำเร็จในการทำงาน ความเข้าใจในโลกธุรกิจ ความชื่นชมที่ได้มาในฐานะนักธุรกิจ เพราะอูนเข้าใจว่าความทุกข์จากการที่คนมาบอกว่าเธอเป็นแบบนี้ ๆ ในโลกธุรกิจ อูนแทบไม่รู้สึกเลยเพราะอูนรู้ว่า VALUE ในการทำธุรกิจคืออะไร แต่พอเรามาเป็นเฮอร์ไมโอน้อง อูนไม่มีเปลือกแล้ว คนเข้าใจว่าการเข้าไปอยู่ในวงการบันเทิงมันคือการเอาเปลือกมาหุ้มเราแล้วก็แสดง มันกลับกันเลยเพิ่งรู้ว่าการอยู่ในสื่อที่ไม่ใช่นักธุรกิจเป็นยังไงครั้งแรกในชีวิต สิ่งที่เจอก็คือคอมเมนต์ที่ไม่ใช่การติเพื่อก่อ แล้วเราไม่เข้าใจว่าการคอมเมนต์คืออะไร จนได้ไปเจอพี่ลูกกลอฟ์เลยถามว่า ยูทำไมคอมเมนต์มันเปลี่ยนไป ทำธุรกิจมา 10 ปี ก็อยู่ในสื่อมาตั้งนานไม่เคยเจอคอมเมนต์แบบนี้เลย พี่เขาก็เลยให้คำตอบที่เป็นเหมือนการปลดล็อค อย่างแรกก็คือเมื่อไหร่ที่คุณตกลงเข้ามาไม่ได้มีตำแหน่งที่เขาอยากจะเคารพ เขาคัดค้านคุณทันที คนที่มีธุรกิจมีสิ่งที่จะพูดแล้วมีความสำเร็จอยู่ในมือคนจะฟังคุณทันทีเพราะคุณเป็นผู้ให้น่านับถือ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีหน้าที่มอบความบันเทิงคุณไม่ใช่คนเหล่านั้นอีกต่อไปแล้วนะ เขาจะมองว่าทุกอย่างเป็นวัตถุดิบของความบันเทิง ซึ่งต้องรับผิดชอบความสุขของคนดู อูนโชคดีอย่างหนึ่งคือในตอนที่มันเกิดขึ้นแล้วอูนยังงง ๆ ไม่รู้สึกทุกข์กับมัน อูนรับทุกอย่างเลยไปทุกรายการ สนุกกับการเรียนรู้ เลยทำให้เข้าใจหัวอกของคนในวงการ ต้องใช้ร่างกายเป็นวัตถุดิบและยังต้องเจอกับคำคอมเมนต์เหล่านี้

อูน

เห็นอะไรอีกไหมที่คุณบอกว่าเปลือกในตัวเอง ?
อูน : อูนพยายามปกป้องตัวเอง ด้วยผลงานตัวเองมาตลอดเลยค่ะ ทุกมุมทุกมิติที่ทำออกมามันสุดเท่าที่ความสามารถของเราในวัยนี้และในประสบการณ์แบบนี้จะทำออกมา เพราะฉะนั้นมันเป็นเหมือนเกราะป้องกันตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันพอเราเริ่มอนุญาติให้เราทำในสิ่งที่ตัวเองชอบได้บ้างเช่นเพลง อูนไม่เคยเอาพาร์ทนี้ออกมาให้ทุกคนเห็น เป็นตัวเองที่สุด แล้วพอทำออกมาเลยรู้สึกว่าฉันเปราะบางขนาดนี้เลยเหรอ อ่อนแอมากเลย จากที่เคยคิดว่าเข้าใจร่าเริงตลอดเวลา โอ้โห! ดิฉันก็คือเด็กน้อยตัวแดงท่านหนึ่งเลย เวลามีคนมาคอมเมนต์ทำให้เรารู้สึกนึกถึงเรื่องเดิม ๆ มันย้อนกลับมา ตกลงเราเป็นใครจะทำอะไรกันแน่ คำคอมเมนต์กลายเป็นเสียงในอดีตที่ได้ยิน นึกถึงเรื่องราวกับเพื่อน ๆ แล้วก็รู้สึกว่าเราเยอะเกินไป เยอะเกินไปมาโดยตลอด เราจึงกลบมันด้วยความเก่งกาจในการทำงาน รู้ตัวอีกทีก็เป็นคนที่ไม่มีเพื่อนแล้ว    

อูน

คุณเป็นคนที่สามารถแก้ไขทุกอย่างได้โดยเฉพาะธุรกิจหรือว่าที่ผ่านมาคุณจะควบคุมได้ แล้วกับเรื่องนี้จะเดินยังไงต่อ ?
อูน : พอเรามาทำเพลงเหมือนเราเอาเด็กมัธยมคนนั้นออกมาทำสิ่งนี้ เพราะเราเข้าใจว่าเราพร้อมแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องเพื่อน ถ้าย้อนกลับไปคืออูนเป็นคนที่โตมาด้วยตัวเอง พอเรามาทำธุรกิจ แต่งงานมีสามี มีเด็ก ๆ ในทีม อูนรู้สึกว่าไม่เคยได้รับความรักแบบนี้ มันคือความมหัศจรรย์ของความรักที่ไม่มีเงื่อนไข  พอทำเพลงออกมาก็เจอกับช่วงนี้ของชีวิตที่รู้แล้วว่ามีความเปราะบางอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน แล้วต้องมาถามผู้รู้อย่างพี่ลูกกลอฟ์ว่าต้องทำยังไงดี ยูเผชิญกับอะไรมาบ้าง ก็เลยค้นพบว่ามันมีแค่ 2 วิธี อ่านกับไม่อ่าน ถ้าอ่านแล้วรับไม่ไหวก็ต้องไม่อ่าน ตอนแรกก็ยังอ่าน เพื่อที่จะปรับปรุงแก้ไข แต่ในขณะเดี๋ยวกันพอเราอ่านเพื่อจะปรับปรุงมันพัง แก้ไม่ได้ แก้ยังไงในเมื่อตัวตนเราเป็นแบบนี้ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าอ่านแล้วมันปรับปรุงตัวเองเพิ่มไม่ได้ ไม่อ่านดีกว่า แต่เราเป็นคนดื้อต้องอ่านแบบจุดที่ว่าอีกนิดนึง รู้เลยว่าต้องไปหาหมอถึงจะหยุด แต่พอได้คุยกับพี่ลูกกลอฟ์เขาพูดว่า คุณไม่สมควรได้รับสิ่งนี้ คนที่รักคุณก็ไม่สมควรจะได้รับสิ่งนี้เหมือนกัน อย่าลืมว่าคนที่รักเราในตอนนี้ไม่สมควรที่จะต้องมารองรับความทุกข์แบบนี้ของเรา เพราะว่าเขารักคุณมาอย่างดี ก็เลยหยุดได้ค่ะ

อูน

ติดตาม คมชัดลึก ได้ที่ 
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ