บันเทิง

เคยใช้เงินวันละ 3 ล้าน "ดีเจมะตูม" แต่วันที่ตกต่ำ เพื่อนหายเกือบหมด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังจากที่ชีวิตผ่านมรสุมลูกใหญ่สำหรับดีเจฝีปากแซ่บ ดีเจมะตูม เตชินทร์ ล่าสุดขอมาแชร์บทเรียนชีวิตจากความผิดพลาดครั้งใหญ่ จนทุกวันนี้ชีวิตเปลี่ยนแบบสุดขั้ว ซึ่งมะตูมเปิดใจในรายการ ว่ามาดิ with Lily and Marie ถึงชีวิตของตัวเองที่เคยสูงสุดและจุดต่ำสุด

ดีเจมะตูม บอกว่า มีความฝันอยากเป็นดารา แต่อยู่เมืองนอกไม่รู้จะเป็นดารายังไง ก็เลยไปจัดรายการในแคมฟรอก ดีเจมะตูมก็คือมาจากแคมฟรอก มีฐานแฟนคลับระดับหนึ่ง และมีไอดอลคือ มดดำ อาไก่ โอปอลล์ อาตุ๋ย ชอบมากอยากเป็นเหมือนพวกเขาก็เลยส่งโปรไฟล์มาทางแกรมมี่ 8 ครั้ง และไม่เคยถูกเรียกมาออดิชัน จนมาอัดคลิปด่าคนในโซเชียลแคม ตามสไตล์ของตัวเอง เช้ามามีคนดูคลิปนั้น 3 ล้าน พอเริ่มเป็นที่รู้จักในโซเชียลก็เริ่มถูกทาบทามจากคนในวงการบันเทิง คนแรกคือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ทักมาจ้างงาน หลังจากนั้นก็พาไปเจอ พจน์ อานนท์ ก็เลยได้เล่นหนัง และเล่นละครช่อง 3

ฉายาตูมสนิท คือเป็นคนที่เฟรนลี่มาก มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ทำไมเราถึงบล็อกสังคม จะเป็นคนไม่เชิด เพราะการที่เชิดเป็นการหลอกตัวเองว่าเราดัง ต้องทำตัวให้คนเข้าถึงได้ หลายคนมองว่าตูมดูไม่จริงใจ ตูมสนิท เจ้าหญิงแห่งวงการตีสนิท เวลาเราลงรูปเขาก็ยังมาเมนต์เรา แล้วเราจะไปคอมเมนต์เขากลับ กลายเป็นว่าเราผิด ก็เลยไม่เมนต์ใครเลยอยู่วงการมา 8 ปี มีขึ้นสุด และลงสุด ตอนที่ชีวิตขึ้นสุดใช้เงินวันละ 3 ล้าน เพราะรวย เคยเห็นยอดเงินในบัญชี 500 ล้านแต่ไม่ใช่ของตูมนะ เป็นของบริษัท เงินเป็นตัวที่หายนะกับชีวิตเหมือนกันนะถ้าเกิดหลงและใช้ไม่เป็น เพราะตอนนั้นเข้าใจว่า พอมีเงินทุกอย่างในชีวิตต้องหรูหรา 

 

เคยใช้เงินวันละ 3 ล้าน "ดีเจมะตูม" แต่วันที่ตกต่ำ เพื่อนหายเกือบหมด

 

 

เคยเห็นรองเท้าสวยมาก แต่ยังไม่ขายในไทย กดจองเฟิร์สคลาสไปซื้อรองเท้าที่ฝรั่งเศสแล้วก็กลับเลย และรองเท้าที่ซื้อมาคู่นั้นก็คือยังไม่ได้ใส่เลย และในวันที่ไปซื้อรองเท้า พนักงานในช็อปไม่สนใจ ไปดูแลลูกค้าคนอื่น ก็เลยสับหน้า ขอลองรองเท้าเบอร์ 44 และเอาเบอร์ 44 ทุกคู่บนชั้นนี้ เพื่อที่จะดึงพนักงานทุกคนมาสนใจเรา พอวันที่รวยไวก็จะใช้เงินแบบไม่ได้เห็นคุณค่าของมันตูมเคยไม่เห็นคุณค่าของเงินมาแล้วครั้งหนึ่ง

 

ส่วนเรื่องปาร์ตี้วันเกิดของตูมไม่เคยต่ำกว่าครึ่งล้าน แค่ไม่กี่ชั่วโมง พอเรามาอยู่จุดนี้ จุดที่เป็นมะตูมคนปัจจุบัน รู้สึกอยากจะตบหน้าตัวเองมากเลย ทำไปทำไม แต่ตอนนั้นคืออยากเป็นที่รักของสังคม จนใช้เงินผิดประเภท ประโคมทุกอย่างเพื่อให้คนมารวมอยู่ในจุดที่ให้ทุกคนมาตะโกนในหูบอกเราว่า กูรักมึงนะ มึงเก่ง

 

การที่คุณร่ำรวยและประสบความสำเร็จ ซื้อของตอบแทนตัวเองจากความเหน็ดเหนื่อยอันนี้คือแรงบันดาลใจ แต่การที่คุณซื้อของมาถมตัวเองและกดคนอื่นไปด้วย อันนี้เรียกว่าควาย เอาจริงๆ ตอนที่ตูมหลง ต้นหอมยังเอาไม่อยู่เลย ตูมกับพี่หอมคือไม่คุยกันเลย ตอนนั้นพี่หอมเป็นคนเดียวเลยที่ด่า เขาถามว่า ใช้เงินไปเท่าไรในวันเกิด ไม่อายเหรอทำแบบนี้ เขาเป็นเพื่อนมึงจริงๆ หรือเปล่า ลงรูปในไอจีว่าอยู่ดี กินดี อยู่สบาย กูดีใจด้วยนะ แต่ทำไมแคปชั่นต้องทำให้คนเขาหมั่นไส้ พี่หอมเขาสอน เป็นเพื่อนที่ดีมาก แต่ ณ ตอนนั้นก็บอกเขาไปว่า ฟังนะ ตอนนั้นไม่เคยมี แต่วันนี้มีก็อยากจะลง แล้วพี่หอมก็ไม่เคยพูดอีกเลย

 

จากวันนั้นที่เราใช้เงิน อันนี้กล้าพูดเลยนะ และในวันนี้ ดีเจมะตูมมีเงินในบัญชีไม่ถึงล้านบาท แต่ไม่เคยมองว่าตัวเองตกต่ำ เพราะต่อให้วันนี้ไม่มีเงินเลย แต่ตูมมีความสุข แม่ตูมมีความสุข คนที่ตูมรักมีความสุข อันนี้ไม่เรียกว่าตกต่ำ

 

เคยอยากตาย ตอนนั้นติดโควิดอยู่ในห้อง ICU เปิดทีวีเจอข่าวตัวเอง คนที่เราเคยเชิญมางานวันเกิด แต่ตอนที่เราติดโควิดคนเหล่านั้นโพสต์ข้อความด่าเราหมดเลย อันนี้คือสิ่งที่ทำให้รู้ว่าไม่มีอยู่จริง เพื่อนเราอยู่ไหน เพื่อนเราจริงๆ อยู่ไหน มันมีแค่คนที่เราทิ้งเขา คนที่เขาด่าเราแล้วเราไม่ฟัง ต้นหอมคือคนแรกที่โทรมา ไม่พูดอะไรโทรมาฟังเสียงลมหายใจเฉยๆ โทรมาเพื่อให้รู้ว่าเรายังมีชีวิตอยู่เท่านั้น มันเป็นมูลค่าที่ใหญ่มาก สิ่งที่พี่หอมทำให้ในวันนั้นทำให้ตูมอยากไปต่อ แม่ ป้าตือ นี่คือคนที่เราไม่มีอยู่ในชีวิต แต่วันที่เราตกต่ำเขาเข้ามาในชีวิต

 

วันที่อยู่ใน ICU แล้วป้าตือโทรมาบอกว่า อย่าคิดว่าการติดโควิดครั้งนี้ของตูมเป็นจุดจบนะ แต่มันเป็นจุดเปลี่ยนให้ดีขึ้น ถ้าต่อไปนี้เพื่อนที่เราคิดว่าเป็นเพื่อนเขาเปลี่ยนไปกับเรา อย่าเสียใจ เป็นเรื่องปกติ วินาทีนี้หนูจะได้คัดว่าเพื่อนคนไหนคือไข่แดง ไข่ขาว และ เปลือกไข่ ให้เก็บคนที่เป็นไข่แดงไว้ให้นานที่สุดเลยนะ คนอื่นที่เป็นเปลือกอยากจะด่าจะแขวะยังไงก็ปล่อยเขาไป

 

และตอนนี้สำหรับการทำงาน รู้สึกว่าโอเคที่สุดตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมา ทุกวันนี้การมาทำไม่เหนื่อย เพราะไม่ต้องแข่งกับใคร เพราะเมื่อก่อนตูมต้องแข่ง ออกรายการจะต้องเป็นมะตูมที่เสียงดังที่สุด เด่นที่สุด และต้องตลกที่สุดในรายการ คำว่าที่สุดคือความฉิบหาย ตอนนี้งานที่ตูมรับคืองานที่ตูมชอบ มีความสุขแบบนี้ ไม่เหนื่อย

 

หลายคนมองว่าไปบวชมาแล้วจะต้องดีขึ้น นิ่งขึ้น ไม่นะครับ อย่าโยนภาระการเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่ดีขึ้นในคราบผ้าเหลือง ผ้าเหลืองไม่ใช่สิ่งที่เอาไว้ชุบตัว เราเป็นเด็กที่ให้เงินแม่เดือนเป็นแสน แต่ไม่เคยไปกินข้าวกับแม่เลย แต่วันนี้ซื้อบ้านให้แม่ ไม่เคยให้เงินแม่เลย แต่กินข้าวกับแม่ ซึ่งเห็นแม่มีความสุขขึ้นมาก การบวชเรียนก็ให้อะไรกับตูมเหมือนกันทำให้ตูมกลับไปเป็นลูกที่น่ารักของครอบครัว การบวชคือการอยู่กับตัวเอง มันช่วยให้เรารู้ว่าชีวิตก็แค่นี้ จะอยากดังที่สุดทำไม อยากรวยที่สุดทำไม อยากเก่งที่สุดทำไม ใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไปสิ

 

ก่อนหน้านี้รายการนี้เคยติดต่อมะตูมมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ปฏิเสธไปเพราะตอนนั้นเป็นมะตูมคนก่อน เพราะตอนนั้นคิดว่าจะต้องให้ออกมาพูดอะไรแรงๆ แล้วเอามาตัดให้โดนคนด่าแน่ๆ ไม่ได้อคติกับบุคคลนะ แต่อคติกับรายการ แต่พอมาวันนี้ เขาไม่ได้ต้องการทำให้เราดูไม่ดี แต่อยู่ที่เราว่าเป็นคนดีหรือเปล่า ซึ่งในวันนี้รู้สึกว่ามีดีระดับหนึ่งเลยกล้ามานั่งในรายการนี้

 

ขอบคุณที่ติดโควิด เมื่อก่อนตูมโทษนะ ทำไมต้องโดนขนาดนี้ ทำไมต้องโดนด่าขนาดนี้ ไม่ได้เป็นคนจับค้างคาวมากินนะ ความคิด ณ ตอนนั้นนะ มันหลงทาง มันเสียใจ มันทำอะไรไม่ถูก แต่ ณ วันนี้อยากกราบขอบคุณโควิดมากๆ เลย ถ้าตูมไม่ได้ติดโควิดวันนั้น ตูมไม่มีวันคิดได้ ตูมจะไม่มีวันรู้เลยว่าคุณค่าของความเป็นเพื่อนคืออะไร คุณค่าของครอบครัวคืออะไร ต้องขอบคุณโควิดที่ทำให้ตูมรู้ว่าควรจะรักใครและใครบ้างที่รักตูม.

 

เคยใช้เงินวันละ 3 ล้าน "ดีเจมะตูม" แต่วันที่ตกต่ำ เพื่อนหายเกือบหมด

 

เคยใช้เงินวันละ 3 ล้าน "ดีเจมะตูม" แต่วันที่ตกต่ำ เพื่อนหายเกือบหมด

 

เคยใช้เงินวันละ 3 ล้าน "ดีเจมะตูม" แต่วันที่ตกต่ำ เพื่อนหายเกือบหมด

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ