"แพรรี่" มีคำตอบดราม่า เชิดใส่ ไม่ขอเก็บมาใส่ใจ มองแค่พลังบวก

ตั้งแต่บริบท และการแต่งกาย ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งคู่  ล่าสุด ผู้สื่อข่าวบันเทิงคมชัดลึก อย่าง "ภาคย์ พรภวิษย์" ได้มีโอกาสเจอตัวจริงอีกครั้ง ในงานวันประกวดมิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร ปีล่าสุด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เลยขอดึงตัวมาพูดคุย ขอจ่อไมค์ตอบทุกเรื่องที่ผ่านมาหน่อย เพราะไม่ได้เจอกันนาน 

ซึ่งในวันนั้น เป็นความบังเอิญ ที่เพื่อนสาว อย่าง บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังอย่าง มาดามแพม ชวนมาดูการคัดนางงามพร้อมใช้ของเวทีเมืองหลวงพอดี  

แพรรี่ บอกว่าเพื่อนชวนมา จึงมา "ส่วนเราเน้นสร้างตัวตนและทำงานที่ตัวเองรัก ถ้ามีงานอีเว้นท์ งานออกสื่อบ้างก็ยินดีรับค่ะ  แต่ใครจะคิดยังไงดิฉันห้ามปากใครไม่ได้ แค่รู้สึกว่าเราเป็นแบบไหนแล้วมีความสุข เราควรเป็นแบบนั้น  ดิฉันยังยืนยันคำพูดเดิมเสมอ ว่า ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองค่ะ  ทั้งดราม่าทั้งทัวร์ลงเยอะมากค่ะ แต่ว่าโดยที่สุดแล้วชีวิตมันยังต้องไปต่อ เราต้องพยายามอยู่ต่อบนโลกนี้ให้ได้อย่างที่เรารู้สึกว่า มันดีกับตัวเราที่สุดแล้วก็ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น"

บอกอีกว่า  "เราเป็นคนที่ไม่เก็บอารมณ์ในทางที่ไม่ดี อะไรที่ไม่มีพลังบวกเราจะไม่เก็บมาใส่ใจ"

ส่วนเรื่องไลฟ์สดกับสมปองอีกครั้ง ในโอกาสครบรอบปี ที่สึกมาใช้ชีวิตปกติ ซึ่งไปคนละทิศคนละทางกัน ที่ผ่านมา แพรรี่เล่าว่า...

"พี่ปองเขาก็ยังมีคอนเซ็ปต์ของเขาอยู่ แต่อย่างเรานี้เปลี่ยนเยอะเลย แต่ว่าใดๆถึงแม้เราออกมาพร้อมกัน แต่เราก็แยกกันไปทำหน้าที่ของใครของมัน และเริ่มต้นการใช้ชีวิตในแบบของตัวเองใหม่ค่ะ แต่เราสองคนยังสามารถที่จะพูดคุยกันได้เหมือนเดิม เป็นพี่น้องที่ดีและร่วมงานกันได้ตลอดค่ะ"

ส่วนกระแสดราม่า น้อยลงหรือมากขึ้นนั้น "อาจจะมีประเด็นน้อยลงไปบ้างเพราะคงไม่มีอะไรให้ด่าแล้ว คนด่าอะไรดิฉันก็ทำไปหมดแล้ว แต่งหญิง โดนด่า ก็ทำ ,  มีแฟน โดนด่า ก็ทำ ไม่รู้จะโดนด่าอะไรอีกแต่ก็ทำ"

"ดิฉันคิดว่ามันเป็นการใช้ชีวิตไม่ได้เป็นการสร้างกระแส แต่ดิฉันขอโทษด้วยที่การใช้ชีวิตของดิฉันมันกลายเป็นความลำบากของคนอื่น มันมีอยู่แล้วค่ะสำหรับคนที่ใช้ชีวิตที่มันไม่ตรงจริตกับเขา เขาก็ต้องด่า แต่ว่าหน้าที่ของคนเราทุกคนเลยก็คือ ทำตามความฝันของเราเอง เราไม่ได้มีหน้าที่จะต้องมาอธิบายหรือนั่งแก้ต่างให้ใครฟังค่ะ มันไม่จำเป็นที่ต้องอธิบายเลยบางเรื่องมันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเลยมันไม่สำคัญค่ะ หน้าที่ของคนแต่ละคนคือการเคารพการเป็นตัวตนของคนอื่นที่เขาไม่ได้ไปสร้างความลำบากให้ใคร"

งานนี้เคลียร์ดราม่าสื่อด้วยว่า ไม่ได้มีปัญหากับผู้สื่อขช่องไหนเลน แค่มีความรู้สึกว่า "คนที่เอาข่าวเราไปลงและมันไปเป็นความจริง สร้างความเกียจชัง หนูคิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของสื่อค่ะ อย่าใจร้ายกับหนูเลย 
บุคลิกมันขายได้หลายอย่าง สายฮาก็ได้ สายผู้หญิงก็ได้ อย่างเช่นเมื่อก่อนนี้เราแต่งตัวแมนๆจะให้เรามาแต่งตัวใส่ไข่มุข ใส่วิก แต่หญิง เครื่องสำอางค์ก็อยากเข้าเรา ศัลยกรรมก็อยากเข้าเราทุบหน้าให้  เสนอทำนมให้เราค่ะ แต่ยังยืนยังขอเป็นแบบนี้ดีกว่า วันไหนเราจะแต่งลุคผู้เราก็แต่งได้ วันไหนจะแต่งหญิงก็แต่งได้ เรื่องแต่งหญิงก็อาจจะมีมาเรื่องๆแล้วแต่ ไทม์มิ่ง ในช่วงเวลานั้นว่าจะสนุกกับชีวิตในรูปแบบอื่นที่แตกต่างจากนี้เน้นสร้างความฮือฮาให้คนอื่นและแปลกใหม่มากกว่าค่ะ หนูเป็นคนไม่ชอบหยุดตัวเองให้มันเป็นภาพจำภาพเดียวค่ะ อยากทำอะไรหลายๆอย่างที่มีความสนุกมากขึ้นค่ะ หนูว่ามันไม่มีประโยชน์หรอกกับการเร่เข้าไปยุ่งย่ามในชีวิตคนอื่น ไปพยายามด่าทอ หรือว่าให้ให้เขา โดยที่เขาไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้เรา หนูว่าเปลี่ยนเวลาตรงนั้นแล้วเอาเวลามาเปลี่ยนตัวเองให้มันดีและมีความสุขมากขึ้นดีกว่าค่ะ" แพรรี่ กล่าว