บันเทิง

พร้อมมาก "โตโน่ ภาคิน" กับภารกิจว่ายข้ามโขง ก่อนตามติดรายงานสดที่คมชัดลึก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังจาก อย่างที่ทราบกันว่า ในเดือนนี้ "โตโน่ ภาคิน" จะทำโปรเจกต์ช่วยเหลือโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ไม่ลงในทะเลแล้ว แต่จะเป็นแม่น้ำโขงแทน ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีการซ้อมมาบ้างแล้ว งานนี้ ผ่านมาครึ่งเดือน เป็นยังไงกันบ้าง ซึ่งเปิดโครงการอย่างเป็นทางการแล้ว

"โตโน่ ภาคิน" เตรียมทำภารกิจใหญ่ช่วยเหลือสังคมอีกครั้ง  เปิดโครงการ 
“One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” ก่อนจะติดตามข่าว และบรรยากาศสดๆได้ ผ่านทุกช่องทางคมชัดลึก เพราะคมชัดลึกบันเทิง ส่งผู้สื่อข่าว อย่าง "ภาคย์ พรภวิษย์" ลงตามติดริมฝั่งโขงแน่นอน 

ซึ่งครั้งนี้หนุ่มโตโน่  จะว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ระดมทุนให้กับโรงพยาบาลไทย และ สปป.ลาว   ประกอบด้วย โรงพยาบาลนครพนม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว  จัดหาเครื่องมือการแพทย์ให้โรงพยาบาล  เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วย  

พร้อมกันนี้ยังเชิญชวนประชาชน  นักท่องเที่ยว  ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้  ด้วยการช่วยกันทำความสะอาดแม่น้ำไทยและลาว  ให้สวยงามปราศจากขยะ   

ก่อนจะอัปเดตก่อน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก่อน หลังจาก "โตโน่ ภาคิน" พูดถึงโปรเจกต์ที่กำลังจะทำในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 คือ เตรียมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ระยะทางไปกลับ 15 กิโลเมตร ก่อน ณ ขณะนี้ ตั้งเป้าไว้ 10 ล้าน 

ส่วนเงินบริจาคที่ได้จากการว่ายน้ำในครั้งนี้ เจ้าตัวตั้งใจมอบให้กับโรงพยาบาลทั้ง 2 ฝั่งริมโขงทั้งหมดเลย โดย โตโน่ ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการที่ตนเองได้ตั้งใจว่า...

พร้อมมาก "โตโน่ ภาคิน" กับภารกิจว่ายข้ามโขง ก่อนตามติดรายงานสดที่คมชัดลึก

ซึ่งบอกไว้วันนั้นว่า  “จริงๆ ตอนนี้ขาแข็งแรงแล้ว น่าจะพร้อมแล้ว แต่ในเรื่องของส่วนบนน่าจะยังต้องฝึกอีกเยอะครับ เพราะที่ผ่านมาเราก็ใช้ฟุตบอลช่วยด้วยในเรื่องของหัวใจ แต่วิธีการหายใจมันก็คนละแบบกับการว่ายน้ำระยะไกลครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าละครที่ผมถ่ายอยู่ วิวาห์ฟ้าแล่บ จะปิดกล้องแล้ว ถ้าละครปิดกล้องเมื่อไหร่ผมก็จะลงน้ำ ซ้อมได้จริงๆ จังๆ เพราะตอนนี้ยังลงน้ำกลางแจ้งไม่ได้ เดี๋ยวจะดำมาก มันจะไม่ต่อเนื่องกับละครครับ ก็ต้องซ้อมในสระปกติไปก่อน เฉลี่ยซ้อมวันละ 2 กิโลเมตร เราต้องซ้อมให้หนัก เพราะเวลาว่ายจริงมันมีในเรื่องของกระแสน้ำด้วยครับ แต่เดี๋ยวเราค่อยขยับจากสระว่ายน้ำไปเป็นบึงครับ

และ ที่หลายคนเป็นห่วง ก็ขอบคุณมากครับทุกคน ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เรื่องสิ่งแวดล้อมสำคัญกว่าครับ เรื่องที่ทำไมเราถึงมาว่ายสำคัญกว่า แม่น้ำโขงอยู่กับเรามานาน ให้ทั้งอาชีพ อาหาร มีประวัติความเป็นมาที่เรารัก เราศรัทธา และผูกพัน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทยและฝั่งลาว ถ้าการว่ายครั้งนี้ทำให้คนหันมาช่วยกันดูแล ใส่ใจดูแลแม่น้ำลำคลองกันมากขึ้น ประเทศของเราเป็นประเทศที่มีแม่น้ำหลายสายเลยนะครับ สำคัญมากๆ แล้วลองคิดดูถ้าเราทำให้แม่น้ำทุกสายของบ้านเรามันสวยงาม มันสะอาด เราจะได้ประโยชน์จากตรงนี้อีกมากมายขนาดไหน"

พร้อมมาก "โตโน่ ภาคิน" กับภารกิจว่ายข้ามโขง ก่อนตามติดรายงานสดที่คมชัดลึก

เล่าอีกว่า "แต่ในทางกลับกันถ้าเกิดว่าแม่น้ำลำคลองที่เรามีอยู่มันเน่าเสีย มันพังไปหมด เราจะทิ้งโลกใบนี้ให้กับลูกหลานเราแบบไหน นั่นเป็นคำถามที่การว่ายน้ำครั้งนี้อยากจะให้ทุกคนหันมาสนใจครับ รวมถึงโรงพยาบาลที่เราจะช่วย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งนครพนม หรือท่าแขกของฝั่งลาว โควิดที่ผ่านมา คุณหมอ คุณพยาบาลทำงานอย่างหนักมาก อุปกรณ์การแพทย์ขาดอีกหลายอย่าง"

"ดังนั้น ถ้าการว่ายครั้งนี้แล้วทุกคนพอที่จะเมตตาผม หรือช่วยผม ถือว่ามาดูกีฬาก็ได้ครับกับการว่ายข้ามแม่น้ำโขงครั้งนี้ ระยะทางไป-กลับประมาณ 15 กิโลเมตร และผมก็ไม่เคยว่ายไกลขนาดนี้มาก่อนครับ คงจะเป็นวันที่หนักและเหนื่อยมาก แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ทุกคนจะได้ทราบ ได้รู้ ว่าแม่น้ำโขงสำคัญกับเรายังไง แม่น้ำลำคลองในบ้านเราสำคัญกับเรายังไง รวมถึงถ้าทุกๆ คนช่วยกันคนละ 1 บาท คนละ 5 บาท คนละ 10 บาท ในการช่วยโรงพยาบาลทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวครั้งนี้ ผมคิดว่ามันคงเป็นอะไรที่ดีมากๆ เลยครับ”

ทั้งนี้ ส่วนเรื่องความปลอดภัยและอันตรายที่จะเกิดขึ้น เช่นเรื่องของการเกิดน้ำวนก็พยายามศึกษา และรู้ว่าตัวเองทำเพื่ออะไรก็ต้องระวัง แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ยินดีที่จะเจอ แต่ขอแค่ให้พี่น้องชาวไทย-ชาวลาวที่ฟังอยู่นี้ ช่วยกันตื่นรู้เรื่องของสิ่งแวดล้อมขึ้นมาสักนิด และอยากให้พี่ๆ สื่อไปช่วยเป็นกำลังใจด้วย" อย่างที่บอกหลายๆครั้ง โดยเริ่มที่ลายพญานาคจ.นครพนม ไปขึ้นที่ฝั่งลาวแล้วว่ายกลับมาที่เดิม ไปขึ้นที่พระธาตุศรีโคดตะบองของฝั่งลาว และก็ว่ายกลับมาจบที่ลานพญานาค

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการรับบริจาคใดใด สามารถติดตามได้ที่อินสตราแกรมของโตโน่ก่อน ส่วนความคืบหน้า คมชัดลึกบันเทิง จะรายงานให้ทราบต่อไป รวมถึงวันงาน จะตามไปติดริมฝั่งโขง เก็บบรรยากาศให้ได้ชมกันนะจ๊ะ 

ล่าสุด ไปฟิตซ้อมอย่างหนัก เพราะเหลือเวลาเดือนเดียวโดยประมาณ  เพิ่งโดนต่อต่อยมา? เลยมีโอกาสได้คุยกับสื่อมวลชนอักครั้ง ในวันที่ 13 กันยายน 2565 
โตโน่เล่าว่า  “ก็โดนต่อต่อย(หัวเราะ) ตอนนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคิดไปในทางที่ดีหมดเลยครับ ตอนที่โดนต่อยก็เจ็บครับ ก็คิดในใจว่าถ้ามาทักทาย ถ้ามาช่วยผมก็ขอให้แผลหายภายในวันเดียว ก็หายครับ ไม่มีอาการอะไร มีแค่รอย โดนไป 3 จุดพอดี"

ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นกำลังจะห่มผ้าพระธาตุศรีโคดตะบอง แล้วพอดีมีรังต่ออยู่แถวพระธาตุ แต่ก็โชคดีที่พอพวกเขายกโขยงมาต่อย 3 จุดแล้วเขาก็บินกลับไป ก็ถือว่ามาทำความรู้จักกันครับ(หัวเราะ)”

เราโดนต่อยอยู่คนเดียว?
“ตอนนั้นก็ตกใจนะครับ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด พอโดนต่อยแล้วเราไม่อยากถอย เราอยากจะห่มให้ครบรอบพระธาตุก็ทำจนเสร็จ ก็คิดในใจว่าเขาอาจจะมาเตือนผม หมายถึงถ้ามันเป็นเรื่องที่มองไม่เห็น ก็ให้แสดงออกมา แผลก็โอเค คุณหมอก็ตกใจเพราะบางคนเป็นหนัก แต่ว่าเราไม่เป็นอะไรเลย ก็ดีใจครับ ไม่แพ้ไม่เป็นอะไรเลย”

พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ทำให้มีความเชื่อมากขึ้นไหม?
“อย่างที่บอกครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรตอนนี้ ถือว่าเป็นเรื่องบวกหมดเลย ผมคิดบวกหมดเลย ผมถือว่าเขามาทักทายครับ จะมองเป็นเรื่องธรรมชาติผมโดนต่อยก็แค่นั้นเองครับ แต่ถ้าจะเป็นเรื่องของกำลังใจก็คิดอย่างเดียวว่าเราอยากจะช่วยคุณหมอพยาบาลของทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว”

ความพร้อมตอนนี้หลังจากไปประชุมมาเป็นยังไงบ้าง?
“ใจอยากช่วยครับ แต่ว่าร่างกายคงต้องให้เวลายังอีกไกลมากเลยครับกว่าจะถึงเป้าทั้งหมด 15,000 เมตร เราซ้อมได้วันละ 1,000 กว่าเมตรก็เพลียเหมือนกัน เรายังมีเวลาอีก 30 กว่าวัน ทุกวันมีความหมายมาก อยากซ้อมแต่บางวันต้องไปเล่นคอนเสิร์ต บางวันก็ต้องมางาน ก็จะเหลือเวลาน้อยลง จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ ผมเป็นแค่ตัวเชื่อมครับ แต่เราจะช่วยคุณหมอคุณพยาบาลได้มากน้อยขนาดไหนอยู่ที่ทุกคน คนละ 5 บาท 10 บาท”

ณิชาเป็นห่วงเรามากแค่ไหน?
“ณิชาก็เป็นกำลังใจให้ตลอดครับ ได้ยินว่าน้องจะไปช่วยรำบวงสรวง ครั้งนี้ผมอยากให้เงินทุกบาททุกสตางค์ไปที่คุณหมอหมด”

มีความกังวลใจอะไรไหม?
“กังวลตรงที่กลัวพวกเราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมคือเวลาที่มีปัญหาอะไรขึ้นมาเฉพาะหน้า เราก็จะลืมปัญหาหลักจริงๆ เช่น เวลาโควิดมาเราก็จะโฟกัสที่โควิดอย่างเดียว น้ำท่วมมาเราโฟกัสที่น้ำท่วมอย่างเดียว pm2.5 เราก็โฟกัสที่ pm2.5 โดยที่เราลืมไปว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันคือเรื่องของสิ่งแวดล้อมหมดเลย สิ่งแวดล้อมมันแย่ อากาศร้อนมากขึ้น โลกร้อนมากขึ้น ฝนตกหนักขึ้นเพราะอากาศมันร้อน น้ำที่มันระเหยเป็นไอมากขึ้น ดังนั้นผมอยากให้ทุกคนช่วยกันแก้ที่ต้นเหตุของมัน”

การว่ายน้ำครั้งนี้เราช่วยคุณหมอคุณพยาบาล แต่สาเหตุหลักสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของสภาพระบบนิเวศของแม่น้ำโขงรวมถึงแม่น้ำทุกสายในประเทศของเรา “

อยากให้เป็นระยะยาว? “
“แน่นอน เราไม่มีทางแก้ปัญหาพวกนี้ในระยะเวลาสั้นๆ เราไม่สามารถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ด้วยกระแส ต้องทำให้เรื่องนี้เราทำต้องทำมันทุกวัน ปลูกฝังเข้าไปในทุกจิตใจของทุกคนมันถึงจะช่วยได้”

เราก็ยังยืนยันว่าการว่ายน้ำอาจจะไม่ได้ช่วยเปลี่ยนโลก?
“ใช่ครับ ผมรู้ว่าการเก็บขยะหรือการว่ายน้ำมันไม่สามารถทำให้โลกดีขึ้นภายได้ในวันเดียว แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย มันก็แย่ อย่างน้อยการว่ายหรือการเก็บขยะมันก็มีทุกคนมาถามว่าว่ายทำไม คุณเก็บขยะไปทำไมคุณก็รู้ว่าวันพรุ่งนี้คนก็ทิ้งอยู่ดี แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย มันจะพังไปมากกว่านี้”

อยากกระตุ้นประชาสัมพันธ์ออกไป?
“ถูกต้องครับ ที่สำคัญหมอพยาบาลเขาต้องการเครื่องมือจริงๆ ไม่ว่าจะช่วยเหลือคนหรือสัตว์”

“ที่ผ่านมาการว่ายน้ำข้ามทะเลมันโอเคมากครับ การว่ายน้ำคราวที่แล้ว ผมขอบคุณทุกคนมาก เราว่าย 5 วันเราได้เกือบ 20 ล้าน เราได้เครื่องมือช่วยสัตว์ทะเลที่เราไม่เคยมี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเอ็กซเรย์ เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องผ่าตัดหัวใจ รถพยาบาลที่เอาไว้ช่วยเหลือสัตว์ทะเล 2 คันแรกของประเทศ เราได้มาหลายอย่าง ผมหวังว่าครั้งนี้ในวันที่ 22 ตุลาคม ขอให้ช่วยคุณหมอพยาบาลฝั่งนครพนมและฝั่งลาวครับ”

ครั้งนี้ตั้งเป้าไว้เท่าไหร่?
“ผมอยากได้สัก 10 ล้าน คุณหมอที่นครพนมขาด 5.6 ล้าน ฝั่งลาวยังไม่ได้ส่งตัวเลขทั้งหมดมาให้ผม แต่ผมคิดว่าถ้าได้ที่ 5 ล้าน มันก็น่าจะช่วยคุณหมอได้เยอะ เราเปิดรับบริจาคตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม ผ่านมูลนิธิเทใจ”

แต่สิ่งที่ทำมันกระทบกับร่างกายเรา ครั้งหน้าเราอยากจะเปลี่ยนเป็นทำอย่างอื่นไหม ?
“คือเรื่องผมเป็นเรื่องเล็กครับ ผมจะเป็นยังไง ผมว่ามันเป็นเรื่องเล็ก เรื่องของหมอพยาบาลที่เขาเหนื่อยอยู่ เรื่องของแม่น้ำโขงที่แทบจะไม่มีปลาแล้ว เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าตัวผมเองนะ ดังนั้นผมแค่ตัวเชื่อมเล็กๆ แต่ว่าโลกมันจะดีขึ้นได้ไหม ประเทศจะดีขึ้นได้ไหม เป็นเรื่องของทุกๆ คนครับ เราจะช่วยกันไหม เราจะรักกันไหม เราจะช่วยกันลงมือทำให้มากกว่าพูดไหม ยังก็ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ “

พร้อมมาก "โตโน่ ภาคิน" กับภารกิจว่ายข้ามโขง ก่อนตามติดรายงานสดที่คมชัดลึก

ติดตาม คมชัดลึก ได้ที่ 

Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่    (https://awards.komchadluek.net/#)


โดยภารกิจ “One Man & The River  หนึ่งคนว่าย หลายคนให้”  จะจัดขึ้นในวันที่ 22 ต.ค.นี้   ณ  ลานพญาศรีสัตตนาคราช จ. นครพนม  ตั้งแต่เวลา 7.00 น. เป็นต้นไป  และสามารถรับชมสดได้ทางเพจ Facebook : เก็บรักษ์ , TrueID , Facebook : one31    โดยโตโน่จะว่ายน้ำไปกลับระหว่าง        จุดองค์พญาศรีสัตนาคราช เขตเทศลาลเมืองนครพนม  กับ วัดพระธาตุศรีโคตรบอง แขวงคำม่วน สปป.ลาว รวมระยะทางไปกลับ 15 กิโลเมตร ซึ่งในช่วงต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา หนุ่มโตโน่ และทีมงาน  ได้เดินทางไปสักการะขอพรองค์พระธาตุพนม เพื่อความเป็นสิริมงคล และขอให้การจัดกิจกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น  พร้อมประชุมหารือกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และโรงพยาบาลนครพนม  รวมทั้งลงสำรวจพื้นที่ว่ายน้ำในจุดต่างๆ ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว  ซึ่งนับเป็นภารกิจสุดโหดอีกครั้งในชีวิตหนุ่มโตโน่  
ร่วมสมทบทุนโครงการ  “One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้”  ได้ที่ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (โครงการเทใจ)  ได้ตั้งแต่วันนี้ ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่ 034-0-04773-2  และสามารถติดตามรายละเอียดโครงการได้ที่ Facebook : เก็บรักษ์  /  IG : mootono29

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ