เส้นทางชีวิต "ภูมิ ภูริพันธ์" พระเอกดาวรุ่ง กว่าจะมีวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

ล่าสุดกับบททดสอบครั้งใหม่ในละครที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ "ศีรษะมาร" กับบท "กรรณ" ที่เป็นการพลิกคาแรคเตอร์สุดขั้ว กลายเป็นหนุ่มคลั่งจิตหลอน แต่กว่าจะก้าวมาถึงวันนี้ หนทางของพระเอกหนุ่มคนนี้ จะเป็นอย่างไร วันนี้ทีมบันเทิงคมชัดลึกออนไลน์ มีบทสัมภาษณ์แบบเจาะใจ มาให้แฟน ๆ ได้ทำความรู้จักกับพระเอกคนนี้มากขึ้น

 

ทันทีที่รู้ว่าจะได้เป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรก ในมงกุฎกรรม รู้สึกยังไง?
ตื่นเต้นก่อนเลยครับ แต่ด้วยความที่ตัวภูมิ ไม่ค่อยมองว่าตัวละครนี้จะเป็นพระเอกหรือเป็นใคร ภูมิคิดแค่ว่าจะทำบทบาทที่ตัวเองได้รับให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นบทไหนก็ตาม ส่วนตัวแล้วภูมิรู้สึกว่าภูมิชอบในการแสดง อยากทำให้มันดีที่สุดแค่นั้นครับ ในมงกุฎกรรมผู้มองว่าภูมิก็เป็นลูกคนหนึ่งของแม่ แค่นั้นครับ แต่ด้วยความที่ตัวละคร ไม้ มีความสำคัญกับเรื่องมาก ก็เลยจะรู้สึกกดดันกับตรงนี้มากกว่าครับ

ถือว่าเป็นการพิสูจน์ความสามารถในการแสดงของตัวเองด้วยใช่ไหม?
ใช่ครับ ตัวละครนี้ถือว่ามีเส้นทางไหนการเดินเรื่องของตนเองเข้มข้นที่สุดตั้งแต่ภูมิเคยแสดงมาเลยครับ  ถือว่าได้พัฒนาตัวเองในหลาย ๆ ด้าน ได้เรียนรู้ เทคนิคทางการแสดง จากนักแสดงรุ่นพี่ ที่มีความสามารถสูงมาก ได้เปิดประสบการณ์ เยอะมากด้วยครับจากการแสดงเรื่องนี้ ประสบการณ์ชีวิตของเรา มีส่วนช่วยเติมเต็มในบท "ไม้"มันก็มีบ้างส่วนหนึ่งครับ แต่ก็อาจจะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด เพราะว่าแต่ละคนก็มีเรื่องราวในชีวิตที่แตกต่างกัน 

 

พลิกคาแรคเตอร์ครั้งใหญ่ในละคร "ศีรษะมาร"?
ใช่ครับ เป็นคาแรคเตอร์ฆาตกรโรคจิตที่เราไม่เคยเล่นมาก่อน ทำการบ้านหนักมาก เพราะกลัวจะเล่นไม่ถึง แถมได้ประชันกับพี่หยาดทิพย์ ก็ยิ่งกดดันมากเลย แต่พอผ่านมาได้ก็โล่งขึ้นมากครับ หลายคนบอกว่าบทนี้ เราเล่นน่ากลัวมาก ก็มีพี่ๆ น้องๆที่รู้จักเรามาบอกว่าไม่เหมือนเราเลย ผมรู้สึกดีมากเลยครับ ถือว่าความตั้งใจที่ผมอยากแสดงออกมาให้แฟนๆละครได้เห็น พอออกมาได้เห็น และมีคนพูดว่าไม่เหมือนเรา น่ากลัว ดูโรคจิตมากๆ เราก็รู้สึกดี เพราะถือว่าเราก็เล่นเป็นตัว กรรณ ออกมาจนคนรู้สึกได้ ปลื้มใจเลยครับ

ก่อนจะขึ้นมาเป็นพระเอกเต็มตัวเราผ่านอะไรมาบ้าง?
จริงๆภูมิทุกวันนี้ก็ยังไม่ถือว่าดีนะครับ แต่มันก็เริ่มดีขึ้น เริ่มตั้งตัวของเราได้บ้างแล้ว เพราะว่าที่ผ่านต้องหยิบยืมจนกลายเป็นเรื่องปกติ มีไปอาศัยนอนอยู่ที่ชมรมที่ภูมิซ้อมกีฬาอยู่ก็มีครับ คือทางบ้านของภูมิก็ค่อนข้างลำบากด้วยเรื่องเงินเป็นหลัก ทำอะไรก็ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จ หนี้สินก็เลยสะสม เรารู้มาตลอดว่าครอบครัวลำบากหรือเปล่า รู้มาตลอดครับว่าครอบครัวเราลำบาก แต่ว่า ณ ตอนนั้นเราก็ไม่รู้จะช่วยยังไงจริง ๆ ทางคุณแม่เองก็บอกเสมอว่า ไม่เป็นไร พอเราเข้าเรียนชั้นมัธยมก็เริ่มที่จะหางานทำ อย่างการรับสอนว่ายน้ำในช่วงปิดเทอม เพราะ เราเองก็เป็นนักกีฬา หลังจากนั้นก็ทำงาน พยายามหาเงินมาตลอดครับ

 

เราโทษโชคชะตาตัวเองบ้างไหม?
เคยแต่คิดว่าทำไมครอบครัวของเราถึงลำบากจัง แต่ไม่เคยท้อ ไม่เคยโทษโชคชะตาเลยนะครับ  รู้แต่ว่าเราต้องสู้ และคิดว่าสักวันหนึ่งชีวิตเราต้องดีขึ้น เพราะคนเรา สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ต้องอยู่ในอาชีพสุจริตครับ  

ตอนเด็กๆเราก็หาเงินเลี้ยงดูตัวเองแล้ว?
ก็มีสอนว่ายน้ำนี่แหละครับ ได้เงินชั่วโมงนึงก็ถือว่าไม่เยอะมาก 90-100 บาท เริ่มสอนตั้งแต่หลังเลิกเรียน ถึงประมาณสองทุ่ม ราว ๆ 2-3 ชั่วโมง รายได้แต่ละวันก็จะแตกต่างกันไปตามชั่วโมงที่สอนครับ 

 

แสดงว่าเป้าหมายในการเติบโตมาของเราคือการทำเพื่อครอบครัว?
ใช่ครับ พอเราเห็นว่าพ่อแม่เราลำบาก ต้องคอยประหยัดอยู่ตลอด แทบจะไม่ได้กินอะไรที่อยากกินเลย บางทีเราอยากกินน้ำหรือกับข้าวที่มีราคาแพงหน่อยก็ไม่กล้ากิน ผมสงสารพ่อกับแม่ ตัวผมเองไม่เท่าไร ผมเลยตั้งใจว่า เราต้องทำให้พ่อกับแม่มีความสุข และเลี้ยงดูท่านได้ครับ

กดดันไหมกับการที่เราเป็นลูกคนเดียวแล้วต้องดูแลครอบครัว?
กดดันนะครับ แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าพ่อแม่ไม่เคยกดดันเราเลย เขาไม่เคยบอกว่าเราต้องเลี้ยงเขา ต้องดูแลเขา แต่ด้วยความที่ว่าภูมิเห็นพ่อแม่ภูมิทำงานหนักแล้วเขาก็ไม่เคยให้ภูมิอดเลยครับ คือทำทุกอย่างยังไงก็ได้ ที่จะเลี้ยงภูมิให้สบาย ภูมิสัมผัสได้ถึงจุดนี้เลย เพราะฉะนั้นเวลาที่เขาถามภูมิว่าภูมิเหนื่อยเกินไปไหมลูก ภูมิไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ภูมิคิดแค่ว่าจะทำยังไงก็ได้ให้เขาสบายครับ เพราะคนที่จะช่วยพ่อกับแม่ได้ดีที่สุดก็คือเรา

 

ก่อนเข้าวงการเคยเกือบถูกหลอกไปถ่ายแบบโป๊?
ก็คือก่อนที่จะมารู้จักกับผู้ดูแลทางช่อง 8 หรือ แม่ก้อง  เราไม่เคยอยู่ในวงการ ไม่เคยมีประสบการณ์ในวงการมาก่อนเลยครับ เพราะฉะนั้นเวลามีใครติดต่อเข้ามาเราก็ไม่รู้เลยว่าเขาจะเข้ามาดีหรือร้าย ไม่รู้ว่าจะต้องไปปรึกษาใคร ไม่มีความรู้เลยครับ  คือเหมือนตอนนั้นเขาติดต่อมาว่าจะต้องไปแคส  ซึ่งอาจจะต้องมีการถ่ายรูปส่งไปก่อน ทางเราก็มีการเอะใจว่ารูปที่ต้องถ่ายส่งไปทำไมต้องมีการถอดเสื้อหรือต้องโชว์อะไรถึงขนาดนี้เลย แต่ก็เข้าใจว่าคงเป็นเรื่องปกติ เพราะเห็นตามนิตยสารก็มีการถ่ายภาพกันแบบนี้ สุดท้ายเพื่อนที่เขาอยู่ในวงการมาบอกว่าให้ระวังให้ดี เพราะถ้าเป็นการทำงานจริงๆอาจจะไม่ต้องมีการถ่ายภาพส่งไปขนาดนี้ก็ได้ ผมก็เลยไม่ส่งไป และช่วงนั้นมีข่าวคนโดนหลอกเยอะมากครับ ก็โชคดีไป

ได้ยินมาว่า ไม่ได้มีความฝันในการเป็นนักแสดงตั้งแต่แรก?
ใช่ครับ เราเคยรู้สึกว่าเราไม่เหมาะกับตรงนี้ เราไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำครับ เราคงไม่สามารถทำได้หรอก ทั้งเรื่องหน้าตา ความสามารถ แล้วก็ปัจจัยอื่น ๆ ครับ แต่มีคนเสนอมาให้ลองไปแคสดู ภูมิก็เลยตัดสินใจไปลองดูครับ แล้วก็ได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับทางช่อง 8 ตั้งแต่ช่วงประมาณปี 1 ครับ ซึ่งช่วงหลังจากที่เซ็นแล้วก็ไม่ได้ง่ายเลยนะครับกว่าจะมีงานเข้ามา 

 

กว่าที่จะได้มาเป็นนักแสดง ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย?
พอเราได้มีโอกาสมาแคสกับทางช่อง 8 แล้วก็ได้เซ็นสัญญา ตัวเราก็เริ่มมีความหวังที่จะสร้างรายได้จากตรงนี้ ทั้งที่เรายังเรียนอยู่ แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังไว้ เพราะด้วยตัวเรายังเด็กด้วย คาแรกเตอร์ บทที่จะได้รับรวมถึงความสามารถของเรา ณ ตอนนั้นมันยังไม่ถึงมาตรฐานที่ทางช่องตั้งไว้ เเต่ตอนนั้นเราก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมเราถึงยังไม่ได้แสดงสักที เวลาก็ผ่านไปเป็น3-4ปีแล้วมีผลงานเป็น MV แค่ 2 ตัว เราไม่เคยได้งานละครเลย ก็เลยทำให้เราคิดว่า เราคงไม่เหมาะกับทางด้านนี้ เพราะพอไปแคสก็ไม่ได้ กี่รอบต่อกี่รอบก็ไม่ได้เลยทำให้เกิดความคิดแบบนั้นว่าเราไม่น่าเหมาะกับการเป็นนักแสดงครับ

แล้วก่อนหน้าที่จะมาเป็นนักแสดง "ภูมิ-ภูริพันธ์" ทำอะไรมาก่อน?
ก่อนหน้านี้เรียนครับ ส่วนใหญ่ที่ทำมาก็จะเกี่ยวข้องกับคณะที่เรียน คือ การสอนว่ายน้ำ แล้วก็เทรนเนอร์ฟิตเนสครับ แต่ก็ไม่ได้ทำจริงจังนะครับ เพราะตอนนั้นเราก็ยังเรียนอยู่ครับ คือ จุดประสงค์ของการทำงานของภูมิ คือ การอยากมีรายได้ครับ เพราะทางไหนมีรายได้เราก็ทำหมดครับ ได้มากได้น้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยครับ  

 

จุดที่ทำให้เรามุ่งเดินในเส้นทางสายนักแสดง?
เพราะความชอบเลยครับ พอมีโอกาสได้แสดงมากขึ้น มันก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าชอบ แล้วก็สนุกกับมัน ทุก ๆ ครั้งที่ไปทำงานก็จะรู้สึกท้าทายแล้วก็ตื่นเต้นที่จะได้เจออะไรใหม่ ๆ บทใหม่ ๆ คาแรกเตอร์ใหม่ ๆ ภูมิรู้สึกโชคดีมากครับทำงานที่รู้สึกสนุกแล้วก็หารายได้จากมันได้ด้วยครับ เลยเป็นจุดประกายว่าเราชอบด้านนี้ 

 

พอทุกอย่างเริ่มลงตัว จนเรามีคิวงานแน่นรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ใช้ชีวิตบ้างไหม?
คือคำว่า "ใช้ชีวิต" มันขึ้นอยู่กบว่าเรามีมุมมองต่อมันแบบไหนครับ อย่างตัวภูมิเองก็รู้สึกว่าตัวเองได้ใช้ชีวิตแล้ว มันอาจจะไม่ใช่ชีวิตที่ได้ไปเที่ยว ได้ไปสังสรรค์ แต่มันคือชีวิตที่เรามีประสบการณ์ในการทำงาน รู้จักความลำบาก รู้จักค่าของเงิน เพราะฉะนั้นในอนาคตถ้าเราได้เจอกับเหตุการณ์ที่มันลำบาก เราคือว่าเรามีภูมิคุ้มกันและพร้อมจะรับมือกับมันครับ การเล่นกีฬา หรือกิจกรรมมหาวิทยาลัย ก็นับเป็นการใช้ชีวิตได้เหมือนกันครับ สำหรับภูมิ ไม่จำเป็นต้องเป็นการเที่ยว ปาร์ตี้สังสรรค์อย่างเดียว

ตอนนี้เราวางแผนในวงการอย่างไร?
จริง ๆ ก็ไม่ได้วางไว้ชัดเจนนะครับ แค่คิดอยากจะทำทุกงานที่เราได้รับมอบหมายให้เต็มที่ครับ ไว้ว่าจะเป็นบทอะไรภูมิก็อยากจะเต็มที่กับมัน ไม่ว่าจะเป็นบทอะไรก็อยากจะทำให้ดีที่สุด ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเป็นเท่าคนนั้น ต้องได้เล่นบทนี้ ไม่ได้มองตรงนั้นเลยครับ  และภูมิขอบคุณทุก ๆ โอกาส ขอบคุณผู้ใหญ่ ขอบคุณช่อง8 ขอบคุณแฟนคลับที่เชื่อมั่น และให้โอกาสภูมิได้พิสูจน์ตัวเอง เสมอครับ

 

ส่งกำลังใจคนที่เจอเรื่องราวคล้าย ๆ กับเราหน่อย?
ถ้าหากเรื่องราวของภูมิอาจจะไปโดนใจ และใกล้เคียงกับคนที่กำลังมีปัญหาแบบภูมิ ภูมิเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เราจะทำไม่ได้ และชีวิตนี้ของเรามันไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้เราไม่มี พรุ่งนี้เราอาจจะไปเจอหนทาง หรือช่องทางให้เรามีทางออกก็ได้ครับ อย่าหมดหวัง และท้อไปกับปัญหา แต่เราควรหาทางแก้ปัญหา ค่อยๆแก้ไข และให้กำลังใจตัวเอง ภูมิเชื่อว่าเราจะสามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครับ

 

ฝากผลงานกับแฟน ๆ หน่อย?
ตอนนี้ ภูมิกำลังมีผลงานละคร "ศีรษะมาร" ที่ออนแอร์ ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี 19.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กดหมายเลข 27 ครับ ซึ่งเป็นบทบาทที่ท้าทาย ฉีกกฎด้านการแสดงของภูมิเลย ในบทฆาตกรโรคจิต และหลังจากนี้ภูมิจะมีผลงานใหม่อีก 2 เรื่อง คือละครเรื่องบุหลันมันตรา และเรือนชฎานาง ที่กำลังเดินหน้าถ่ายทำอยู่ครับ แถมเป็นบทบาทที่ภูมิไม่เคยแสดงมาก่อน ก็ถือว่าเป็นอีกสองผลงานที่จะทำให้ภูมิได้เติบโตขึ้นในฐานะนักแสดง ส่วนผลงานอื่น ๆ ก็ติดตามได้ทาง IG: poompps ครับ

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote https://www.komchadluek.net/entertainment/524524

ติดตาม คมชัดลึก ได้ที่ 
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w