บันเทิง

จอแก้ว : เรื่องย่อ 'เด็กชายในเงา'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จอแก้ว : เรื่องย่อ : เด็กชายในเงา

 

                          ว่าวและป่าน เป็นพี่น้องฝาแฝดที่มีรูปลักษณ์เหมือนกันทุกประการ หากแต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือ ว่าวได้รับความกระทบกระเทือนตั้งแต่อยู่ในท้อง ทำให้เป็นโรคสมองพิการ ส่งผลให้เป็นง่อยซีกหนึ่งทำให้เดินไม่ได้ถนัด ต้องนั่งรถเข็น และด้วยความอายและรู้สึกผิดของแม่ทำให้ว่าวต้องชีวิตอยู่แต่ในบ้าน มีแม่เป็นคนสอนหนังสือ และปู่ของว่าวเองยังรังเกียจ หาว่าว่าวเป็นตัวซวย ทำให้ว่าวต้องเติบโตมาด้วยความรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าคนอื่น มีเพียงพ่อและป่านที่คอยให้กำลังใจและสอนให้ว่าวมองโลกมองชีวิตตนเองในแง่ดี แต่แล้วเมื่อพ่อกลับหายไปจนทำให้แม่ยิ่งเครียด ทำให้ว่าวต้องกลับมาจมปลักอยู่ในโลกของตัวเองบนเก้าอี้รถเข็นคนพิการอีกครั้ง

                          ว่าวรู้เรื่องราวจากโลกภายนอกที่ป่านเล่าให้ฟัง เพราะแม้ว่าวเป็นเด็กหัวดีและมีอัจฉริยะทางการเล่นไวโอลินแต่ก็ต้องอยู่แต่ในบ้าน มีแม่สอนหนังสือให้เองและไม่ชอบเปิดเผยตัวป่านแก่ใครๆ แม้แต่การเล่นไวโอลินที่ว่าวรักก็ถูกแม่ห้ามเล่น นับตั้งแต่พ่อที่เป็นนักดนตรีหายสาบสูญไป และเมื่อย้ายบ้านไวโอลินที่พ่อเคยซื้อให้ก็หายไปด้วย จนว่าวคิดว่าแม่คงโยนทิ้ง ป่านอยากเห็นพี่ชายมีความสุข จึงแอบสมัครเข้าชมรมไวโอลินเพื่อขอยืมไวโอลินมาให้พี่ชายได้เล่นยามแม่ไม่อยู่บ้าน และแล้วเมื่อทางโรงเรียนมีการแสดงดนตรีโดยให้นักเรียนในชมรมเป็นผู้แสดง อิงดาว เพื่อนสนิทของว่าวและป่าน วางแผนสลับตัว เพื่อเปิดโอกาสให้ว่าวได้แสดงไวโอลินต่อหน้าแม่และคนอื่นๆ และเป็นโอกาสที่ว่าวจะได้แสดงให้แม่ยอมรับและภาคภูมิใจในตัวว่าว แม่จะได้ไม่ต้องอายกับการมีลูกพิการอย่างว่าวอีกต่อไป เพราะสิ่งเดียวที่ว่าวอธิษฐานขอพรอยู่เสมอคือ..ขอให้ว่าวเป็นเด็กธรรมดาในสายตาของคนอื่นด้วยเถิด..โดยเฉพาะกับแม่...ว่าวปรารถนาให้แม่เห็นว่าว่าวก็ทำได้เหมือนเด็กธรรมดาคนหนึ่ง แม่จะได้เลิกอายที่มีว่าวเป็นลูก

                          ในวันแสดง ป่าน อิงดาว โอบฟ้า เต้ ครูวาที ร่วมมือกันกับแผนสลับตัว เพื่อให้ว่าวได้แสดง ว่าวตั้งใจแสดงอย่างเต็มที่ ว่าวหลับตามองเห็นพ่อยิ้มมาฟังว่าวด้วยความภูมิใจ แต่เมื่อแสดงจบว่าวลืมตากลับเห็นแม่ร้องไห้และวิ่งออกไปอาเจียน ว่าวก็ร้องไห้ด้วยความเสียขวัญ ป่านเห็นแม่และพี่ร้องไห้ก็พลอยร้องไปตามไปด้วย แม่ไม่สบายจนป้าหมอแม่ของอิงดาวต้องพาไปโรงพยาบาล พี่โอบฟ้า อิงดาว ครูวาที ลุงสุเมธ พาว่าวและป่านมาบ้านในขณะที่สองพี่น้องขวัญเสียกลัวแม่จะไม่พอใจ แต่ปรากฏว่าที่แม่ร้องไห้เพราะแม่เสียใจที่ตนเองเก็บลูกไว้ในบ้านมากจนว่าวเก็บกดและพยายามแสดงออกมาอย่างนี้ แม่กอดว่าวและบอกขอโทษ วันหนึ่งมีรายการโทรทัศน์ติดต่อให้ว่าวและป่านไปออกรายการเรื่องที่เป็นฝาแฝดรักกันและการที่ว่าวเป็นคนไม่สมประกอบ แต่สามารถแสดงไวโอลินได้ แม่ยอมให้ว่าวและป่านไปออกทีวีเพื่อแสดงให้เห็นว่าแม่ไม่อายที่มีลูกแบบว่าว แต่แม่กลับภูมิใจเสียอีก เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป ว่าวและป่านจะได้พบกับพ่ออีกหรือไม่

 

นักแสดง

                          ปิยะธิดา วรมุสิก รับบท วนิดา แม่ของว่าวและป่าน ภายนอกเป็นคนเรียบร้อย พูดน้อย เก็บอารมณ์เก่ง  แต่ภายในเปราะบาง มีปมด้อยเรื่องเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน จึงไม่อยากให้คนมาดูถูกลูก เพราะเกิดความรู้สึกผิด เครียด เก็บกด และปกป้องความรู้สึกลูกจนเกินไปส่งผลต่อลูกโดยเธอไม่รู้ตัว

                          นภัศกร มิตรเอม รับบท ปราญช์ พ่อของว่าวและป่าน เป็นพ่อที่เข้าใจการเลี้ยงลูกที่เกิดมาพิการ โดยสอนลูกให้มองโลกในแง่ดี เป็นผู้ชายอบอุ่น แต่เข้มแข็ง กล้ายืนหยัดบนทางที่เขาเห็นว่าถูกต้อง

                          อนุชิต สพันธ์พงษ์ รับบท ครูวาที ครูสอนดนตรี ที่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ใจดี เข้าใจเด็กๆ รักอิสระไม่ชอบตามกฎเกณฑ์ เป็นที่ปรึกษาของว่าวและป่าน

                          ด.ช.คุณัญญา จันหาญ รับบท ว่าว แฝดผู้พี่ ที่เกิดมาพร้อมโรคสมองพิการ ทำให้กลายเป็นง่อย มือและขาผิดปกติ เดินไม่ค่อยถนัด ต้องนั่งรถเข็น อยู่ในโลกที่เป็นเหมือนเงาของแฝดผู้น้อง เป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดี จิตใจอ่อนโยน และมีความสามารถพิเศษในเรื่องการเล่นไวโอลิน ความฝันของว่าวคือ ขอให้ใครๆ มองว่าวเป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง

                          ด.ช.คุณัญนนท์ จันหาญ รับบท ป่าน น้องชายแฝดของว่าว รักว่าวมาก เขาเป็นคนที่นำเรื่องราวโลกภายนอกมาเล่าให้ว่าวฟัง และเป็นเหมือนตัวกลางระหว่างแม่และว่าว ป่านเป็นคนอ่อนไหว ซื่อ น่ารัก เห็นอกเห็นใจผู้อื่นก่อนเสมอ  และเก่งทางด้านศิลปะ ชอบวาดรูปมาก

 

บทประพันธ์โดย  “ตวงทิพย์ ยุวชิต”
บทโทรทัศน์และกำกับการแสดงโดย  “ภีมพ์กมล ประเสริฐวงศ์”
ผลิตโดย  บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด
อำนวยการผลิต  สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
ออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 18.00 น. เริ่ม 21 ธันวาคมนี้ทางไทยพีบีเอส

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ