
กระฉ่อน 'นางเอกตัวแม่ ร.' ซวยซ้ำเสี่ยงโดนฟ้องยับ จบไม่สวย ฮิโรสุเอะ เสี่ยงคุก?
จากดราม่าทำร้ายพยาบาล สู่ปมอุบัติเหตุความเร็วโหด 185 กม./ชม. คดี Ryoko Hirosue พลิกจากเบาเป็นหนัก วงการบันเทิงญี่ปุ่นสั่นสะเทือน อนาคตนางเอกระดับตำนานแขวนอยู่บนเส้นด้าย
มหากาพย์ข่าวบันเทิงร้อนแรงแห่งปี 2025 ของญี่ปุ่น ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ สำหรับ "นางเอกตัวแม่ อักษรย่อ ร.เรือ" หรือ Ryoko Hirosue (เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ) วัย 45 ปี ที่ตกเป็นประเด็นใหญ่ลากยาวมากว่า 8 เดือน หลังถูกกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกายพยาบาลในโรงพยาบาล ระหว่างเข้ารับการรักษาตัวจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
เดิมทีหลายฝ่ายคาดว่า คดีนี้อาจจบเพียงโทษปรับหรือรอลงอาญา เนื่องจากเหตุเกิดในช่วงที่เจ้าตัวอยู่ในอาการตื่นตระหนก แต่ล่าสุดสถานการณ์กลับ "พลิกเกม" อย่างแรง เมื่อมีข้อมูลใหม่หลุดออกมาว่า รถที่ Ryoko Hirosue นั่งมาในวันเกิดเหตุ ใช้ความเร็วสูงถึงเกือบ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดถึง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้โดยสารชายที่ร่วมเดินทางมาด้วย ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นกระดูกหัก ส่งผลให้รูปคดีจากเบา กลายเป็นหนักในทันที และมีแนวโน้มต้องเข้าสู่กระบวนการ ศาลฟ้องร้องยืดเยื้อ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ขณะเดียวกัน สภาพร่างกายและจิตใจของ Ryoko Hirosue ก็ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังแพทย์วินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็น ไบโพลาร์ และไทรอยด์เป็นพิษ ทำให้ช่วงนี้เจ้าตัวเลือกพักรักษาตัวแบบเงียบๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
โดยต้นสังกัดเพิ่งออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสังคมอีกครั้ง ยืนยันว่าเธอสำนึกผิด และกำลังเยียวยาตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ
ผลกระทบที่หนักไม่แพ้กัน คือเส้นทางในวงการบันเทิง แม้จะมีโปรเจกต์หนังและงานแสดงรุมจีบเข้ามาหลายทาง แต่ยังไม่มีค่ายไหนกล้าคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอความชัดเจนของคดีความ ว่าสุดท้ายแล้ว บทสรุปจะออกมาในทิศทางใด
คำถามใหญ่ที่ทั้งญี่ปุ่นและแฟนคลับทั่วเอเชียกำลังจับตา คือ นางเอกระดับตำนานคนนี้ จะจบสวยด้วยการกลับมา หรือจบลงที่เรือนจำ? ทุกคำตอบยังต้องรอเวลาเป็นผู้ตัดสิน
สรุปข่าวคมชัดลึก
คดี Ryoko Hirosue จากดราม่าทำร้ายพยาบาล พลิกเป็นคดีหนัก หลังพบรถซิ่ง 185 กม./ชม. มีผู้บาดเจ็บสาหัส เสี่ยงขึ้นศาลยาว ส่งผลอนาคตในวงการบันเทิงแขวนบนเส้นด้าย ญี่ปุ่นจับตาบทสรุปว่าจะ “คัมแบ็ก” หรือ “จบที่คุก”
#RyokoHirosue #นางเอกตัวแม่ #ข่าวบันเทิงญี่ปุ่น #คดีพลิก #บันเทิงร้อนแรง #คมชัดลึก



