
รีวิว Furiosa: A Mad Max Saga ยังคงระห่ำ บ้าดีเดือด
กลับมาอีกครั้งกับผลงานของผู้กำกับชั้นครู "จอร์จ มิลเลอร์" สำหรับหนัง "Furiosa: A Mad Max Saga ฟูริโอซ่า มหากาพย์ แมด แม็กซ์" ที่ย้อนกลับไปเล่าถึงกำเนิดสาวน้อย ฟูริโอซ่า นักสู้สาวแขนกลในตำนาน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนภาค Fury Road ที่ออกฉายเมื่อปี 2015
Furiosa: A Mad Max Saga จะทำให้เราได้รู้ที่มาที่ไปของชีวิตฟูริโอซ่า ว่าเธอผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย กว่าจะเป็นนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ในโลกอันป่าเถื่อนหลังการล่มสลาย
ไม่ต้องห่วงเลยในเรื่องมาตรฐานการทำหนังของปู่จอร์จ มิลเลอร์ ซึ่งตลอด 4-5 ทศวรรษ เขาได้ใส่ไอเดียและความดิบเถื่อนสอดเสียดสังคมลงไปใน Mad Max ทุกภาค กลายเป็นเอกลักษณ์ที่แฟนหนังทั่วโลกจดจำและมีความร่วมสมัยมาจนถึงทุกวันนี้ โดยภาคล่าสุดนี้ก็ยังคงตอกย้ำด้านมืดและความโลภของมนุษย์ในโลกหลังการล่มสลายเช่นเคย
งานสร้างของ Furiosa: A Mad Max Saga มีความถึงใจให้อารมณ์ดิบเถื่อน เต็มไปด้วยอรรถรส และเซอร์วิสแฟน ๆแบบสุดตีนเช่นเคย ไม่ทำให้แฟนหนังเดนตายของจักรวาล Mad Max ต้องผิดหวัง แฟนหนังรุ่นใหม่เองก็ต้องทึ่งว่า ผู้กำกับจอร์จ มิลเลอร์ ในวัย 79 ยังคงทำหนังได้ทรงพลังและบ้าดีเดือดในแบบที่ผู้กำกับรุ่นใหม่ยังไม่กล้าทำ
Furiosa: A Mad Max Saga มีความยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่ไม่ต้องกลัวเบื่อ เพราะหนังทำหน้าที่เซอร์วิสแฟน ๆ แบบแทบทุกนาทีเช่นเคย ด้วยฉากแอคชันอลังการชวนตื่นตา แต่ข้อเสียนิดนึงคือ หนังอาจจะเซอร์วิสแฟนๆ มากเกินไป จนทำให้การขับเคลื่อนเรื่องราวของหนังไปได้แค่ช้า ๆ แต่ก็ไม่ใช่ข้อเสียที่คนดูจะใส่ใจนัก เพราะการไปดู Mad Max ความคาดหวังของคนดูก็คือ ต้องการเห็นฉากบู๊สุดมันส์ตระการตาเป็นหลัก ที่ทำถึงถูกใจคอแอคชั่นแน่นอน ที่ทำได้ดีและทำถึงแบบทุกซีนกันเลยทีเดียว
"อันยา เทย์เลอร์-จอย" แจ้งเกิดแบบเต็มตัวแน่นอนกับบทฟูริโอซ่า คราวนี้แฟนหนังทั่วโลกจะไม่มีใครไม่รู้จักเธออีกต่อไป กับการพลิกคาแรกเตอร์ครั้งสำคัญ ชอบอินเนอร์ทางการแสดงของเธอที่เป็นความสามารถอันโดดเด่นของอันยาในทุกเรื่อง โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านสีหน้าและแววตา แต่ก็แอบคิดเหมือนกันนะว่า ถ้าฟูริโอซ่ายังคงเป็น "ชาร์ลีชเธอรอน" กลับมารับบทเดิม แบบไหนมันจะดีกว่ากัน?
ส่วนนักแสดงเด็กที่มารับบทเป็นฟูริโอซ่าวัยเด็ก ก็โดดเด่นมากเช่นกัน น้องคือ "เอไลลา บราวน์" ดาราเด็กดาวรุ่งที่น่าจับตามาก ทั้งฝีมือการแสดงและความสวยน่ารักที่ฉายแววนางเอกในอนาคต
ขณะที่ "คริส เฮมสเวิร์ธ" ก็ทำได้ดีเช่นกันในบทตัวร้าย การปรากฏตัวของเขาก็ดึงดูดความสนใจผู้ชมได้ทุกฉาก
จากนึ้แฟนหนังก็ต้องมาติดตามกันต่อว่า บทต่อไปของ Mad Max จะตามมาเมื่อไหร่ สำหรับใครที่ชอบความถึงใจ ก็ไปจัดกันได้เลย แม้จะไม่ใช่ Mad Max ที่ดีที่สุดของ จอร์จ มิลเลอร์ เพราะหนังอาจจะมีข้อติอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ในภาพรวม Furiosa: A Mad Max Saga ก็เป็นหนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความมันส์ คุ้มค่ากับเวลาและค่าตั๋วที่เสียไปแน่นอน