สาเหตุเสียชีวิต 'โจวไห่เหม่ย' ดาบมังกรหยก นักแสดงสาวยุค 90

ขอแสดงความเสียใจให้กับการจากไปตลอดกาลของ "โจวไห่เม่ย (Zhou Haimei)" หรือ "แคที โจว (Kathy Chow)" นักแสดงหญิงรุ่นใหญ่ชาวฮ่องกง ดาวประดับวงการแห่งยุค 1980 - 1990 ที่ขึ้นแท่นหญิงสาวในฝัน เสียชีวิตแล้วในวัย 57 ปี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2023 

 

 

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 โจว ไห่เม่ย ได้ถูกพบหมดสติภายในบ้านพัก หลังจากเกิดภาวะเกล็ดเลือกต่ำ และทีมแพทย์ได้ทำการช่วยชีวิต แม้ว่าในตอนแรกจะมีข่าวว่า สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้ แต่ในเวลาต่อมา วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ทีมงานของโจไห่เม่ย สตูดิโอ ได้ออกแถลงการณ์ว่า "เนื่องจากการรักษาไม่ได้ผล เธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว ขอให้สวรรค์ไม่มีโรคร้าย และขอให้เราพบกันใหม่ในชาติหน้า"

 

 

 

 

สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต : จากบทสัมภาษณ์ของ โจว ไห่เม่ย เคยกล่าวว่า เมื่ออายุ 10 ขวบ ได้รับการวินิจฉัยว่า มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นลม และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเคยเป็นลมโดยไม่รู้ตัว จนร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ต่อมา ในช่วงปี 2000 อาการป่วยได้กำเริบ ทำให้เธอรับงานได้น้อยลง และเลือกรับงานเฉพาะในประเทศจีน และประเทศไต้หวันเป็นหลัก ก่อนจะมาเปิดสตูดิโอของตัวเอง

 

 

ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่า โจวไห่เม่ย ป่วยหนักด้วยโรคลูปัสโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ Systemic Lupus Erythematosus (SLE) เกี่ยวกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ก่อให้เกิดการอักเสบ และทำลายอวัยวะในร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน นอกจากคำแถลงที่ว่า ทีมแพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ 

 

 

ประวัติของโจวไห่เม่ย : เกิดในปี 1966 และเริ่มเข้าวงการในปี 1985 จากการประกวด Miss Hong Kong Beauty Contest 1985 แต่ต้องตกรอบด้วยปัญหาสุขภาพ ก่อนจะเข้าวงการโดยเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงกับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี แม้จะได้แสดงละครมากมายหลากบทบาท จนเป็นที่รู้จัก แต่ก็เป็นเพียงบทบาทสมทบ จนกระทั่งได้รับการเสนอบทให้เป็นนางรองในซีรีส์ฟอร์มยักษ์ "คู่แค้นสายโลหิต (1989)" ซึ่งต่อมา กวาดเรตติ้งอย่างล้นหลาม และสร้างชื่อเสียงให้เธอมากขึ้น 

 

 

ต่อมา เธอได้มีชื่อเสียงในระดับเอเชีย และในไทยจากการเล่นเป็น "จิวจี้เยียก" จากหนังดัง "ดาบมังกรหยก (1994)" จนได้ได้รับการยกย่องให้ติดท็อป 10 นักแสดงหญิงที่โด่งดังทางสายงานละครมากที่สุดในฮ่องกง ติดต่อกัน 3 ปี และเคยได้รับการโหวตให้เป็นหญิงสาวในฝันของชายหนุ่มในไต้หวัน ช่วงกลางยุค 90s จากการเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นแนวเซ็กซี่ ทำให้เธอมีฉายาให้ว่า "ชารอน สโตนแห่งเอเชีย"