ครั้งนี้มาแน่ 'BABYMONSTER' อนาคต YG ต่อจาก BLACKPINK

รอคอยมาเนิ่นนาน ล่าสุด ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ สำหรับเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ "BABYMONSTER" เตรียมปักหมุดเดบิวต์อีกครั้งในเดือน พ.ย. 2023 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ YG Entertainment ค่ายเพลงแห่งเกาหลีเคยมีการประกาศเดบิวต์ภายในเดือน ก.ย. 2023 ซึ่งในเดือนนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการต่อสัญญาระหว่าง YG และ BLACKPINK รวมถึงอีกหลายๆประการ 

หากย้อนไปเมื่อการประกาศเดบิวต์ครั้งแรก มีรายงานว่า "ยาง ฮยอนซอก" ผู้ก่อตั้ง YG ที่ตอนนี้นั่งตำแหน่ง Executive Producer และเป็นผู้คุมโปรเจคเองทั้งหมด โดยเพลงเดบิวต์นั้น เป็นแนวฮิปฮอปแบบเข้มข้น มีโปรดิวเซอร์ที่มีชื่อเสียงทั้งจาก YG และจากต่างประเทศมาร่วมทำอัลบั้ม

สาเหตุที่ล่าช้า จนเลื่อนการเดบิวต์นั้น เนื่องจากต้องการเลือกเพลงไตเติ้ลที่ดีที่สุดให้กับ BABYMONSTER และได้มีการถ่ายมิวสิควิดีโอไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งการเดบิวต์ในครั้งนี้จะถือว่า เป็นอีกหนึ่งการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของค่าย YG เนื่องจากจะกลายเป็นวงแรกของค่ายที่มีสมาชิกเป็นชาวต่างชาติมากกว่าคนเกาหลี

BABYMONSTER  มีสมาชิกทั้งหมด 7 คน ได้แก่ ชาวเกาหลี คือ "อาฮยอน , ฮารัม , โรร่า"  และชาวญี่ปุ่น "รุกะ , อาสะ" ที่หลายคนรอคอยคือ สมาชิกสัญชาติไทยถึงสองคนด้วยกัน คือ "แพร ภริตา" กับ "แคนนี่ ชิกิต้า" และนี่คือการเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปในรอบ 7 ปี หลังจากที่เคยเดบิวต์ BLACKPINK เมื่อปี 2016 และ 2NE1 เมื่อปี 2009 ห่างกัน 7 ปีเช่นกัน สำหรับการเดบิวต์ในครั้งนี้ เคยเป็นประเด็นไปแล้วช่วงหนึ่งว่า จะมีสมาชิกครบทั้ง 7 คนหรือไม่ หลังจากมีกระแสข่าวว่า อาฮยอน อาจจะไม่เดบิวต์ 

BABYMONSTER นับได้ว่า เป็นอนาคตใหม่ของ YG เลยก็ว่าได้ หลังจากที่หัวเรือหลักของค่ายอย่างวงบอยแบนด์ BIGBANG และ iKON ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา รวมถึงสมาชิกใน WINNER ที่อยู่ในระหว่างการเข้ากรม อีกทั้ง TREASURE ที่เดบิวต์มานานแล้ว แต่กลับยังเป็นบอยแบนด์น้องใหม่อยู่ ที่สำคัญ คือ การต่อสัญญาของ BLACKPINK ซึ่งมีรายงานว่า ตอนนี้ โรเซ่ ได้ต่อสัญญา ส่วน ลิซ่า เจนนี่ และ จีซู ยังอยู่ในระหว่างการเจรจา แต่ความชัดเจนยิ่งกว่านั้น คือการทำงานในตอนนี้ของ ลิซ่า ที่ไม่ได้มีทีมของ YG มาดูแลเหมือนแต่ก่อน และเปลี่ยนทีมทำงานเป็นคนไทยแทน