'มิยะ GWSN' เปิดโปงด้านมืดชีวิตไอดอล ไม่สวยงามอย่างที่คิด

 

กลายเป็นกระแสที่สังคมเกาหลี และแฟนคลับไอดอล K-POP กำลังจับตามมองอย่างมาก เมื่อ มิยะ สมาชิกชาวญี่ปุ่นแห่งวงเกิร์ลกรุ๊ป GWSN ได้ออกมาเปิดเผย ปัญหาที่เธอเคยประสบ ระหว่างการใช้ชีวิตในฐานะไอดอลที่เกาหลีใต้ ผ่านบทสัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun ของญี่ปุ่น ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา 

 

โดย มิยะ เล่าถึงชีวิตการเป็นไอดอลที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครคิด ว่า "มันเหมือนอยู่ในคุก พอเลิกเรียน ฉันและเพื่อนๆ ต้องไปซ้อม ซ้อมเสร็จก็ดึกมากแล้ว ไม่มีแม้กระทั่งเวลาว่าง มือถือก็โดนยึด ยิ่งไปกว่านั้น เราสามารถติดต่อกับครอบครัวผ่านผู้จัดการเท่านั้น อีกทั้งพวกเขายังลืมต่อวีซ่าให้ฉัน และเพื่อนสมาชิกชาวต่างชาติคนอื่นๆ ทำให้พวกเรากลายเป็นคนผิดกฎหมายในเกาหลี และจ่ายค่าปรับที่เกี่ยวข้องกับวีซ่าเอง"

 

"และทุกครั้งที่ไปซ้อม ฉันต้องชั่งน้ำหนักตัวเอง ต่อหน้าผู้จัดการ ฉันต้องรายงานว่าแต่ละวันฉันกินอะไรไปบ้าง เช่น "ฉันจะกินกล้วยกับไข่ต้ม" หรือ "ฉันจะกินแอปเปิ้ลแค่ลูกเดียว" ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้าเลย"

 

มิยะ GWSN ยังเปิดเผยด้วยว่า ต้นสังกัดเอาเงิน เวลาว่าง และแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือของเธอไป ปกติแล้วเด็กสาวในวัยนั้น คงจะพูดถึงเรื่องความรัก หรือเรื่องเพศตรงข้าม แต่พวกเธอมักพูดถึงเรื่องอาหารแทน เรื่องสนุกเพียงอย่างเดียว คือการแอบออกจากหอพักและไปที่ร้านสะดวกซื้อ เพราะเธอ และสมชิกร่วมวง เคยถึงขั้นต้องแอบกินอาหารของพนักงานในกองถ่ายทำมิวสิควิดีโอ ประทังความหิวระหว่างวัน

 

 

ก่อนหน้านี้วง GWSN ยังเคยโดนไล่ให้ออกจากหอพัก เพราะค่ายไม่ยอมจ่ายค่าหอให้ รวมถึงห้องซ้อมเต้นด้วย ผู้จัดการ พนักงานในค่ายก็ทะยอยลาออกจากบริษัทกันหมด

 

สำหรับ มิยะ เธอเดบิวต์ในฐานะสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง GWSN ในเดือนกันยายน 2561 โดยเธอ และเพื่อนร่วมวง ได้ย้ายจากต้นสังกัด Kiwi Media Group ไปยังต้นสังกัด The Wave Music ในเดือนเมษายน 2564 เนื่องจากปัญหาทางการเงิน GWSN ได้ปล่อยมินิอัลบั้มชุดที่ 5 "THE OTHER SIDE OF THE MOON" ในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเธอไม่ได้ทำกิจกรรมตั้งแต่นั้นมา จนในที่สุด เมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา สมาชิกวง GWSN ได้ยื่นฟ้องต้นสังกัด เพื่อยุติสัญญา และชนะคดีในการพิจารณาคดีครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของมิยะ ที่ถูกค่ายละเลยวีซ่า ทำให้เธอต้องจ่ายค่าปรับที่เกี่ยวข้องกับวีซ่าเอง และทำให้เธอเคยตกอยู่ในสถานะคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมายในเกาหลีใต้