จุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จ 'Rolling Loud Thailand 2023'

เจาะลึกเบื้องหลังจุดเริ่มต้น สู่ความสำเร็จของ 'Rolling Loud Thailand 2023' ประวัติการณ์เทศกาลดนตรีฮิปฮอปสุดยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งแรกในเอเชีย ณ ประเทศไทยที่ใคร ๆ ต่างก็พูดถึง ด้วยแนวคิดที่มุ่งหวังผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น World Music Destination และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมากในฐานะ MICE HUB ของภูมิภาคอาเซียน เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่เมืองท่องเที่ยวแห่งดนตรี รวมกับวัฒนธรรมไทยอันเป็นเอกลักษณ์ กลายเป็นคอนเซ็ปท์ สู่งานเทศกาลดนตรีระดับสากลพร้อมสัมผัสเสน่ห์แห่งความเป็นไทยในเทศกาลสงกรานต์

 

โดยทางผู้จัดมีความมุ่งหวังว่าจะสามารถดึงดูดคนทั่วโลกให้เดินทางมาท่องเที่ยวร่วมเก็บเกี่ยวประสบการณ์การละเล่นสาดน้ำแบบไทยในเทศกาลดนตรี Hip Hop ระดับโลกซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ครั้งแรกในเอเชีย

 

ดร.อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มอร์รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ผู้ถือลิขสิทธิ์ในการจัดงาน Rolling Loud ในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้ดำเนินการสร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีครั้งใหญ่นี้ ได้กล่าวว่า

 

"ผมเชื่อมั่นว่าการขยายธุรกิจสู่ตลาดเอนเตอร์เทนเมนต์จะสร้างผลประกอบการทางธุรกิจที่ดี โดยเฉพาะตลาดการท่องเที่ยวทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งรูปแบบการเดินทาง ที่เน้นเมืองท่องเที่ยวที่ได้สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ครบรูปแบบและมีความคุ้มค่า มีคอนเทนต์ให้ได้แชร์ในโลกโซเชียลมีเดีย และกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ และกลุ่ม Digital Nomad ที่ทำงานที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ผ่านเทคโนโลยี ที่มองหาเมืองท่องเที่ยวที่จะสามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ พร้อมเจอเพื่อนใหม่ๆ และมองหาความสนุกกับเทศกาลดนตรีและการสังสรรค์กับเพื่อนในประเทศใหม่ๆ"

"ผมเล็งเห็นโอกาสจากสถานการณ์ปัจจุบันที่เราไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ประกอบกับประสบการณ์กว่ายี่สิบปีของผมด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ และการท่องเที่ยว ผมจึงอยากใช้โอกาสนี้ผลักดันให้ประเทศไทยกลับมาเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวโดยใช้ Entertainment Content เป็นตัวเพิ่มมูลค่าให้แก่การท่องเที่ยว ผมทุ่มเทและศึกษามาเกือบ 3 ปี พบว่าเม็ดเงินการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นนั้นต้องมาจากขีดความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้น และการเพิ่มสีสันการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ และที่สุดของโลกโซเชียลในตอนนี้ซึ่งก็คือ เทศกาลดนตรีระดับโลก ที่คนทั่วโลกโหยหา อีกทั้งวัฒนธรรมของประเทศไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่เดียวในโลก ผมจึงให้ทีมงานช่วยติดต่อกับทาง Rolling Loud ที่เป็นงานเทศกาลดนตรีแนวเพลงฮิปฮอป ซึ่งยังไม่เคยมาจัดที่เอเชีย อีกทั้งวัฒนธรรมของศิลปินและแนวฮิปฮอปถือว่ามีอิทธิพลที่สุดทั้งในด้านดนตรี ด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ และเพลงฮิปฮอปสามารถครองตลาดเพลงเป็นอันดับ 1 ทั่วโลกยาวนานที่สุด"

 

"ที่สำคัญยังไม่มีเทศกาล World Hip Hop Music Festival ในเอเชียเลย และทุกคนคิดถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือว่าเป็นเทศกาลที่คนทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวร่วมสัมผัสกับประสบการณ์การสาดน้ำและความเป็นไทย จึงเป็นที่มาของการจัดงาน Rolling Loud Thailand 2023 ที่จะเป็นเทศกาลดนตรีฮิปฮอปสุดยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ทุกคนจะได้ชุ่มฉ่ำไปกับประสบการณ์การเล่นน้ำแบบสงกรานต์ ที่จะช่วยปลุกกระแสและผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น World Music Destination ที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึง ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก ตอบโจทย์การท่องเที่ยวของไทยให้กลายเป็น MICE HUB ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งทางเราก็จะนำ World Music Content เข้ามาเสริมทัพเพื่อทำให้บริษัทฯ แข็งแกร่งมากขึ้น"

 

 

ทั้งนี้ คุณชัชวาล ตรีเนตร ผู้ช่วยกลุ่มประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

 

"เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ ซีเอ็มโอ (CMO) ได้เป็นผู้จัดงานร่วมกับ มอร์ รีเทิร์น ในการสร้างสรรค์เทศกาลดนตรีฮิปฮอป สุดยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง Rolling Loud ที่จะมาจัดที่ประเทศไทยในปี 2023 ซึ่งเป็นครั้งแรกของเอเชีย การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับประเทศไทยให้เป็น Music & Lifestyle Destination และ Production ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในการจัดงานระดับโลก มีสถานที่ที่สามารถจุคนจำนวนกว่า 100,000 คน รวมไปถึงมีความพร้อมในเรื่องของโปรดักชั่นที่เทียบเท่าระดับสากล ทั้งนี้ CMO ในฐานะผู้จัดงานและสร้างสรรค์งานโปรดักชั่นทั้งหมดเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเวที ระบบภาพแสงเสียง การทำ Graphic Motion และมัลติมีเดียต่างๆ พร้อมด้วยเอฟเฟกต์ตระการตา ซึ่งเราในฐานะผู้จัดงานมีความมั่นใจในคุณภาพของ Equipment และมีทีมงานที่เชี่ยวชาญในแวดวง Music Production ที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์งาน 'Rolling Loud Thailand 2023' ให้เป็นไปตามมาตรฐานของทางอเมริกามากที่สุด และร่วมกันสร้างมาตรฐานการจัดงาน Music Festival ของไทย ไปสู่งานระดับเอเชีย และระดับโลกต่อไป"

 

ทางด้าน คุณศิริญา เทพเจริญ กรรมการบริหาร บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด ในฐานะพันธมิตรผู้จัดงาน ยังได้กล่าวตอกย้ำถึงความพร้อมและศักยภาพของสถานที่จัดงานว่า...

 

"คอนเสิร์ตนี้จะถูกจัดขึ้นที่ Legend Siam สวนสนุกเชิงวัฒนธรรม (Thai Cultural Theme Park) ของบริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของพัทยา โดยเราได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมกับงาน Rolling Loud Thailand 2023 โดยปรับปรุงพื้นที่ภายใน Legend Siam อีก 150 ไร่ เพื่อให้สามารถรองรับผู้ร่วมงานได้ถึง 150,000 คน อาทิ ความสะดวกสบาย การรักษาความปลอดภัย ห้องน้ำ ห้องพยาบาล จุดบริการฉุกเฉิน ฯลฯ ตามข้อกำหนดใน Requirement ของ Rolling Loud ทุกประการ"

 

"Legend Siam  ยังมี Character ของยักษ์ที่ถูกออกแบบมาวางเป็น สัญลักษณ์ของ Rolling Loud Thailand และ สินค้า Merchandise ที่จะรวมมาอยู่ใน Legend กับองค์ประกอบของวัฒนธรรมไทยที่พร้อมในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ในด้านสุขภาพเราก็มี Morhello ที่คอยดูแลสุขภาพ   มี SAFT T  application ที่จะเชื่อมต่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาในงาน สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อได้เลย ไม่ว่าจะจองโรงแรม หรือจองตั๋วเพื่อไปท่องเที่ยวในจุดต่างๆทั่วประเทศสามารถทำได้ครบทุกสิ่งในที่นี้  โดย Legend Siam  พร้อมแล้วที่จะทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและจากทั่วโลกประทับใจ ได้เห็นความเป็นไทยในทุกมิติ"

 

"หลังจากนี้เราวางอนาคตของ Legend Siam เป็น Show room ของประเทศไทยด้าน Entertainment เพื่อรองรับงานด้านบันเทิงอย่างเต็มที่ ทั้งคอนเสิร์ตระดับชาติ และระดับโลก เพื่อจะรองรับนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและในประเทศไทย รวมถึงแฟนคลับของ Rolling Loud โดยเราเชื่อมั่นว่า Legend Siam เป็นสถานที่ที่มีความพร้อมในการจัดงานระดับโลกได้เป็นอย่างดี"

 

กว่าจะถึงจุดสูงสุดความสำเร็จนี้ บริษัท มอร์แดน ณุศา เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ภายใต้บริษัทแม่อย่าง มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์และจัดงาน Rolling Loud 2023 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2566 ถึงปี 2571 พร้อมสิทธิ์ขาดในการจัดงานในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย โดยหวังผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเมืองสวรรค์แห่งการท่องเที่ยวและดนตรี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก พร้อมความคาดหวังว่าจะสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวและทำให้เงินสะพัดทั่วพัทยาและชลบุรีกว่า 16,450 ล้านบาท

 

ยิ่งไปกว่านั้นทีมผู้จัดงานยังได้ทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาทปรับปรุงพื้นที่จัดงาน และสร้างโปรดักชั่นสุดยิ่งใหญ่อลังการในงานครั้งนี้ ร่วมด้วยไลน์อัพ 66 ศิลปินระดับโลก จากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเอเชีย อาทิ Chris Brown, Travis Scott, A$AP Rocky, Cardi B, Jay Park และ Jessi ฯลฯ ที่มาร่วมสร้างความมันส์กับเสียงดนตรี จนกลายเป็นปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ให้ชาวไทยและต่างประเทศจดจำไปอีกนาน