อ่านก่อนดูภาพยนตร์ดัง The Woman King มหาศึกวีรสตรีเหล็ก รีวิวตามจริงไม่อวย

ต้องบอกก่อนว่า ปอร์เช่ คมชัดลึก บันเทิง เป็นคนที่ไม่ชอบดูเรื่องย่อก่อนการดูภาพยนตร์แต่ละเรื่อง จะดูแค่ทีเซอร์ว่าเป็นแนวที่ตัวเองชอบหรือไม่ เช่นเดียวกับเรื่อง  The Woman King มหาศึกวีรสตรีเหล็ก ซึ่งขอสารภาพตามตรงเลยว่า แม้แต่ทีเซอร์ก็ไม่ได้ดู เนื่องจากติดภารกิจมากมาย ดูเพียงแค่ภาพโปสเตอร์เท่านั้น ก็ตัดสินใจว่าจะดูทันที เพราะคิดว่าน่าจะเป็นแนวหนังบู๊ แอคชั่นตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ และคาดว่าโปรดักชั่นก็ต้องดีมากด้วยแน่ๆ หากถามว่าสำหรับคนที่ไม่ได้มีพื้นฐานหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มาก่อน อยากจะบอกเลยว่า แก่นของเรื่องนั้นดีมากๆ ส่วนคิวบู๊ไม่ได้แน่นจุกเหมือนที่หวังไว้

ปอร์เช่ เป็นเพียงคนดูหนังคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่นักวิจารณ์ และไม่ได้เป็นคนเก็บรายละเอียดจุดบอดจุดด้อยของหนัง แต่ดูเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ซึ่งผู้เขียนมองว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้แย่ คุ้มค่ากับค่าตีตั๋วเข้าไปดูในโรงหนัง เพราะโปรดักชั่นดีมากจริงๆ ฉากบู๊แม้จะไม่ได้ใส่ไปเต็มเรื่อง เพราะแน่นดราม่า สะท้อนชีวิตด้วย แต่ทุกซีนคือปัง จิกโซฟาแทบขาดทุกตอน เพราะทั้งลุ้นและหวาดเสียวมากๆ มีหักมุมแทรกเข้าไปด้วยที่ทำเอาร้อง เห้ย !! ดังลั่นโรง และมีสีสันอยู่ 1 คน แม้เป็นตัวประกอบไม่มีซีนมากนัก บทพูดมีแค่ 2 ประโยคถ้าจำไม่ผิด แต่ชอบนางมาก กับสาวสองหัวโล้นห่มสาหรี่สีม่วง

และคิดว่าหลายคนอาจจะต้องชอบคือซีนที่ยิ่งกว่า 20+ กับฉากขณะที่พระเอกกำลังขึ้นฝั่งหลังจากเล่นน้ำ แล้วหาเสื้อผ้าไม่เจอ นั่นเท่ากับว่าหนุ่มหล่อกล้ามแน่นผิวขาวคนนี้เปลือยทั้งตัว แถมมีเสี้ยววินาทีหนึ่งที่ฉายให้เห็นตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า โดยรวมแล้วผู้เขียนไม่ได้ผิดหวังกับหนังเรื่องนี้ ถือว่าครบรส

อย่างไรก็ตามเพิ่งได้มาอ่านเรื่องย่อคร่าวๆคือ "หนังได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของ อโกจี(Agojie) หน่วยรบหญิงล้วนชาวแอฟริกันที่ปกป้องอาณาจักรดาโฮมีย์ในศตวรรษที่ 18 นายพลนานิสกา ขุนพลหญิงสุดแกร่ง เธอรับหน้าที่ฝึกทหารใหม่เพื่อป้องกันอาณาจักรจากนักล่าอาณานิคมชาวยุโรปที่กำลังบุกมารุกรานแผ่นดิน"

ทั้งนี้รายงานจากต่างประเทศระบุว่า 

"หนังทำเงินไป 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เกรด A+ จาก CinemaScore ถือเป็นหนังเรื่องที่ 2 ของปีนี้ที่คว้าเกรด A+ ไปครองต่อจาก Top Gun: Maverick และได้ 94 เปอร์เซ็นต์จากเว็บมะเขือสดRotten Tomatoes ด้วยคะแนนรีวิวที่น่าประทับใจแบบนี้ ทำให้เชื่อว่ากระแสปากต่อปากและการแชร์ทางโซเชียลมีเดีย จะทำให้หนังทุนสร้าง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถเดินหน้ากวาดรายได้จนทำกำไรได้สำเร็จ"

รวมถึงยังได้เข้าชิง ลูกโลกทองคำ (Golden Globe Awards) ครั้งที่ 80 รางวัลเพื่อยกย่องบุคลากรในวงการแสดงทั้งอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ ซึ่งกำหนดจัดประกาศผลกันในวันที่ 10 มกราคมปีหน้า ซึ่งตรงกับช่วงเช้าวันพุธที่ 11 ม.ค. 66 ตามเวลาในไทย และอย่างที่หลายคนทราบแล้วว่าเวทีนี้จะได้กลับมาถ่ายทอดสถานี NBC อีกครั้ง 

ซึ่งเข้าชิงในรางวัลนักแสดงนำหญิงสาขาหนังดราม่า Viola Davis (The Woman King) ช่วงชิงกันดุเดือดกับดาราออสการ์เกินครึ่ง ไมว่าจะเป็น Cate Blanchett (Tar) // Olivia Colman (Empire of Light) // Michelle Williams (The Fabelmans) และ Ana de Armas นางเอกดาวรุ่งผู้สวมบท Marilyn Monroe ในหนัง Blonde