
รู้ทันกฎหมาย - มัดจำที่
มีคนมาเสนอขายที่ดินในราคาน่าสนใจ อยากจะซื้อไว้แต่เสียดายยังไม่มีเงิน ครั้นจะรอต่อไปก็หวั่นใจว่าจะมีคนมาซื้อตัดหน้า คนขายเหมือนจะรู้ว่าคิดอะไร เลยจับมือสัญญากันไว้ว่าจะไม่ปล่อยที่ดินขายให้ใคร ประมาณว่ารอได้แต่ต้องจ่ายมัดจำเอาไว้จำนวนหนึ่ง
เงินก้อนเล็กยังพอมี แต่ขอสักสองปีค่อยไปโอน ด้วยความรู้ว่าการซื้อขายที่ดินกันจะต้องมีสัญญาเป็นตัวหนังสือ หล้งจากจ่ายมัดจำให้ไปแล้วก็นัดกันว่าอาทิตย์หน้ามาเซ็นสัญญากัน
แต่การณ์กลับไม่เป็นอย่างตั้งใจไว้เพราะมีรายละเอียดมากมายที่เห็นว่าต้องใส่ลงไปในสัญญา แต่ก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ ต่างก็ต่อรองในเรื่องต่างๆ มากมาย การเซ็นสัญญาจึงต้องเลื่อนไปหลายครั้งหลายหนจนผ่านเวลาหลายเดือน
เมื่อสัญญายังไม่มีมาเป็นตัวหนังสือ คนซื้อก็เรียกร้องว่าต้องยอมให้เข้าไปพัฒนาปรับปรุงที่ดินรอไว้ เซ็นสัญญาเมื่อไหร่ก็จะจ่ายให้อีกก้อนหนึ่ง หลังจากนั้นก็รอให้ครบสองปีค่อยไปจดทะเบียนโอนกัน คนขายก็สร้างความมั่นใจให้โดยอนุญาตให้คนซื้อเข้าไปครอบครองที่ดินเพื่อจะได้พร้อมยื่นเรื่องขอสินเชื่อจากธนาคารได้เมื่อสัญญาจะซื้อจะขายลงตัวกัน
ผ่านไปเกินครึ่งปี คนขายเกิดนอกใจไปยอมขายที่แปลงนี้ให้กับคนที่เรื่องน้อยกว่า ไม่ต้องต่อรองราคาหรือว่ากำหนดเงื่อนไขมากมาย สัญญาจะซื้อจะขายจึงเซ็นกันภายในไม่ถึงสัปดาห์พร้อมทั้งกำหนดเวลาจดทะเบียนโอนขายภายในเวลาเพียงเดือนเดียว
คนซื้อมีเงื่อนไขให้คนขายจัดการขับไล่คนที่เข้าไปพัฒนาที่ดินให้ออกไปเพราะไม่มีสัญญาผูกมัดกันไว้ กฎหมายถือว่าสัญญาจะซื้อจะขายรายแรกยังไม่เกิดขึ้น
เข้าไปพัฒนาเสียเงินทองไปไม่น้อยเพราะคาดหวังว่ายึดหัวหาดไว้แบบนี้มีหรือที่คนขายจะไม่ยอมตกลงทำสัญญาให้ ความเรื่องมากทั้งหลายจึงกลายเป็นความเสียหายที่คนอยากซื้อไม่อาจดื้อแพ่งอยู่ในที่ดินต่อไปได้ ต้องก้มหน้าเดินออกมาจากที่เพราะคนมีสัญญากันไว้เขามีสิทธิตามกฎหมายดีกว่า
มัดจำที่วางกันไว้ในวันแรกของการตัดสินใจ คนขายจะอ้างว่าคนที่อยากซื้อผิดข้อตกลงไม่ทำสัญญาจะซื้อจะขายเลยขอริบไว้เป็นค่าเสียหายจากการผิดข้อตกลงไม่ได้ เพราะถือเป็นการรับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้
ก่อนตกลงซื้อที่ดินกับใคร ต้องมีสัญญาจะซื้อจะขายเป็นหนังสือถือไว้เป็นยันต์อ้างสิทธิ ไม่เช่นนั้น ต่อให้จ่ายเงินมัดจำและเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินเห็นๆ ก็ไม่เป็นข้ออ้างตามกฎหมาย
โชคยังดีที่ไม่ถูกคนขายริบมัดจำไปได้ นับว่ากฎหมายยังกรุณา อย่าริอยากได้ที่โดยไม่มีหลักฐานกันไว้เด็ดขาด
"ศรัณยา ไชยสุต"