
ลูกแพร อุไรพรลา"เสียงอิสาน"แขวนไมค์มุ่งอาชีพแม่พิมพ์
ลูกแพร อุไรพร ยุติอาชีพนักร้องประจำวง "เสียงอิสาน" ถาวรแล้วหลังถือไมค์รับใช้แฟนเพลงมากว่า 28 ปี เจ้าตัวบอกชัดสาเหตุลาออกไม่ได้มีปัญหา แค่อยากพักผ่อนอยู่กับครอบครัวและเป็นครูสอนเด็ก ยันยังไม่คิดตั้งวงหมอลำ
จีระศักดิ์ สีหะวงศ์ หรือ ลูกแพร อุไรพร อดีตนักร้องนำวงดนตรีหมอลำ "เสียงอิสาน" ของนกน้อย อุไรพร เปิดอกให้ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกหลังจากเดินออกมาจากวงกว่า 1 ปี และมีข่าวว่าจะมาตั้งวงหมอลำเป็นของตัวเอง
"ผมออกมาได้ปีกว่าแล้วครับ แต่ไม่ได้เป็นข่าวแฟนเพลงก็รู้กันดี สาเหตุที่ผมออกมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมรู้สึกอิ่มตัวไม่ได้ตั้งใจจะออก แต่ก็ได้ออกไม่ได้คิดจะแยกตัวออกมา แค่อยากพักผ่อนเติมพลังให้ตัวเอง วันที่ไปบอกแม่นกท่านก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรท่านเปิดโอกาสให้ด้วยซํ้าถ้าเราจะทำวง คุยกันตลอด ตอนนี้ก็มีงานการกุศลตามวัดต่างๆ แต่ไม่ได้มีค่าตัวอะไรช่วยกันมากกว่า ได้ค่านํ้ามันไม่ได้คิดอะไรชีวิตสบายๆ ส่วนการตั้งวงหมอลำ ผมบอกตามตรงว่าไม่ได้อยากตั้งวง แต่อนาคตข้างหน้าผมไม่รู้ ผมอยู่กับวงเสียงอิสานมา 28 ปีก็รู้ทุกอย่างว่าการทำวง การบริหารคนเป็นอย่างไรมันเลยไม่ค่อยอยากทำเท่าไหร่ ทุกวันนี้มีความสุข มีเวลาให้กับครอบครัว ไปส่งน้องแพนด้า กับน้องพิซซ่า ลูกสาวกับลูกชายไปโรงเรียน" ลูกแพรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า รู้สึกเบื่อหน่ายวงการเพลงหรือไม่ และทุกวันนี้นอกจากอยู่กับครอบครัวแล้วได้ข่าวว่าทำงานอย่างอื่นด้วย นักร้องหนุ่มจาก อ.ยางชุมน้อย (จังหวัดอะไรเติมด้วย) อมยิ้มก่อนจะเปิดฉากเล่าถึงงานใหม่ที่เจ้าตัวภูมิใจว่า
"ผมไม่ได้เบื่อวงการ ในวงการเพลงยังมีอะไรให้เราต่อสู้อีกเยอะ แฟนผมเป็นข้าราชการอยู่ที่สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมที่ 25 ขอนแก่น ตอนนี้ผมก็มาสอนเด็กเกี่ยวกับกิจกรรม การแสดง ศิลปวัฒนธรรมอีสานอยู่ที่โรงเรียนสนามบิน ท่าน ผอ.บัวเลียน อโรคยนันท์ ท่านให้โอกาสผมได้มาทำงาน ผมพบท่านเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมไปช่วยงานแฟนผม ท่านเห็นว่าผมถนัดในเรื่องการร้องลำท่านเห็นตรงจุดนี้ท่านเลยให้ผมมาทำ อีกอย่างเด็กๆ เขาก็ศรัทธาในตัวผม ตอนนี้ทุกคนก็เรียกผมว่าครูแพร มันคนละแบบกันเลย เราเป็นครูการวางตัวก็ต้องเรียบร้อยเป็นตัวอย่างแก่เด็ก มันต่างจากชีวิตช่วงที่เราเป็นศิลปินมากครับ"
เมื่อถามว่า เป็นนักร้องอยู่กับวงหมอลำ "เสียงอิสาน" มา 28 ปีมีเงินเก็บมากหรือไม่ อย่างไหมไทย ใจตะวัน อดีตคู่หู ตอนออกจากวงมาก็มีเงินเก็บมากจนตั้งวงหมอลำเป็นของตัวเอง ลูกแพรบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า
"ตอนที่ออกไม่ได้คิดนาน ผมออกมาก็ไม่ได้มีงานอะไรสำรองภาระหนี้สินก็มี พูดตรงๆ ผมมีบ้าน มีรถมีกินเท่าที่เราพอใจในชีวิต หนี้สินก็มาจากการเบิกเงินล่วงหน้ากับวง พอออกก็ต้องหักใช้กันไป ถ้าอยู่มานานบอกว่าไม่มีเงินเก็บคงไม่มีใครเชื่อ ไหมไทยไม่ค่อยเจอกันงานเขาเยอะมาก"
ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานภาพกับบริษัทท็อปไลน์มิวสิคที่สังกัดอยู่ ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ลูกแพรบอกเพียงสั้นๆ ว่า "กับบริษัทท็อปไลน์ก็ยังคาราคาซังกันอยู่เลยครับ อยากไปอยู่ค่ายอื่นมั้ยตัวผมเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลย อยากอยู่เป็นครูสอนเด็กแบบนี้ไปเรื่อยๆ"