บันเทิง

มองผ่านเลนส์คม - คนเขียนเพลงยุคดิจิทัล

มองผ่านเลนส์คม - คนเขียนเพลงยุคดิจิทัล

11 พ.ค. 2554

ได้พูดคุยกับคนเขียนเพลงรุ่นใหม่ๆ ว่าเดี่ญวนี้เขาทำงานกันอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะนักแต่งเพลงลูกทุ่งหรือเพื่อชีวิต ที่สมัยก่อนนักแต่งเพลงเขาจะจรดปากกาหรือดินสอลงบนกระดาษ แล้วเขียนทีละประโยค มีขีดฆ่า หรือมีเครื่องหมายระโยงระยางตำหรือประโยคเต็มไปหมด

 ลายมือที่เป็นต้นฉบับเหล่านั้น กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าหากใครได้ครอบครองเพราะถือว่าเหมือนเป็นเหมือนภาพวาดร่างก่อนที่จะมาสู่ความสำเร็จของนักร้องหลายๆ คนในอดีต

 แต่ความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้จากลายมือที่อ่านกันไม่ถูกหรือนักร้องที่มีความรู้น้อย เช่นเพลง "โธ่คนอย่างเรา” ของระพิน ภูไท ที่ขึ้นต้นว่า“แหงนดูเมฆฝนบนฟ้า ครึ้มดำคร่ำมา ฝืนฟ้าก็มืดมัวมน...”

 มีข้อสังเกตตรงท่อนแยกที่ว่า”รักเขาข้างเดียวเหมือนต้นข้าวเหนียวที่ยืนตายนึ่ง น้ำมันท่วมไม่ถึง พี่จึงต้องแห้งเหี่ยวตายคานา” ผู้ร้องออกเสียงเป็น” ตายนิ่ง” ซึ่งที่ถูกต้องคือ “ตายนึ่ง” เป็นต้น ความผิดพลาดอาจจะเกิดจากการที่นักร้องอ่านลายมือของครูคลาดเคลื่อนไป

 ครั้นพอได้คุยกับนักแต่งเพลงรุ่นใหม่ อย่าง วัติ ธนวิทย์ ที่เขาเรียกตัวเองว่า ”วิศวกรเพลง” เพราะเขาเป็นคนเขียนเพลงยุคออนไลน์ เผยแพร่เพลงทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งหลายคนก็รู้จักในนามของ บล็อกเกอร์ ชื่อ วัติ ธนวิทย์ Songer ในบล็อกออนไลน์ Ok nation

 เขาได้หยิบยก เรื่องราว ความเป็นมา และน่าจะเป็นไป พัฒนาการของวงการลูกทุ่งไทย จากอดีตที่ได้สัมผัสมาด้วยตนเอง จากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน เสมือนเป็นการนั่งพูดคุยเรื่องของคนรุ่นกลางเก่า กึ่งศตวรรษ มาถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ ยุคไอที ได้ฟัง โดยใช้สำนวนที่ชาวเน็ตเขาใช้กัน

 เขาเล่าให้ฟังว่า เดี๋ยวนี้การเขียนเพลงของเขาที่ครูเคยสอนไว้ว่าต้องมี คาถา “หัวใจคนธรรพ์ ” ที่มีอยู่ว่า สุ จิ ปุ ลิ คือ ต้องเป็นคนที่รู้จัก ฟัง คิด ถาม เขียน

 แต่ด้วยโลกยุคดิจิทัล ทำให้วิถีชีวิตเราเปลี่ยนไป แต่ก่อนครูเพลงต้องมีสมุด ปากกาเตรียมพร้อมเสมอ แต่เดี๋ยวนี้มีโทรศัพท์มือถือ สามารถกดบันทึกเสียง คำร้อง ทำนอง ฮึมๆ ฮัมๆ แล้วแต่จะนึกได้

 เขาบอกว่า คาถารุ่นใหม่ต้องมีเพิ่มคำ ว่า “กด ”(บันทึก)ไปด้วยอีกคำหนึ่งตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้ทำงานได้สะดวกรวดเร็วขึ้น

 ดังนั้นต้นฉบับเพลงยุคใหม่จึงเป็นไฟล์ดิจิทัล ซึ่งก็สุ่มเสี่ยงกับการสูญหาย ถ้าอุปกรณ์เก็บข้อมูลพัง ทางที่ดีต้องมีการเก็บในลักษณะของแผ่นกระดาษด้วย

 แต่นักแต่งเพลงรุ่นใหม่ที่ยังเขียนเพลงในสมุดเป็นเล่มๆ ก็ยังมี แล้วแต่ความถนัด อย่างเช่น นักร้องนักแต่งเพลงชื่อ เวสป้า แห่งค่ายอาร์สยาม บุตรชายของนักเพลงในอดีต ยงยุทธ เชี่ยวชาญชัย เขายังคงใช้วิธีการเขียนเพลงสมัยคุณพ่อมาผสมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่จนประสบความสำเร็จ

 จะว่าไปแล้วอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ก็มีส่วนดีตรงที่ช่วยลดปริมาณการใช้ทรัพยากรหลายอย่างได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีก็อาจเป็นโทษและเสียเวลาไปมาก

 มีเรื่องเล่าแซวกันเล่นๆ ว่า นักร้องนักแต่งเพลงชื่อ ครูเทพพร เพชรอุบล ตอนที่ท่านป่วย มือไม้ใช้การไม่สะดวก ท่านก็หัดใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แต่งเพลง จนตอนนี้ เผลอไปเล่นเกมจนเกือบจะกลายเป็นเด็กติดเกมไปซะแล้ว

"นคร ศรีเพชร"