บันเทิง

ท่วงทำนองชีวิตคิดแบบผู้ชายที่ชื่อ“ปั๊บ”โปเตโต้

ท่วงทำนองชีวิตคิดแบบผู้ชายที่ชื่อ“ปั๊บ”โปเตโต้

23 เม.ย. 2554

ถ้าพูดถึงวงดนตรีแถวหน้าของเมืองไทย แน่นอนทุกคนรู้จัก “โปเตโต้” (Potato) วงดนตรีร็อกหัวมัน กับเสียงร้องมีเสน่ห์ของนักร้องนำขวัญใจวัยทีนอย่าง “ปั๊บ” พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข หรือ “ปั๊บ โปเตโต้” ที่สลัดคราบนักร้องมาสวมบทบาททางการแสดงครั้งแรก กับภาพยนตร์ตอบแทนทุ

 ชิมลางการแสดง

 การแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกยากไหม

 ยากมาก แต่ที่ตัดสินใจเล่นหนังเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะความลงตัวเรื่องเวลา เพราะเรามีเวลามากขึ้น มีโอกาสไปเรียนการแสดงกับหม่อมน้อย (ม.ล.เทวนพ พันธ์เทวกุล) ผมคิดว่าถ้าเขาให้เกียรติเราแสดงภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่ง แล้วเรามีเวลาได้ทุ่มเทให้กับงานจริง ๆ ผมก็รู้สึกดีใจ ซึ่งเรื่องนี้พอได้อ่านบทครั้งแรกผมตัดสินใจเล่นเลย ด้วยความที่มันเป็นหนังเกี่ยวกับครอบครัว ผมรู้สึกว่าถ้าเราได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ถ่ายทอดความรู้สึกของครอบครัวในหนังเรื่องนี้ผมจะรู้สึกดีใจมาก

 ในเรื่องรับบทเป็นใคร

 ในเรื่องผมรับบทเป็นพี่ชายของน้องสายป่าน (อภิญญา สกุลเจริญสุข) เขารับบทเป็น “เป๋อ” ส่วนผมเล่นเป็น “จ่อย” ซึ่งเป็นนักดนตรีที่เก่งมาก เรียกว่าเขาคืออัจฉริยะทางด้านดนตรี แต่จ่อยจะดื้อและไม่ยอมฟังใคร มีความเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองสูงมาก เพราะเขาต้องดูแลน้องสาว ที่เป็นเด็กออทิสติกมาตลอดชีวิต ต้องคิดและตัดสินใจด้วยตัวเองมาโดยตลอด ทำให้รู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังใคร เขาสามารถอยู่ด้วยตัวเองได้

 จ่อยเป็นคนมีอัตตาสูงมาก คิดว่าเหมือนหรือต่างกับปั๊บอย่างไร

 ผมมีความเชื่อมั่น มีอีโก้แต่ผมไม่ถึงขนาดไม่ฟังใคร แต่จ่อยเขาเป็นคนที่มีกำแพงในชีวิตสูงมาก ปิดตัวเองไม่รับฟังความคิดเห็นของใครเลย คิดว่าความคิดของเขาถูกเสมอ ตรงนี้จะต่างกับผมมาก ในอีกมุมหนึ่งถึงแม้ว่าเขาจะดื้อหรือเวลาที่เขาโมโหจนถึงจุดเดือดเขาจะสามารถควบคุมอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้ ไม่ได้เดือดจนเหมือนคนบ้า ผมคิดว่านี่แหละคือข้อดีของจ่อย และสิ่งที่เหมือนกันคือเรื่องความชอบดนตรี ในเรื่องนี้ตอนแสดงพอผมได้จับเครื่องดนตรี มันทำให้เรารู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่กับเสียงเพลง แต่คาแร็กเตอร์ที่ได้รับจะเป็นจ่อยมากกว่า ไม่ใช่ปั๊บ

 เริ่มติดใจการแสดง อยากจะลองรับเล่นภาพยนตร์เรื่องอื่นหรือยัง

 ถ้าจะรับเล่นอีกเรื่อง ผมแอบกังวลอยู่เหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนเคยบอกผม ว่าได้รับโอกาสก็ลองทำดูสิขำๆ แต่ผมรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องขำ แต่เป็นเรื่องที่เราต้องจริงจัง เพราะเราไม่ได้รับผิดชอบแค่ตัวเราคนเดียว แต่มันหมายถึงคนอื่น ๆ ในกองถ่ายด้วย ไม่ใช่เรื่องที่จะทำเล่นๆ ได้ ถ้าเราไม่มีเวลาทุ่มเทให้จริงๆ ผมคงไม่กล้ารับเล่น เพราะผมไม่อยากเอาเปรียบคนดู เพราะเราอยากจะแสดงเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ไม่ใช่ใช้ชื่อปั๊บมาเล่นหนังเพียงอย่างเดียว

 ถ้าจะให้ขอบคุณได้คนเดียวในโลกปั๊บเลือกจะขอบคุณใคร

 เอาจริงๆ นะ ผมอยากขอบคุณโลกใบนี้ ที่ทำให้ผมได้ใช้ชีวิตอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ เพราะผมรู้สึกว่าโลกที่เราอยู่เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุด แต่เราไม่ค่อยได้นึกถึง ช่วงหลังเลยพยายามที่จะนึกถึงโลกให้ได้มากที่สุด อาจจะด้วยเหตุการณ์และสถานการณ์ของโลกที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน สภาพปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่ใช่แค่ในประเทศของเราอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นกับทุกประเทศทั่วโลก ผมคิดว่าทุกอย่างมีจิตวิญญาณ รวมถึงโลกใบนี้ด้วย ทุกวันที่กำลังผ่านไป จะทำอะไรต้องคิดถึงโลกที่เราอยู่ให้มากขึ้น

 ถนนสายดนตรี

 ผลงานเพลงอัลบั้มล่าสุด ทำไมถึงใช้ชื่ออัลบั้มว่า Human

 ที่ใช้ชื่อนี้เพราะ 10 ปีที่เราทำงานมา มีแฟนเพลงและคนมากมาย ที่ทำให้เราเดินมาจนถึงทุกวันนี้ และผมรู้สึก ว่ามนุษย์มีอะไรน่าค้นหาเยอะ มีมุมมองที่น่าสนใจ แต่ที่เด่นที่สุดของคนคือเรื่องของความรู้สึกที่ทุกคนต้องมี เราเลยต้องการใช้ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่เข้ามาอยู่ในอัลบั้มนี้ และพยายามคิดจากคนฟังก่อนที่จะทำเพลง เรามีส่วนร่วมในการทำเกือบทุกอย่าง ทั้งแต่งเพลงจนถึงทำดนตรี แต่โดยส่วนตัว ผมจะดูแลในเรื่องคอร์ทของเพลงและเมโลดี้มากกว่า

 คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้โปเตโต้ยืนอยู่ในวงการเพลงได้นานถึง 10 ปี

 ผมว่าจุดยืนของเราคืออยู่กับปัจจุบัน ไม่ได้ไปยึดติดกับความสำเร็จในวันก่อน เพราะก้าวแรกของโปเตโต้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราก็ยังทำอะไรไม่เป็น เรามีหน้าที่ร้องเพลงเราก็ทำให้ดีที่สุด แต่วันหนึ่งที่เรารู้สึก ว่ามีสิ่งที่เราอยากจะทำ มีสิ่งที่เราเป็น ทุกอย่างจะเดินไปตามเส้นทาง เหมือนขั้นบันได ที่เราต้องเดินขึ้นไปเรื่อยๆ งานเพลงก็จะโตไปพร้อมกับเรา มีคำๆหนึ่งซึ่งผมชอบมากบอกว่า “ความมีตัวตน คือความไม่มีตัวตน” เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องปรับอยู่ตลอดเวลา เราต้องอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน เวลาเราทำงานก็อินกับเพลงของเรา คนฟังจะรู้สึกได้ถึงสิ่งที่เราเป็น แต่โดยพื้นฐานของโปเตโต้คือความเป็น “ป๊อป” ที่ยังมีอยู่แน่นอน อย่างอัลบั้มนี้ จะมีความเป็นป๊อบที่กลมกล่อมมากขึ้น

 มีบ้างไหมผลงานที่เราคิดว่าดี แต่ทำออกมาคนกลับไม่ชอบ

 มีนะ แต่ถ้าเขาไม่ชอบแล้วแนะนำอย่างมีเหตุผลถึงเนื้อเพลง หรือทำนองว่าควรจะปรับแก้ไขอย่างไร เรายินดีรับฟังและอยากจะพัฒนาปรับปรุงต่อไป แต่ถ้าเป็นความเห็นที่โจมตีอย่างมีอคติ เราก็จะปล่อย คิดว่าไม่ฟังจะดีกว่า หรือเป็นความเห็นในเชิงเปรียบเทียบที่ผมไม่ชอบเลย เพราะผมคิดว่าทุกคนไม่เหมือนกัน ยิ่งเปรียบเทียบมากเท่าไหร่ บางครั้งเหมือนเป็นการสร้างความเจ็บปวดทางอ้อมให้กับนักดนตรีโดยที่เขาไม่รู้ตัว เพราะเราไม่เคยคิด ว่าเราจะต้องไปสู้กับใคร เราทำผลงานออกมาด้วยความตั้งใจ และใช้ความรู้สึกของคนฟังเป็นบรรทัดฐานมากกว่า

 โปเตโต้เป็นวงที่ค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องสมาชิกบ่อยเคยคิดไหมว่าทำไม

 ผมมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ทุกวันนี้เราเหลือสมาชิกอยู่ 3 คนก็จริง แต่ทุกคนยังอยากที่จะทำงาน ยังเต็มที่และสนุกกับดนตรี เราก็จะตั้งใจทำตรงนี้ต่อไป ไม่ได้ตกใจอะไร มองให้เป็นเรื่องธรรมชาติ และพยายามแก้ไขปัญหา แล้วเราจะก้าวผ่านไปได้ในที่สุด แทนที่จะคิดว่าวงเราซวยหรือเป็นอาถรรพณ์ เพราะใครๆ ก็ชอบถามถึงเรื่องนี้ ซึ่งผมยอมรับว่าตอนเด็กๆ เคยคิดว่าวงเราโชคไม่ดีเหมือนกัน แต่ตอนนี้มองเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะทุกคนที่ออกไปเขาก็มีเส้นทางเดินของเขาเอง ทุกวันนี้ยังติดต่อและพูดคุยกันอยู่ คิดว่าวันหนึ่งในอนาคตอาจต้องโคจรมาเจอกันอีก

 โลกของการเปลี่ยนแปลง

 ฝากอะไรถึงเด็กรุ่นใหม่ ที่มีความฝันอยากเป็นนักร้องเหมือนปั๊บ

 ความจริงเด็กรุ่นใหม่เก่งทุกคน และมีความคิดสร้างสรรค์สูง เท่าที่ผมฟังเพลง หรือผลงานใหม่ๆ ออกมาผมว่าดี และรู้สึกดีใจ ที่ทุกคนสามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าบางครั้งคุณจะไม่มีสังกัด แต่คุณก็สามารถยืนอยู่ได้ และเติบโตด้วยผลงานของพวกคุณจริงๆ ทุกวันนี้มีอินเทอร์เน็ต มีโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เราสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ และการเป็นนักดนตรีก็ไม่จำเป็น ว่าจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดัง อันนั้นคือกำไรเป็นผลพลอยได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือคุณซื่อสัตย์กับผลงานมากพอหรือยัง ถ้าคุณซื่อสัตย์กับผลงานมากพอ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรคุณก็มีความสุข

 คิดยังไงกับการใช้อินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นช่องทางในการแจ้งเกิด

 ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี และน่าสนับสนุนถ้าพวกเขานำเสนอตัวเองในทางที่ถูกที่ควร เพราะเขาได้ใช้ความสามารถของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ และเป็นสิ่งที่นักดนตรีอาชีพอย่างเรา ต้องเรียนรู้ด้วยเหมือนกัน บางทีเราอยู่กับระบบเดิมๆ บางครั้งอาจต้องเปิดตัวเอง เพื่อรับกับสิ่งใหม่ด้วยเหมือนกัน และถึงแม้ว่าช่องทางนี้ จะทำให้ศิลปินหน้าใหม่แจ้งเกิดได้ง่ายขึ้น แต่ผมมองว่าไม่น่ากลัว เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับ ว่าวันหนึ่งต้องมีศิลปินหน้าใหม่ เกิดขึ้นมาอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดา และมีในทุกวงการ เพียงแต่วันนี้ เรายังมีความสุขที่ได้เล่นดนตรีให้คนฟัง ได้ทำในสิ่งที่เรารัก และคนฟังรักในงานของเราก็พอแล้ว

 ทุกวันนี้ปั๊บให้คำจำจัดความตัวเองว่าอย่างไร

 ผมเป็นคนที่อยู่กับความเป็นจริง เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีทั้งดำและขาว แต่พยายามที่จะมองให้เห็นสีดำของตัวเองให้ชัด แก้ไขและปรับเปลี่ยนให้ดีที่สุด อะไรที่ไม่ดีเราก็ยอมรับว่ามันไม่ดี เวลาที่เรารู้สึกถึงด้านมืดของตัวเอง อย่างเวลาที่เรารู้สึกถึงความโกรธ เกลียด เราต้องยอมรับ ว่าเรารู้สึกแบบนี้จริงๆ และพยายามรักษาสมดุลด้วยตัวเราเองให้ได้ เพราะผมอยากเป็นคนดี

 จังหวะหัวใจ

 ทำงานเยอะมากมีเวลาให้กับเรื่องหัวใจบ้างไหม

 มีแน่นอน ถึงจะทำงานเยอะ แต่เขาไม่เคยบ่นเลย เราคบกันมาประมาณปีครึ่ง ถามว่าต้องปรับตรงไหนบ้าง มันก็ทั้งสองฝ่าย เพราะคนเรามีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อย่างตอนอายุเท่านี้เราคิดแบบหนึ่ง แต่ในอนาคตถ้าเราอายุมากขึ้น เราอาจจะคิดอีกแบบหนึ่งก็ได้ มันเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้ไปตลอดเหมือนโรงเรียนชีวิต ไม่สามารถไปกำหนดกฎเกณฑ์ หรือคิดว่าต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลา แต่ถ้าเรามอง ว่าความรักมันอยู่ตรงกลางระหว่างเรา และเราจะดูแลคำว่ารักให้อยู่อย่างนี้ไปตลอดได้ยังไ งคงจะดีกว่า ที่สำคัญถ้าคุยกันรู้เรื่องก็สามารถเดินไปด้วยกันได้

 ดูเหมือนเป็นคนเปิดเผยเรื่องความรัก

 ปกติผมก็เคยพูดนะ เพราะคิดว่าความรักเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร และไม่ได้รู้สึกว่าต้องระวังเป็นพิเศษ แต่จะรู้สึกเกร็งมากกว่า เพราะยังไงผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นที่จับตามองมากขนาดนั้น สิ่งที่เราเป็นทุกวันนี้ ไม่ว่าจะนักร้องหรือนักแสดงมันก็แค่หัวโขน แต่ในการใช้ชีวิตส่วนตัว เราก็ควรจะถอดมันออก รู้จักวางลงบ้างให้เราสามารถใช้ชีวิตปกติเหมือนคนธรรมดาทั่วไปได้ เราก็จะได้มีความสุข ถ้าไปแบกความเป็นปั๊บ โปเตโต้ เดินอยู่ตามท้องถนนตลอดเวลาก็คงไม่ใช่

 คบมาสักระยะแล้ว มีการวางแผนที่จะแต่งงานไหม

 เรื่องแต่งงานผมมองว่าเป็นการให้เกียรติทางครอบครัวมากกว่า แต่ตอนนี้ผมยังเฉยๆ กับเรื่องนี้อยู่ ไม่ได้คิดว่าจะต้องแต่งงานในอีกกี่ปีข้างหน้า ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลาและความพร้อมมากกว่า

 ฝันติดไฟ หัวใจติดดิน นี่แหละทำนองชีวิตของนายปั๊บ โปเตโต้ เขาแหละ