บันเทิง

“เช็กอิน” ลัดดาแลนด์

“เช็กอิน” ลัดดาแลนด์

22 เม.ย. 2554

ถ้าไม่นับพวกซับซ้อน เล่นคำในชื่อเรื่อง (หนีตามกาลิเลโอ, รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ฯลฯ) หนังของค่าย GTH ก็มักจะมีคำง่ายๆ ที่สื่อสารตรงจนไม่ต้องคิดอะไร และที่น่าแปลกคือ มันสามารถกลายเป็นงานที่ประสบความสำเร็จได้ ในระดับ “ปรากฏการณ์”

 “แฟนฉัน” มาจนถึง “สี่แพร่ง” หรือ “เพื่อนสนิท” มาจนถึง “ลัดดาแลนด์” น่าจะเป็นน้ำหนักที่ยืนยันได้พอสมควรในความคิดเห็นข้างต้น เพียงแต่ชื่อหลังสุดนั้น ไม่ว่าจะเป็นกรรม กริยาหรือประธาน มันล้วนได้อานิสงส์ “ต่อยอดเอาเอง” จากการ “รับรู้เรื่องราว” แต่หนหลัง ของสถานที่นั้นๆ อยู่แล้ว

 เท่าที่ทราบ “ลัดดาแลนด์” เป็น “สวนสนุก” มาก่อนเป็น “หมู่บ้าน” แต่ “เท่าที่ไม่ทราบ” ลัดดาแลนด์มีเหตุการณ์ประหลาดมากน้อยแค่ไหน จริงลวงอย่างไร


 อันนี้ไม่อาจรู้แน่นอนได้แต่ถึงไม่รู้แน่นอน ผมก็มั่นใจได้ว่า “ลัดดาแลนด์” มีแต้มต่อในการจะเป็นหนังทำเงินมากเหลือเกิน มากกว่า “ห่วยขั้นเทพ” และไม่น้อยกว่า “สี่แพร่ง” เสียด้วย

 ผมไม่เคยอยู่ลัดดาแลนด์ (เพราะอยากอยู่ “แสนสิริ” มากกว่า - ฮา)

 และวันที่เขียนบทความนี้ ยังไม่ได้ดูหนังสยองขวัญเรื่องนี้ ทว่า มีมุมมองบางอย่าง

 อยากจะพูดถึง“ลัดดาแลนด์” ของ GTH เป็นสินค้าทางวัฒนธรรมความเชื่อ ที่ค่ายนี้ค่อนข้างโดดเด่นในการทำหนังแนวทางนี้ เทียบกันแบบ “สำเร็จ-ล้มเหลว”

 ผมยังรู้สึกด้วยซ้ำว่า งานในกลุ่ม thriller/horror ของพวกเขา ประสบความสำเร็จมากกว่างานในกลุ่ม feel good movies เมื่อเทียบกันแบบจำนวน-ปริมาณ และคุณค่าเชิงศิลปะ (อันไม่เกี่ยวกับรายได้)

 หนัง GTH ที่ผมไม่ชอบก็มีแน่ๆ หนังที่รู้สึกว่าพวกเขาซ้ำตัวเองบ่อยๆ และน่าเบื่อก็มี แต่เราต้องยอมรับว่า ถ้า “องค์บาก” ภาคแรก ได้สร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับหนังแอ็กชั่นแบบไทยๆ เสียแล้ว กลุ่มหนังสยองขวัญของ GTH (ชัตเตอร์, สี่แพร่ง, ห้าแพร่ง) ได้ทำให้ระดับ หรือคลาสของงานสยองขวัญ สูงขึ้นไปอีก
โอเคแหละ มันมีเรื่องของอิทธิพลจากหนังต่างประเทศอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับงานจากหลายๆ ค่าย (ซึ่งก็มีการเลียนแบบอยู่ไม่น้อย) หนังแนวนี้ของ GTH มีภาพรวมหนักแน่นกว่า น่าสนใจกว่า คือไม่ทำมันออกเป็นสินค้าเกรดต่ำ

 หนังในกลุ่มที่ใครบางคนแดกดันว่าเป็นพวก feel good นั้น อาจจะดีบ้างไม่ดีบ้าง (แต่ดีมากกว่าไม่ดีแน่นอน) แต่งานสยองขวัญของ GTH เป็นกราฟที่ “ดีสม่ำเสมอ” มาตลอด จนทำให้สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะมองไม่เห็นก็คือ product ที่ขายได้และมีคนสนใจในตลาดอินเตอร์จริงๆ ก็คือ หนังเขย่าขวัญ/สยองขวัญ นั่นเอง

 จะบอกว่าหนังในกลุ่มนี้เป็นจุดแข็งของพวกเขาก็น่าจะใช่ และเป็นทั้งการสร้างแฟรนไชส์ ทั้งการต่อยอด ทั้งเครดิตของบริษัทที่ฝรั่งยอมรับ เป็นหน้าเป็นตาของอุตสาหกรรมหนังไทย พูดอะไรแบบนี้ ได้ทั้งนั้นเลย

 แต่ก็อีก - เมื่อทำไว้ดีมาตลอด “ลัดดาแลนด์” ก็เป็นที่คาดหวังของคนดู

 คาดหวังถึงขนาดที่ว่า ขนาดคนโง่ๆ เทคโนโลยี ไม่นิยมอ่านเว็บบอร์ดแบบผม ยังรับรู้ได้ถึงรังสีบางอย่างของการพูดถึงหนังเรื่องนี้ (เอาแค่ทวิตเตอร์-เฟซบุ๊ก-บล็อก กับความรู้สึกคน 2 แสนกว่า ก็รับรู้ได้แล้ว)

 น่าเสียดายอย่างเดียว ถ้า “ลัดดาแลนด์” อยู่กรุงเทพฯ เราอาจจะได้สนุกในการดูหนังรอบสื่อเรื่องนี้ใน “ลัดดาแลนด์” (เอาสักรอบ 24.00-02.00 น.)

 “ลัดดาแลนด์” ฟังง่าย เขียนก็สั้น ออกเสียงก็ลื่นไหล ใช่ไหมครับ แต่พอนึกๆ ตามบ้าง ก็จะพบว่าในความเรียบง่ายของชื่อนั้น มันมีความน่าสะพรึงกลัว เร้นอยู่ในตัวอักษร

 หนังน่าดูเรื่องนี้ คงทำให้คนดูสมหวังในการกลัวแน่นอน

 ถ้าจะมีอะไรแก้ได้ ไม่ให้กลัว หมอ(อัป)ลักษณ์ย่านบางนาอย่างผม เสนอว่า คนดูในโรงที่รายล้อมด้วยนางเอกหนัง GTH ตั้งแต่เรื่องแรกยันเรื่องสุดท้าย(หรือใครจะเถียง)

"นันทขว้าง สิรสุนทร"