
เจนภพติงจัดงานลูกทุ่งเหลว ยกงานกึ่งศตวรรษฯเป็นแม่แบบ
ผ่านพ้นไปแบบเงียบๆ น่าเสียดายสำหรับ "7ทศวรรษลูกทุ่งไทยฯ" พร้อมเสียงบ่นปนตำหนิจากครูบาอาจารย์ คนในวงการ และนักร้องที่มาร่วมงาน ทำให้นึกถึงงาน "กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย" เมื่อ 20 ปีก่อนที่จัดโดยคณะกรรมการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งชาติ หรือ สวช. ซึ่งมีความแตกต่างอ
**จุดเริ่มต้นของงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยมาจากอะไร
มาจากท่านกร ทัพพะรังสี ไม่มีใครทราบว่าท่านสนใจเรื่องเพลงลูกทุ่ง ท่านมาดูงานที่ศูนย์สังคีตศิลป์ ตรงถนนผ่านฟ้า ตอนนั้นกิจกรรมทุกวันศุกร์จะเป็นเรื่องวัฒนธรรมล้วนๆ จากตรงนั้นท่านกรเชิญผมไปนั่งคุยที่กระทรวงอุตสาหกรรม ตอนนั้นท่านว่าการที่นั่นท่านมีแนวความคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะให้มีการแสดงเกี่ยวกับเพลงลูกทุ่งดีๆ ขึ้นมาสัก 1 ครั้งในนามของรัฐบาล
จากนั้นก็มีการปรึกษาหารือครูบาอาจารย์ ผู้ใหญ่ในวงการเพลงหลายสิบครั้งจนตกผลึกทางความคิดว่าจะจัดงานขึ้นมาในนามของสวช.สำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งตอนนั้นขึ้นอยู่กับกระทรวงศึกษาธิการสมัยนั้นยังไม่มีกระทรวงวัฒนธรรม จนท่านกรย้ายไปเป็นรัฐมนตรีสำนักนายกฯ
**แล้วที่มาของชื่อกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ล่ะ
มาจากการหารือกับครูเพลงหลายท่านว่าเพลงลูกทุ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ ปีไหน พ.ศ.ไหน มีหลักฐานยืนยันไหม ผู้ที่ยืนยันและเอาหลักฐานมารับรองคือครูสมาน นภายน (ใหญ่ นภายน) ครูบอกว่าเพลงลูกทุ่งที่จริงมีมาตั้งแต่สมัยเป็นภาพยนตร์ยุค 16 มม.-35 มม. แต่ว่ามันไม่มีความชัดเจนว่ามีการแบ่งแยกว่าเป็นลูกทุ่งหรือลูกอะไร คำว่า "ลูกทุ่ง" มาเกิดเมื่อปี 2507 แต่เพลงมันมีมาก่อน ที่ประชุมนำเสนอเพลงกันขึ้นมาหลายเพลง ที่สุดทุกคนตกลงกันว่าเพลง "เจ้าสาวชาวไร่" ร้องโดย คำรณ สัมปุณณานนท์ แต่งโดยครูเหม เวชกร เมื่อปี 2481 น่าจะมีความเป็นลูกทุ่งสมบูรณ์ที่สุดเป็นเพลงแรกของเมืองไทย ทุกคนเห็นด้วย พอมีตัวเลขเป็น 2481 พี่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการบอกว่า จาก 2481 ถึง 2531 คือเราประชุมปี 2530 ทั้งปี พี่เนาว์บอกว่าต้องใช้ชื่อ "กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย"
**หลังจากนั้นมีการทำงานกันอย่างไร
มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบว่าใครจะทำหน้าที่อะไร โดยมีเสาหลักคือกระทรวงศึกษาธิการในนามของสวช. ระดมสรรพกำลังของข้าราชการทั้งหมดมาช่วยกัน และมีคนนอกอย่างผมครูบาอาจารย์หลายท่านมาเป็นอนุกรรมการ แล้วกำหนดวันที่ 16 กันยายน 2532 เป็นวันจัดงาน คนในวงการให้ความร่วมมือกันเต็มที่เลยครับ เป็นระดับผู้ใหญ่ไม่มีการแบ่งแยกลูกทุ่งลูกกรุง มานั่งคุยกันให้ความคิดเห็นเพื่อวางกรอบของงาน ใครทำเอกสาร ใครอยู่ฝ่ายการแสดง ตามหลักการทางวิชาการเลย ซึ่งตัวผมอยู่ฝ่ายการแสดง
**ตอนนั้นวงการลูกทุ่งเป็นอย่างไร
เรียนกันตรงๆ ปี 2532 ลูกทุ่งซบเซาอย่างหนัก นักร้องลูกทุ่งระดับผู้ใหญ่อย่าง ชาย เมืองสิงห์ กลับบ้านที่สิงห์บุรีไปขุดเผือกขุดมันกันแล้วไวพจน์ประกาศเลิกร้องเพลง ตอนนั้นเป็นยุครุ่งโรจน์ของเพลงสตริง ลูกทุ่งมานั่งคุยกันไม่มีงาน ทุกคนบอกว่าเพลงลูกทุ่งมันตายแล้ว
**ตอนนั้นคิดว่างานกึ่งศตวรรษจะทำให้เพลงลูกทุ่งฟื้นตัวไหม
ตามความคิดของทุกๆ คนไม่ได้คิดว่าเพลงลูกทุ่งจะเป็นอย่างไร ตอนนั้นเป้าหมายที่จัดเพื่อยกย่องเชิดชูนักร้องที่สร้างผลงานดีๆ มาตลอด 50 ปี เขามีกรรมการฝ่ายคัดเลือกเพลงเพลงที่ได้ขึ้นเวที ไม่ใช่นึกอยากให้ใครขึ้นก็ขึ้นนะ เขาคัดเลือกเพลงคัดเลือกคนจนตกผลึกออกมาเป็น 50 เพลงที่เป็นลูกทุ่งแท้ๆ มีบรรยากาศที่เป็นลูกทุ่งจริงๆ ที่ภาษางดงาม ทำนองงดงาม ตัวนักร้องงดงาม ได้มีโอกาสได้ขึ้นเวที
แล้วก็นำความกราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เราทราบว่าท่านโปรดเพลงลูกทุ่ง เราคิดว่าถ้าจะทำขึ้นมาในเชิงอนุรักษ์ผลักดันให้เพลงลูกทุ่งมีค่าขึ้นมาในวันที่เพลงลูกทุ่งตายแล้วสิ่งเดียวที่จะพึ่งได้คือพระบารมี ทางสวช.เชิญเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีมาทอดพระเนตรงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย พอเรารู้ว่าท่านจะเสด็จฯ มาเราคิดว่านี่คือความสำเร็จของเพลงลูกทุ่ง เพราะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินท่านทรงมาดูเพลงชาวบ้าน ในขณะที่รัฐบาลเป็นแกนนำอยู่ข้างหลัง มีการให้แจ้งความเคลื่อนไหวตลอดโดยกรมประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดช่อง 11 เลยกลายเป็นการถ่ายทอดเพลงลูกทุ่งที่ยาวที่สุดของเมืองไทย เล่นกันเกือบ 6 ชั่วโมง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ท่านไม่ทรงลุกไปไหนเลย
**ความสำเร็จของการจัดตอนนั้นเป็นอย่างไร
วันนั้นเรตติ้งช่อง 11 ดีที่สุด และไม่มีอะไรดีกว่านั้นอีกแล้วที่ช่อง 11 จะทำได้ พอเสร็จก็มีพระราชปรารภจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีว่า เพลงลูกทุ่งดีๆ ที่มีลีลาเป็นไทยเดิมพื้นบ้านมากมายทำไมไม่ได้รับรางวัล
นั่นเป็นที่มาของกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2534 มีเพลง 30 เพลง และมีการมอบรางวัลด้วย และพระองค์ท่านพระราชทานเพลง "ส้มตำ" มาให้
**หลังจากนั้นวงการลูกทุ่งเป็นอย่างไร
พอเกิดงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยขึ้นก็มีการนำเพลงลูกทุ่งเก่าๆมาทำกันทุกค่ายเพลง บางค่ายไม่เคยสนใจเพลงลูกทุ่งก็ยังมาทำ นักร้องรุ่นใหม่นักร้องสตริงเอาเพลงลูกทุ่งมาร้องกันทุกคน บริษัทนิธิทัศน์เติบโตขึ้นมาเพราะเพลงลูกทุ่ง นักร้องที่กลับบ้านไปขุดมันได้กลับคืนสู่วงการ ได้บันทึกเสียงใหม่ ทุกคนรวมทั้งนักร้องที่ไม่ได้ขึ้นเวทีกึ่งศตวรรษแต่เป็นนักร้องตัวจริงก็มีงานจนถึงปัจจุบันนี้
**ทำไมวันนี้การจัดงานเกี่ยวกับการรวมคนและเพลงลูกทุ่งถึงได้ตกต่ำ
ที่ล้มเหลวส่วนหนึ่งคือคนลูกทุ่งไม่รวมตัวกันจริงๆ เหมือนเมื่อตอนงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย นี่คือหัวใจหลักคนลูกทุ่ง เมื่อลืมตาอ้าปากได้มีพลังแล้วกลับไม่เสียสละเหมือนเมื่อตอนไม่มีพลัง มีการแบ่งกลุ่มแบ่งพวกทำงานเฉพาะกลุ่ม รับงานส่วนตัวจะไปร่วมงานส่วนรวมแบบกึ่งศตวรรษมันไม่เกิดอีกเลย ไม่มีการตกผลึกทางความคิด ไม่ใช่แค่ให้คนมารวมตัวกัน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ต้องการให้เกิดแรงกระเพื่อม เกิดการพัฒนาเปลี่ยนแปลงในวงการ มันต้องรวมตัวกัน กระทรวงวัฒนธรรมไม่ใช่แค่ให้เงินอย่างเดียว ต้องมาร่วมคิดร่วมทำด้วย
**กับงานลูกทุ่งอื่นๆ ที่ผ่านมาที่มีเสียงว่ากันมากรู้สึกยังไง
ผมเสียใจที่งานเพลงลูกทุ่งล้มเหลว ผมว่ามันหนักไปทางการตลาดงานพาณิชย์ ผลประโยชน์ ความล่มสลายของวัฒนธรรมเพลงลูกทุ่งในสมัยก่อนมันมาจากเรื่องผลประโยชน์ วัฒนธรรมล่มสลายเพราะใคร
**อยากให้มีการจัดงานแบบกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยอีกไหม
มีรัฐบาลชุดไหนกล้าเปิดตัวสนับสนุนวัฒนธรรมแบบเต็มตัว ไม่มีคิดเรื่องผลประโยชน์และการเมืองไหมล่ะครับ ถ้ามีผมมั่นใจว่าทำได้อีก ผมว่าวันนี้เพลงลูกทุ่งอยู่ในช่วงของความสับสน ควรมีการสัมมนาให้เห็นว่าเพลงลูกทุ่งมีวิวัฒนาการ ถ้ามัวไปย่ำอยู่กับที่มันก็ต้องตาย ศิลปะมันต้องเคลื่อนไหว ไม่อย่างนั้นตายเหมือนหลายๆ อย่างที่ตายไป แล้วเราจะปล่อยให้เพลงลูกทุ่งตายอย่างนั้นหรือ ผมว่าถึงเวลาแล้วที่บนปฏิทินไทยควรจะมีวัน "ลูกทุ่ง" ได้แล้ว ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกย่องกำหนดวันเพลงลูกทุ่งไทยขึ้นมา
**ถ้าหากจะมีขึ้นได้ ควรจะเป็นวันไหน
11 พฤษภาคม เพราะว่าคือวันแรกของเมืองไทยที่ปรากฏคำว่า เพลงลูกทุ่ง อย่างเป็นหลักฐาน เป็นวันแรกที่มีรายการโทรทัศน์ชื่อเพลงลูกทุ่งที่ออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม และคำว่า "ลูกทุ่ง" อ.จำนงค์
รังสิกุล เป็นผู้บัญญัติศัพท์นี้ขึ้นมา คนได้รู้ทั่วประเทศได้เห็นได้ยิน ถ้าไม่มีวันที่ 11 พฤษภาคม มันก็ไม่มีคำว่าเพลงลูกทุ่ง