บันเทิง

คมเคียวคมปากกา -  นักฝันบ้านนอก

คมเคียวคมปากกา - นักฝันบ้านนอก

01 เม.ย. 2554

เขียนต้นฉบับวันอังคารที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๔

 ขณะได้ข่าวเพื่อนหลายคนติดน้ำติดฝนอยู่แถวไชยา สุราษฎร์ธานี  ผมกำลังอยู่ที่ภูผาม่าน ฝนตกพรำๆ ทั้งวัน เข้าใจว่าเป็นหางๆ ของพายุ  ที่อื่นโดยเฉพาะทางใต้อาจกำลังตกหนัก

 “ภูผาม่าน” ชื่อไพเราะจับใจมานาน เคยแต่ผ่านๆ ไม่เคยแวะเที่ยว  จึงรู้สึกว่าไกล พอได้มาจริงๆ ก็ไม่ไกลจากขอนแก่นสักเท่าไหร่ ขับรถเลยชุมแพสักหน่อย เลี้ยวขวาไปทางเลยสักนิดก็ถึงแล้ว จุดนัดหมายของเราอยู่ที่ป้ายชื่อ “บ้านหนองเขียด” ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก  หรือที่ชาวบ้านแถวนั้นเรียก “อาจารย์สิงห์เฒ่า” (บางคนเรียก “สิงห์เฒ่า-สาวทิ้ง” และ “เฒ่าสิงห์-ทิ้งสาว” ๕๕๕ ภาษาไทยนี่ก็ช่างผวนพาไปเสียจริง ทั้งที่เจ้าตัวเขามีลูกน่ารักถึงสองคน คนหนึ่งกำลังอุ้ม คนหนึ่งกำลังอยู่ในท้องแม่) 

 สิงห์เฒ่าเอ่ยปากชวนไปเที่ยวบ้านเกิดของเขา เพราะมีโครงการร่วมกับ วสุ ห้าวหาญ ก่อตั้ง “กลุ่มนักฝันบ้านนอก” เป็นชื่อกลุ่มที่ถูกใจผมมาก เพิ่งไปรู้รายละเอียดจากงานนี้ เป็นคำจากเพลงชุดใหม่ของ ไผ่  พงศธร ผู้แต่งคือวสุบอกเดิมตั้งใจจะใช้ชื่อเพลงนี้ว่า “นักฝันบ้านนอก”  ก่อนเปลี่ยนเป็น “กลับบ้านกันบ่”

 “นักฝันบ้านนอก” บ่งบอกวัตถุประสงค์อยู่ในที สองหนุ่มคือ สราวุฒิกับวสุ เป็นคนบ้านนอกที่ไปประสบความสำเร็จในเมืองหลวง สิงห์เฒ่าเป็นคนบ้านนอกหนองเขียด ชุมแพ ขอนแก่น อยู่ตรงจุดที่จะเลี้ยวไปภูผาม่านพอดี วสุเป็นคนบ้านนอกจากอุดรธานี ทั้งสองปกติพบเจอกันอยู่แล้วใน ค่ายกองทุนศิลปินครูบ้านป่า สลา คุณวุฒิ แต่ครั้งนี้เขาจัดค่ายเล็กๆ ที่เป็นส่วนย่อยของค่ายใหญ่ๆ เพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนตัวทำงานในบางพื้นที่และสถานการณ์ งานนี้เป็นครั้งแรกของกลุ่ม ใช้ชื่อ “แต้มสี  แต่งกวี เขียนเพลง” เชิญ "ครูเบิ้ม" ไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์ ปริพนธ์  วัฒนขำ (ไฝ สันติภาพ) สมชาย ตรุพิมาย และผม รับสมัครนักเรียนแถบแถวนั้นประมาณ ๑๐๐ กว่าคน ใช้เวลาเพียงสองวันหนึ่งคืน ตั้งใจจะให้ได้ผลที่กระชับ 

 งานนี้เขาจัดที่ ภูม่านแคมป์ รีสอร์ท ของ ปลัดเมฆินทร์ เลอยุกต์  เป็นการร่วมมือกัน เพราะเป็นคนท้องถิ่นคุ้นเคยกันกับสิงห์เฒ่า โดยมีผู้สนับสนุนอีกหลายฝ่ายในพื้นที่ เท่าที่จำได้ก็มีเจ้าของ โรงแรมเมเจอร์แกรนด์ ซึ่งหลังจากค่ายนักเรียนแล้ว ในวันที่ ๑ เมษายน ก็จะมีคอนเสิร์ตเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่โรงแรมแห่งนี้ โดยผู้จัดกลุ่มนี้นี่แหละ ผมดูป้ายโฆษณางานแล้วจำหน้าและนามนักร้องได้หลายคน  อาทิ หงา คาราวาน ไผ่ พงศธร เอิร์น เดอะสตาร์ ต่าย อรทัย เสถียร ทำมือ รวมทั้งวง ซำบายใจแบนด์ ของกลุ่ม ครูสลา คุณวุฒิ  ใครอยู่ใกล้สายทางชุมแพภูผาม่าน ก็ลองติดตามรายละเอียดดู รายได้ส่วนหนึ่งจากคอนเสิร์ตเขาก็จะนำไปชดเชยให้แก่ส่วนที่ใช้รับนักเรียนเข้าค่าย “แต้มสี แต่งกวี เขียนเพลง”

 วันเปิดงาน มีนายอำเภอชุมแพ ปิยิน ตลับนาค มาเป็นประธานในพิธี ท่านพูดให้ความหวังกำลังใจลูกๆ หลานๆ ได้น่าฟัง  ว่า ด้วยโอกาสในชีวิตที่มี มีแล้วก็ต้องใช้โอกาสแสวงหาเรียนรู้ต่อไป และคนเราจะเป็นอะไรในอาชีพอะไรก็ได้ แต่เป็นให้จริง เป็นให้ดี... เขาให้ผมพูดทักทายเด็กนักเรียนประมาณชั่วโมงกว่า ไม่อยากให้เรียกว่าปาฐกถา เป็นแต่เพียงสื่อสารกับครูบาอาจารย์และลูกๆ หลานๆ อย่างคนบ้านนอกธรรมดา งานนี้ถ้าครูสลาอยู่ก็จะเป็นภาระหน้าที่ของเขา เพราะเขาอยู่ในความสนใจของคนวงกว้างในอันจะก่อเกิดแรงบันดาลใจ แต่บังเอิญเขาติดธุระ จะมาได้ก็ในวันที่มีคอนเสิร์ตนั่นแหละ  งานนี้ผมจึงรับหน้าที่ว่าไปตามกำลัง ท่ามกลางอากาศหนาวๆ เย็นๆ

 มื้อเที่ยง กับข้าวกับปลาไม่รู้มาจากไหนเต็มโต๊ะ ทั้งขนมจีนร้อนคอนสาร เมี่ยงตะไคร้กับขนุนฝาดๆ ที่พิเศษคือส้มตำที่ตำในงาน ทีแรกคิดว่าเป็นฝีมือแม่บ้านที่นั่น ครั้นพอโต๊ะเราทำส้มตำหายไปในท้องร่วมห้าจานแล้วยังไม่พอ ผมก็ลุกอาสาจะไปขอเพิ่ม ปรากฏว่าคนที่กำลังโขลกส้มตำอย่างใส่ใจอยู่นั้นคือ ดอกอ้อ ทุ่งทอง และคนที่ช่วยสับมะละกออยู่นั้นคือ ศร สินชัย อ้าว...นักร้องบ้านนอกนี่เอง...ฝีมือเยี่ยม!

 แล้วจะสานฝัน “นักฝันบ้านนอก” ต่อครับ...

"ไพวรินทร์ ขาวงาม"