
สึนามิเหตุการณ์จริงสู่จอภาพยนตร์
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 จนสร้างความเสียหายมากมายแก่ทรัพย์สินและมนุษย์ให้แก่ประเทศญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่านอกจากที่ประเทศต่างๆ จะระดมทุนและความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่นด้วยวิธีต่างๆ
สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัด คือการเตือนภัยจากธรรมชาติในวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่วาฬ-โลมาเกยตื้นตายที่อ่าวไทย นกร่วงจากฟ้าเป็นพันๆ ตัวในรัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา ปลาตายเป็นแสนเป็นล้านตัวตามแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำอาร์คันซอ บริเวณชายฝั่งเรดอนโด ท่าเรือแคลิฟอร์เนีย ฯลฯ ว่ากันว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิเป็นต้นมาทำให้มนุษย์ตระหนักถึงความน่ากลัวของธรรมชาติมากขึ้น
ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เคยมีผู้กำกับหลายคนนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์บอกเล่าถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ และมีหลายๆ เรื่องที่บอกเล่าถึงเหตุการณ์สึนามิโดยตรง อย่างเมื่อครั้งที่ประเทศไทยโดนเหตุการณ์สึนามิ (เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547) ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้กำกับฯ อย่าง ทรนง ศรีเชื้อ ก็ได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง "2022 สึนามิ วันโลกสังหาร" ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้จะลงทุนสูงถึง 160 ล้านบาท แต่ภาพยนตร์กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
หากจะมองย้อนไปก่อนหน้านี้ ฝั่งเอเชียก็เคยสร้างเรื่องราวที่คล้ายคลึงกัน อย่างภาพยนตร์เรื่อง "แฮอุนแด" (haeundae) หรือในชื่อไทยที่ว่า มหาวินาศมนุษยชาติ ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายที่เมืองไทยปีที่แล้ว เป็นผลงานการกำกับของ ยูนเคยุน บอกเล่าเรื่องราวของสึนามิ ที่ถล่มปูซาน ประเทศเกาหลี ซึ่งใช้ทุนสร้างถึง 15 ล้านดออลาร์สหรัฐ เป็นเรื่องราวสมมติในปี 2009 ที่เกิดสึนามิขนาดยักษ์โจมตีเกาหลี ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3 แสนคน หรือแม้แต่ประเทศจีน ก็เคยสร้างภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ ว่าด้วยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอดีตอย่าง "Aftershock" ออกมาแล้ว
งานนี้ได้ เฝิงเสี่ยวกัง มาเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวบนแผ่นฟิล์ม มีดาราสาวชาวไต้หวัน ซูฉี แสดงนำ แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่มีเหตุการณ์สึนามิ แต่ก็บอกเล่าเรื่องราวของภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยเนื้อหาอันรุนแรง น่าสะเทือนใจ รวมถึงเสียงดังโครมครามการกรีดร้องของผู้คน การโคลสอัพซากศพอันน่าสยดสยองร่างของผู้บาดเจ็บเสียชีวิต และภาพของผู้คนที่ถูกบดขยี้จากอาคารที่พังทลาย
หันมามองดูภาพยนตร์จากฝั่งฮอลลีวู้ดอย่าง "hereafter" หรือในชื่อไทยที่ว่า ความตาย ความรัก ความผูกพัน ที่เพิ่งเข้าฉายในบ้านเราไปเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2554 ซึ่งเป็นผลงานกำกับของ คลินท์ อีสต์วูด แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้เข้าฉายที่ญี่ปุ่นไปตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 แล้วก็ตาม แต่หนังยังไม่หมดโปรแกรม ก็ต้องถูกระงับการฉายที่ประเทศญี่ปุ่นไป เพราะญี่ปุ่นเพิ่งโดนสึนามิหมาดๆ จึงไม่เหมาะที่จะฉายในสภาวการณ์เช่นนี้ เพราะในเรื่องมีฉากสึนามิถล่มเมืองชายทะเล ซึ่งสื่อภาพออกมาได้อย่างน่าสะพรึง โดยเฉพาะในมุมมองของผู้ที่โดนคลื่น อาจก่อให้เกิดความสะเทือนใจได้ และว่ากันว่าคนญี่ปุ่นคงไม่มีกะจิตกะใจที่จะดูหนังในตอนนี้แน่ๆ
ในขณะที่เรื่องใหม่โดนแบน แต่ภาพยนตร์เก่าๆ อย่าง "2010 วันสิ้นโลก" ผลงานการกำกับของ โรแลนด์ เอ็มเมอริค ก็นับเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่กล่าวถึงสึนามิถล่มเมืองอย่างถึงพริกถึงขิง บอกเล่าเรื่องราวการค้นคว้าเพื่อความสบายของมวลชนจนละเลยธรรมชาติ และความลับของอโพคาลิพส์ของเผ่ามายันโบราณ ที่แสนอันตรายไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ แผ่นดินไหว ลาวาระเบิด สึนามิ และภัยธรรมชาติอื่นๆ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ว่ากันว่ามีคนโหลดดูทางอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก
ปิดท้ายกันที่ภาพยนตร์เรื่อง VINYAN นับเป็นหนังสยองขวัญที่เกี่ยวกับสึนามิ ผลงานการกำกับของ ฟาบริซ ดู เวลซ์ ที่ได้นักแสดงอย่าง รูฟัส ซีเวลล์ เอ็มมานูเอล บาร์ท นอกจากนี้ ยังมีนักร้องไทยที่หันมาจับงานแสดงเป็นครั้งแรกอย่าง เพชร โอสถานุเคราะห์ มารับบทเป็น "ทักษิณ เกา" เจ้าพ่อเมืองภูเก็ต บอกเล่าเรื่องราวของสองสามีภรรยาชาวต่างชาติที่ต้องตามหาลูกที่สูญหายเพราะเหตุการณ์สึนามิที่เมืองไทย อยากรู้ว่าจะกล่าวถึงเมืองไทยในแง่ไหนก็ต้องไปตามดูกันเอาเอง...
ทั้งนี้ขอส่งกำลังใจไปยังชาวญี่ปุ่น ให้ข้ามผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปได้โดยเร็วที่สุด