ธรรมะกับการเรียนรู้ชีวิตของ"นก"จีรศักดิ์ | คมชัดลึก

 จาก "บอย" ถกลเกียรติ วีรวรรณ ให้ดูแลโปรเจ็กท์ละครเวทีสยองขวัญ "เรื่องเล่า...คืนเฝ้าผี" ที่กำลังจะจัดแสดง 14 รอบการแสดง ตั้งแต่วันพุธที่ 23 มีนาคม ถึง วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน ที่จะถึงนี้ วันนี้ "คมชัดลึก" เลยขอนัดผู้กำกับฯ คนดังมาพูดคุยให้รู้จักผู้กำกับคนนี้ได้ดีขึ้น

@ โปรเจกท์ละครเวที  "เรื่องเล่า...คืนเฝ้าผี" เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
 ละครเวทีเรื่องนี้ เป็นโปรเจกท์ของพี่บอย ซึ่งเขาอยากทำโปรเจกท์ละครผีขึ้นมา แล้วเขาก็มาถามผมดู ว่าสนใจจะร่วมโปรเจกท์นี้ไหม ซึ่งเราเองก็อยากเรียนรู้เรื่องละครเวทีอยู่แล้ว เลยบอกเขาว่าลองดูก็ได้ เพราะเราเองก็ถนัดทางซิทคอม เคยแต่ถ่ายซิทคอม พอมากำกับละครเวที เลยเหมือนเริ่มไปเรียน ก.ไก่ แต่โชคดีที่มีพี่บอย ที่ชำนาญเรื่องละครเวทีมากๆ อะไรไม่ดี พี่บอยก็จะช่วยปรับให้ แล้วก็มีทีมงาน มีโปรดิวเซอร์มือฉมัง คอยให้คำแนะนำให้ ทำให้ผมเข้าใจ ว่าไม่ว่าจะเป็นละครคอมเมดี้กับละครผี มันอาศัยจังหวะหมือนกันแต่จะต่างกันที่อารมณ์ ละครเวทีผี จะเป็นจังหวะของความกลัว แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องผีก็จริง แต่เราสามารถสนุกกับการดู สนุกกับการกลัว ฉะนั้นเวลาเราตกใจ ก็จะไม่ได้กรี๊ดอย่างเดียว แต่กรี๊ดเสร็จก็จะมีเสียงหัวเราะตามมาด้วย

@ กับละครเวทีเรื่องนี้ต้องการบอกเล่าอะไร
 โดยเมนแล้วอยากบอก ว่าทุกอย่างในโลกนี้ล้วนมีที่มาที่ไป และมีเหตุและผลของมันอยู่ในตัวของมัน อะไรที่เราทำไว้บางอย่างอาจปกปิดไว้ โดยคนทำอาจคิดว่าไม่มีใครรู้ แต่สุดท้ายมันก็เหมือนกับกรรมใดใครก่อกรรมนั้นต้องตอบสนอง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ผมว่าเรื่องลี้ลับก็เหมือนหลักธรรมะ คนไหนเจอ คนไหนปฏิบัติก็จะรู้ด้วยตัวคุณเอง

@ เตรียมตัวกันนานไหม
 เรื่องนี้เตรียมตั้งแต่ก่อนปีใหม่ คือหลังกลับมาจากปีใหม่เราก็เริ่มเขียนบท ซึ่งบทละครเวทีเรื่องนี้ เป็นพล็อตที่คิดขึ้นใหม่ ส่วนตัวนักแสดงพี่บอยเป็นคนจัดการคัดเลือกมาให้ ว่าคนไหนรับบทอะไร นับจากวันเขียนบท เลือกตัวนักแสดง จนถึงวันแสดงจริงในเดือนมีนาคมนี้ นับว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก แต่อยากบอกว่าตอนนี้เราก็มีความพร้อมถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์แล้ว ผมพอใจกับผลงานตอนนี้มาก เพราะหลังจากที่พี่บอยมาดูปรากฏว่า เขาก็ชอบมาก ซึ่งเราก็ดีใจ ตอนนี้เหลือแค่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ขอบอกว่าละครผีเรื่องนี้ คนดูจะเจอผีเยอะมาก อย่างเรื่องแม่นาคพระโขนง จะมีแม่นาคคนเดียว แต่เรื่องนี้จะรวมฮิตทุกๆ อย่าง (หัวเราะ) ส่วนเรื่องเซอร์ไพรส์นี่บอกไม่ได้ อยากให้เจอกันเองในโรงละคร อย่างที่ผมบอก ว่าศูนย์รวมของเรื่อง คือทุกกอย่างมีเหตุและผล ทุกอย่างในเรื่องมีที่มาที่ไป ทุกอย่างใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น

@ กดดันหรือเปล่า คาดหวังมากแค่ไหม
 ไม่กดดัน เพราะนี่คือการเรียนรู้ เราไม่ใช่ผู้ชำนาญในละครเวที แต่ผู้ร่วมงานของเราทุกคน คือผู้ชำนาญ ฉะนั้นตัวผมจะไม่มีคำว่าตัวกูเข้าไป เลยไม่มีคำว่ากดดัน ผมคิดว่าความกดดันมาจากคิดว่าเราเก่ง ถ้าทำออกมาไม่ดีเราเสียหายกดดันแน่นอน แต่ถ้าถามว่าคาดหวังไหม เราเป็นผู้สร้างละคร ไม่ว่าจะเป็นละครเวที ละครยาว หรือซิทคอม เราทำละครออกมา เราก็อยากให้คนดู ผมชอบคำที่พี่บอยบอกกับผมว่า "คุณเป็นสื่อ คุณทำละคร ละครแต่ละเรื่องที่คุณทำออกไป คุณให้อะไรกับคนดู"  ผมเชื่อว่าถ้าดูให้ดี ละครทุกเรื่องจะมีแง่คิด ซึ่งบางเรื่องแง่คิดอาจพูดออกมาเป็นคำพูด  แต่บางเรื่อง ต้องดูทั้งเรื่องถึงจะได้แง่คิด อย่างละครหงส์เหนือมังกร ก็จะให้แง่คิดเรื่องพอเพียง ถ้าคนเรามัวแต่ล้างแค้นกันไปมา มันก็ไม่จบสิ้น ถ้าทุกคนมีคำว่าพอทุกอย่างในโลกนี้ก็อยู่ได้

@ ผลงานตอนนี้มีอะไรบ้าง
 ละครเวทีเรื่องนี้ที่เป็นผลงานล่าสุด นอกจากนี้ก็มีซิทคอมเรื่อง เป็นต่อ บางรักซอย 9 แล้วก็ เฮง เฮง เฮง ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้ผมดูบทเอง ถ่ายทำเอง และต้องดูขั้นตอนการตัดต่อเองด้วย ตอนนี้พอมารวมละครเวทีด้วยผมเลยแบ่งเวลาเป็นวันต่อวัน ดูว่าคิวแต่ละวันเป็นอย่างไร ผมจะมีโปรดิวเซอร์ที่คอยดูแลคิวให้อยู่ ตอนนี้เรื่องส่วนตัวแทบจะไม่มี (หัวเราะ) ส่วนตัวมากที่สุด มีแค่กลับไปบ้าน อ่านหนังสือธรรมะ สวดมนต์ นั่งสมาธิ นอน ตื่นมาก็ต้องไหว้พระก่อนถึงเวลานี้ๆ แล้วค่อยโทรบอก จะได้รู้ว่าจะออกจากสมาธิตอนไหน

@ แล้วเรื่องหัวใจตอนนี้เป็นอย่างไร
 เรื่องหัวใจตอนนี้ ค่อยๆ ดูๆ ไปดีกว่า เพราะตอนนี้ผมไม่ได้คิดอะไรมาก ผมมีจุดมุ่งหมายชัดเจนแล้ว ว่าสุดท้ายของชีวิตจะไปตรงไหน ที่ตั้งใจไว้ คือพออะไรเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เมื่อผมพร้อม ผมคิดไปบวชแบบไม่สึก กับน้องแหม่ม (วิชชุดา พินดัม) ไม่มีรีเทิร์นเพราะตอนนี้เขาก็มีแฟนแล้ว ดูเขามีความสุขอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี (หัวเราะ) วันก่อนผมยังบอกเขา ว่าแหม่มทำให้พี่เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง เข้าใจในคำว่ารักว่าเป็นอย่างไร เมื่อก่อนรักของผมคือการเป็นเจ้าของ เป็นความทุกข์ทรมาน เป็นความเห็นแก่ตัว พอวันหนึ่งซึ่งเป็นช่วงมีเรื่องมีราวตอนนั้น เผอิญผมได้อ่านหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง แล้วเกิดการเรียนรู้เดี๋ยวนั้น ตอนนี้แหม่มก็เป็นน้องคนหนึ่ง ที่ผมต้องขอบคุณที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก เป็นรักที่ทำให้เราสบายใจไม่ใช่ทุกข์ใจ

 ถ้าถามว่าตอนนี้มีใครผ่านเข้ามาไหม ก็มีเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันไม่เหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนเราจะวิ่งหาความรัก แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เพราะทั้งทัศนะคติและการดำเนินชีวิตของผมตอนนี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่ได้ออกเที่ยว ออกกินเหล้าเหมือนเมื่อก่อน ไม่หวือหวาและโรแมนติก แต่ถ้าคนที่เข้ามาทำให้ผมรักได้ในตอนนี้ ผมเชื่อว่าเขาจะได้รับความรักที่แท้จริง

@ คิดจะบวชเพราะผิดหวังเรื่องความรัก
 ไม่ใช่ ที่เราจะบวชไม่ใช่เพราะเสียใจเรื่องความรัก แต่ต้องการบวชเพราะเข้าใจในธรรมะ และเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตล้วนแต่สมมติ คือตัวผมเคยลำบากมากๆ เราเคยไม่มีอะไรเลย จนวันหนึ่งเราได้เป็นผู้กำกับ เรากลับไปสร้างบ้านให้พ่อแม่ได้ ได้ชักชวนพ่อให้ศึกษาธรรมะ ผมดีใจที่บ้านผมได้เรียนรู้ธรรมะ แล้วรู้จักเพียงพอและเอื้อเฟื้อคนอื่นมากขึ้น แต่ก่อนแม่จะบอกว่าลูกเอ๊ยกินเหล้าให้น้อยๆ หน่อย แต่ตอนนี้แม่ผมกลับขอให้ผมใจเย็นๆ รู้ว่าชอบแต่ขอให้ค่อยๆ ศึกษาธรรมะไป ค่อยๆ เรียนรู้ไป จะบวชยังไงก็ได้ แต่ขอให้แม่ตายก่อน (หัวเราะ)  เพราะตอนนี้แม่กลัวผมจะบวชเร็ว เพราะผมจะเหมือนเป็นผู้นำครอบครัว เวลาใครมีปัญหาอะไรเราจะเป็นคนจัดการ