“รักนะคะ” คำจากใจของ ผู้ชายชื่อ “บี้” สุกฤษฎิ์ | คมชัดลึก

   “อัลบั้มนี้ชื่อรักนะคะ ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด คือจะเห็นบี้โตขึ้นในทุกๆ อัลบั้ม ในแต่ละอัลบั้ม จะมีเนื้อหาของเพลง สไตล์การร้อง การเต้นรวมถึงลุคที่จะโตขึ้นในทุกอัลบั้ม บี้พยายามพัฒนาให้มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่พยายามจะไม่ให้แก่ (ยิ้ม) คือบี้อยากให้เห็น ว่าเราโตขึ้น แต่คอนเซ็ปต์ของทุกๆ อัลบั้ม คือเป็นแนวป๊อปใสๆ ป๊อปวาไรตี้ ป๊อปแดนซ์ ซึ่งในปัจจุบันมีศิลปินเป็นจำนวนมาก

 ที่เป็นสไตล์ป๊อปแบบนี้ บี้ว่าการสร้างคาแรกเตอร์ เป็นของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าเราจับคาแรกเตอร์นั้นอยู่ มันจะมีเสน่ห์ บี้โชคดีที่บี้ไม่ต้องสร้างคาแรกเตอร์ คือเราเป็นยังไงเราเป็นแบบนั้น ซึ่งบี้เป็นคนที่ร้องเพลง แต่ไม่ได้เป็นคนที่ร้องเพลง ที่โหยหวนหรือใส่พลังเต็มที่ แต่เราเป็นคนที่ร้องตรงๆ มีลูกเล่นในแบบของเรา เพลงของบี้เน้นยิ้มแย้ม แจ่มใสจริงใจ คนจะชอบเราที่ตรงจุดนี้ ซึ่งนี่คงจะเป็นจุดเด่นของบี้ที่เป็นเพลงสนุก เพลงช้าก็เป็นเพลงที่ช้าแบบยิ้มๆ เรียกว่าเด็กฟังได้ ผู้ใหญ่ฟังดี” นักร้องหนุ่มเล่า ก่อนเผยต่อว่าเพลง “รักนะคะ” เป็นสะท้อนมุมความโรแมนติกของตนเองให้คนอื่นๆ ได้เห็น

 “ในอัลบั้มนี้ มีเพลงที่เป็นตัวบี้และบี้อยากคนอื่นได้ลองฟังคือเพลงรักนะคะ บี้ชอบมาก ตั้งแต่ฟังเดโมเพลง แล้วรู้สึกมันโดนใจเหลือเกิน มันใช่มาก ยิ่งเนื้อหาในเพลงเป็นมุมของผู้ชายที่ไม่กล้าบอกรักด้วยคำพูด แต่จะบอกรักด้วยการทำนั่นทำนี่ให้ แต่ไม่บอกรัก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ เพื่อที่จะบอกรัก และการบอกรักของบี้ไม่ธรรมดา เป็นการบอกรักนะคะ เพื่อให้มันโดนใจเข้าไปอีก สำหรับบี้การที่พูดคำว่ารักนะ รักเธอ หรือรักอะไรต่างๆ จริงๆ มันก็เป็นคำที่หวาน แต่เป็นคำที่คนอื่นเขาบอกกันเยอะแล้ว แต่สำหรับผู้ชายแมนๆ มาพูดคำว่าคะๆ ค่าๆ มันจะดูโรแมนติกมากขึ้น ทำให้ดูน่ารัก ดูเป็นสุภาพบุรุษมากขึ้น คนที่ได้รับฟังคำนี้จากปากผู้ชายอกสามศอกจะต้องใจสั่นๆ แล้วรู้สึกดี รู้สึกอบอุ่น อย่างบี้แอบไปเช็กในอินเทอร์เน็ตต่างๆ สาวๆ จะเข้ามาโพสต์ว่าฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกเหมือนบี้กำลังบอกรักเขาอยู่ ซึ่งตอนที่อยู่ในห้องอัดโปรดิวเซอร์เขาเคี่ยวมาก และอินมากกับคำว่ารักนะคะ เขาอยากให้คนฟังรู้สึกว่าบี้บอกรักเขาจริงๆ“ ไอดอลหนุ่มเผยด้วยรอยยิ้ม

 ซูเปอร์สตาร์หนุ่มยังแจงเรื่องที่มีหลายคนมองว่าชื่อ “บี้ เดอะสตาร์” ขายได้ ทำเพลงอะไรออกมาก็ดัง ซึ่งเจ้าตัวยืนยัน ว่าในหนึ่งอัลบั้มที่ผ่านมาบางเพลงก็มีที่ขายไม่ได้เหมือนกัน

 “ในอัลบั้มหนึ่งเพลงที่ขายไม่ได้ก็มี (ยิ้ม) บางเพลงบี้ คนไม่รู้จักก็มีหลายเพลง อย่างในอัลบั้มหนึ่งเราทำมา 10 เพลงอาจจะขายได้แค่ 5-6 เพลง อีก 4 เพลงคนไม่ชอบก็มี เพราะฉะนั้นเรื่องที่บอกว่าบี้ขายได้ มันไม่จริงเลย แต่เราทำใจยอมรับมากกว่า ว่าเราทำมาหนึ่งอัลบั้ม ถ้าขายเพลงได้ครึ่งหนึ่งก็น่าพอใจแล้ว หรือตอนทำก็ต้องคิด ว่าทำไปอัลบั้มนี้อาจจะแป้กสู้อัลบั้มที่แล้วไม่ได้ เรื่องพวกนี้บี้มอง ว่าเป็นเรื่องปกติเป็นวัฏจักร แต่เราแค่ทำให้ดีให้สมกับที่หลายคนตั้งความหวัง ให้กับที่เรามีอาชีพเป็นนักร้อง แต่ต้องยอมรับ ว่าไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ เพลงที่เราเลือกมาโปรโมทแล้วคนชอบ และเขาไปหาซื้ออัลบั้ม แล้วตอนนั้นแหละที่จะเป็นตัวตัดสินว่าคนจะเลือกเสพเพลงแบบไหน ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจของแต่ละคน เราเองไปบังคับกะเกณฑ์ไม่ได้” ซูเปอร์สตาร์หนุ่มกล่าว

 “บี้” ยังฝากถึงอัลบั้มใหม่อัลบั้มนี้ที่วางแผงไปแล้วเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ว่าเป็นอัลบั้ม หลังจากที่หายไปนานกว่า 1 ปี และยืนยันว่าอัลบั้มนี้ตั้งใจทำมาเพื่อให้แฟนๆ ทุกคนได้มีความสุขกับเพลงของตนเอง และจะได้เห็นพัฒนาการที่เติบโตขึ้นของ “บี้” ไปตามขั้นตอนของเวลาที่เดินไป และยังได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นจากผู้ชายคนนี้อีกด้วย