
จอแก้ว เรื่องย่อ ส้มหวาน น้ำตาลเปรี้ยว
บทประพันธ์...ณารา บทโทรทัศน์... เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์ ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.45-19.45 น. ทางช่อง 7 สี
ตัวละคร ส้มหวาน...น้ำตาลเปรี้ยว
นาคินทร์ รับบทโดย สหรัฐ สังคปรีชา
นายิกา-อาจารย์นาย ปิยธิดา วรมุสิก
นิดานุช อภิญญา เจริญสุข
ดำรงเดช-ดอย พงพิสุทธิ์ ผิวอ่อน
ลิ้นจี่ อรหทัย ซื่อศรีสวัสดิ์
ดำรง-กำนันดำ ทนงศักดิ์ ศุภการ
ย่าเอื้องจันทร์ ปิยะมาศ โมนยะกุล
ปู่นพ สุเทพ ประยูรพิทักษ์
อาจารย์โสภิต ศิริพร อยู่รอด
ธงชัย-ตือ แจ๊ค แฟนฉัน
นิพนธ์-โอ๊ต อำพน ธรรมขันแก้ว
“จงชราอย่างกล้าหาญ จงขึ้นคานอย่างมีศักดิ์ศรี” คือสโลแกนประจำใจของเหล่าอาจารย์สาววัยเกาะคาน แห่งภาควิชาภาษาไทยของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ที่รวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มสาวโสด “หัวใจเปรี้ยว” โดยมีรองคณบดีวัย 40 ปี เป็นประธาน นายิกา-อาจารย์นาย คือสมาชิกวัย 35 ที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม ต่อหน้าใครๆ นายิกา เชิดหน้าทำเป็นฉันไม่แคร์ ถ้าจะต้องแก่ตายโดยไม่ต้องมือชาย แต่ในใจเธอกลับกรีดร้องว่าเธอไม่ได้อยากเป็นสาวแก่ไปจนตายสักหน่อย
เธอมีหัวใจที่พร้อมจะรักใครสักคนที่เป็นคนดี ไม่จำเป็นต้องร่ำรวย ขอแค่รักเธอก็พอ เพียงแต่...เธอไม่เคยมีโอกาสได้พบผู้ชายคนนั้นเลย ชีวิตเธอหมดไปกับการเรียนอย่างหนักจนจบดอกเตอร์ แทบจะไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องความรัก แต่พอเธอเริ่มคิด...วัยสาวก็กำลังจะลาจากเธอไปแล้ว นายิกา เกือบจะเลิกหวัง จนกระทั่งเธอได้อ่าน “โลกของคนเหงา” นวนิยายงานเขียนฝีมือของลูกศิษย์ในวิชาการประพันธ์เรื่องสั้น และนวนิยายที่เธอสอนอยู่ นายิกา ก็ตกหลุมรัก นาคินทร์...ผู้ชายที่เป็นตัวเอกของนวนิยายเรื่องที่เธออ่านในทันที
นาคินทร์...ชายหนุ่มที่เคยสดใส อารมณ์ดี เปลี่ยนเป็นคนละคน เมื่อต้องสูญเสีย ดารารัตน์...ภรรยาสุดที่รักและลูกชายหญิง 2 คนจากอุบัติเหตุรถตกเขา นาคินทร์ เอาแต่ฝังตัวเองอยู่กับงานในไร่ส้มและสวนลิ้นจี่ ที่มีอาณาเขตนับร้อยไร่ติดกับเส้นทางเดินป่าขึ้นดอยอ่างข่าง และใกล้ชายแดนพม่า จนทำให้นิดานุช...หลานสาว, เอื้องจันทร์...แม่ และนพ...พ่อ อดเป็นห่วงอนาคตของพ่อม่าย นาคินทร์ ไม่ได้ นิดานุช ตัดสินใจนำชีวิตของนาคินทร์ มาเขียนเป็นนวนิยายเพื่อส่งในวิชาที่เรียนกับนายิกา ซึ่งเป็นอาจารย์ที่นิดานุช สนิทสนมมากที่สุด เมื่อนายิกาได้อ่านเรื่องของนาคินทร์...ผู้ชายที่อ้างว้างโดดเดี่ยวที่สุดในความคิดของนายิกา เธอก็หลงรักเขาทั้งๆ ที่ไม่เคยได้พบหน้าค่าตามาก่อน และตัดสินใจที่จะนำนวนิยายของนิดานุช ส่งเข้าประกวดรางวัลในระดับมหาวิทยาลัย
หลังจากที่ลางานเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปร่วมงานแต่งงานของ นภันต์-นัท...น้องชายเพียงคนเดียว กับแฟนสาวลูกครึ่ง ภัณฑิลา-พอลล่า นายิกา ก็กลับมามหาวิทยาลัยด้วยโฉมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมที่สวยปิ๊งกว่าเก่า เพราะถูกพอลล่า และภวิตรา...น้าสาวของพอลล่า ที่เป็น บก.นิตยาสารความงาม พาเธอเข้าคอร์สสปานวดหน้าทำผมเมกโอเวอร์ จนดูอายุอ่อนกว่าเดิมไปหลายปี ทำให้อาจารย์หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในมหาวิทยาลัยที่ไม่เคยเห็นนายิกาอยู่ในสายตา ก็พากันหันมาสนใจ ทำให้อาจารย์โสภิต ประธานกลุ่มสาวแก่หัวใจเปรี้ยว ถึงกับเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ
ที่นายิกาทำตัวเหมือนกับจะชิ่งจากคานที่ช่วยกันเกาะ และการเปลี่ยนไปของนายิกานี่เอง ทำให้ นิดานุช เกิดความคิดที่จะจับคู่อาจารย์สาวให้กับอาคินทร์ ผู้น่าสงสารของเธอ เพราะขณะนี้นาคินทร์กำลังถูกคุณลิ้นจี่ แม่ม่ายสาวเจ้าของรีสอร์ทที่อยู่ไม่ไกลจากไร่ตามหว่านเสน่ห์ ตื๊อถึงไร่ ลุยถึงพ่อแม่เพื่อหวังพิชิตใจนาคินทร์ นิดานุชไม่ชอบท่าทางเย้ายวนอุดมด้วยร้อยเล่ห์พันมารยาของลิ้นจี่ ไม่อยากได้มาเป็นอาสะใภ้ให้ปวดหัว เลยปรึกษาเรื่องนี้กับย่าเอื้องและปู่นพ และแล้วแผนการทั้งหมดก็เกิดขึ้น โดยชวนเพื่อนในคณะและนายิกาไปเที่ยวชมไร่ส้ม และเดินป่าในช่วงปิดเทอม นายิกา ตอบรับคำเชิญชวนเพราะอยากได้พบตัวจริงของนาคินทร์ ผู้ชายแสนเศร้าที่น่าสงสารคนนั้น อาจารย์โสภิต รู้เรื่องก็ขอตามไปด้วย ด้วยเหตุผลว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของนายิกา การไปอยู่ใกล้พ่อม่ายหัวใจเปลี่ยวอย่างนาคินทร์มันอันตราย โสภิต เลยต้องการจะไปเป็นดูแลนายิกาให้ครองสถานะขึ้นคานไว้เหมือนตัวเอง
ครั้งแรกที่ได้เจอตัวจริงที่แสนหล่อเข้ม สมชายชาตรีของนาคินทร์ที่ “บ้านไร่ผดุงเกียรติ” ใจของนายิกาแทบละลาย แต่ความรู้สึกดีๆ กลับพังทลายไปจนหมดสิ้น เมื่อนาคินทร์ถามถึงอาจารย์สาวแก่กับนิดานุชต่อหน้าเธอ เพราะนาคินทร์เคยเห็นนายิกาโดยบังเอิญตอนไปรับนิดานุชที่คณะ ตอนนั้นนายิกายังไว้ผมบ็อบ ใส่แว่นแต่งตัวเป็นป้าอยู่เลย เมื่อนายิกาเปลี่ยนโฉมใหม่จนสวยแปลกตาเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน นาคินทร์ถึงจำเธอไม่ได้ แทนที่จะรู้สึกผิด แต่ในใจนาคินทร์กลับโทษว่าเป็นความผิดของนายิกาที่ลุกขึ้นมาทำตัวสวย ซึ่งเขาคิดว่าไม่เหมาะสมสำหรับคนที่เป็นอาจารย์ แถมยังคิดว่านายิกาคงกำลังคิดจะจับผู้ชายคนไหนสักคนเพื่อจะลงจากคาน แต่เพราะความรักหลานและเป็นสุภาพบุรุษ นาคินทร์ไปขอโทษนายิกาที่เสียมารยาทกับเธอในฐานะที่เธอเป็นแขกของบ้าน นายิกาไม่ถือโกรธแต่ในใจเริ่มมีกำแพง โดยมีโสภิตคอยพูดเป่าหูให้เห็นข้อเสียของนาคินทร์
การมาเที่ยวไร่ของกลุ่มนายิกา ตกอยู่ในสายตากำนันดำ เจ้าของที่ดินที่มีอาณาเขตติดกัน แม้กำนันดำจะมีที่ดินมากกว่า แต่ผลผลิตในไร่ส้มก็น้อยกว่า และขายได้ราคาต่ำกว่าผลผลิตในไร่ของนาคินทร์มาก เนื่องจากนาคินทร์คิดค้นผลิตปุ๋ย และยาฆ่าแมลงตามธรรมชาติใช้เอง ที่สำคัญที่ดินของนาคินทร์มีตาน้ำพุที่เป็นแหล่งน้ำ ไปหล่อเลี้ยงไร่ส้มได้อุดสมบูรณ์กว่า กำนันดำจึงคิดจะฮุบที่ดินในไร่ผดุงเกียรติมานาน ตั้งแต่ นคเรศ...พ่อของนิดานุช และพี่ชายของนาคินทร์ยังดูแลไร่อยู่
กำนันดำเพียรพยายามจะขอซื้อไร่จากนคเรศ ทั้งใช้อิทธิพลบีบ แต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมานคเรศและแม่ของนิดานุชก็ถูกยิงเสียชีวิต โดยที่ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ แม้นาคินทร์จะสงสัยว่ากำนันดำเป็นผู้บงการฆ่า แต่ตำรวจก็ไม่มีหลักฐานจะเอาผิดได้ จนกระทั่งนาคินทร์เข้ามาสืบทอดดูแลไร่ส้มแทนพี่ชาย เขาก็ยังถูกกำนันดำคุกคาม พยายามรุกล้ำ เมื่อไม่สำเร็จ กำนันดำก็วางแผนเก็บนาคินทร์อีกเป็นคนที่ 2 แต่คนที่รับเคราะห์แทนกลับกลายเป็นเมียและลูกทั้ง 2 ของนาคินทร์ โดยกำนันดำส่งคนขับรถเบียดรถของดารารัตน์กับลูกตกเขา เพราะคิดว่าในรถมีนาคินทร์นั่งมาด้วย แต่เนื่องจากวันนั้นนาคินทร์ติดธุระ ไม่ได้ไปด้วยเขาจึงรอดตายอย่างปาฏิหาริย์แต่ก็เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเขามั่นใจว่าต้องเป็นมือของกำนันดำ แต่ก็ไม่มีหลักฐานไปเอาผิดกำนันดำได้เช่นเคย แม้แต่ดำรงเดช...ลูกชายคนเดียวของกำนันดำ ซึ่งหลงรักนิดานุชก็ปฏิเสธแทนพ่อมาตลอด ดำรงเดชไม่เคยเชื่อว่าพ่อจะเป็นฆาตกรใจคอโหดเหี้ยมเช่นนั้น เป็นผลทำให้ความเป็นเพื่อนที่นิดานุชเคยมีให้ดำรงเดชต้องขาดลง
กำนันดำสืบรู้ว่า...นาคินทร์มีแผนจะพาเพื่อนๆ ของนิดานุชเดินป่า ขึ้นไปพักค้างแรมบนดอยอ่างข่าง กำนันดำเห็นโอกาสที่จะกำจัดนาคินทร์ทันที โดยพาสมุนปลอมตัวเป็นกลุ่มทหารว้าแดงไปซุ่มดักรอยิงนาคินทร์อยู่กลางป่า ประจวบเหมาะกับนิดานุชกับเพื่อนๆ ก็วางแผนจะให้นาคินทร์กับนายิกาหลงป่าไปด้วยกันพอดี เพราะหวังว่าการที่ทั้ง 2 หลงป่าไปด้วยกัน ความใกล้ชิดจะทำให้ทั้ง 2 เกิดตกหลุมรักกันสมใจ
วันต่อมานาคินทร์ก็พาทุกคนเดินป่าขึ้นดอยอ่างข่าง ลิ้นจี่ขอตามไปด้วยเพราะหึงนายิกา ไม่ไว้ใจให้อยู่ใกล้ๆ นาคินทร์ คืนที่ 2 ของการพักค้างแรมในป่าระหว่างทางเดินขึ้นดอย นิดานุชกับเพื่อนคิดเกมวอล์กแรลลี่ขึ้น โดยให้นาคินทร์กับนายิกาจับคู่กันหาของในป่า คำอ้ายและสมพงษ์...ลูกน้องคนสนิทของนาคินทร์ก็ร่วมมือกับนิดานุชด้วย โดยพวกนิดานุชปลอมเป็นผีหลอกนายิกา จนตกใจวิ่งหนีเตลิดเข้าป่าไป นาคินทร์เลยวิ่งตามไปจนพลัดหลงกับทุกคน จังหวะที่ทุกคนทำตามแผน กลุ่มของกำนันดำก็บุกยิงนาคินทร์พอดี ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายไม่รู้ใครเป็นใคร
นาคินทร์ชักปืนยิงถูกลูกน้องของกำนันดำบาดเจ็บไปคนหนึ่ง แล้วพานายิกาหนีออกจากวงล้อม จนลื่นไถลตกหน้าผาไปในเหวลึกทั้งคู่ นาคินทร์ หัวกระแทกจนสลบไป ขณะนายิกาบาดเจ็บข้อมือซ้น และฟกช้ำทั่วร่างกาย ฝนเทกระหน่ำลงมา นายิกาลากร่างที่เปียกโชกของนาคินทร์เข้าหลบใต้ชะง่อนหิน ทั้งๆ ที่มือเจ็บ ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาแล้วก็หมดแรงหลับไป นาคินทร์ฟื้นขึ้นมาพบนายิกาอยู่ข้างๆ เขา ก็รู้สึกซึ้งในน้ำใจนายิกาที่ช่วยลากเขาหนีฝน แล้วยังช่วยทำแผลเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาอีกทั้งๆ ที่ตัวเองก็บาดเจ็บ แต่เรื่องราวของทั้งคู่จะลงเอยด้วยดีหรือไม่ต้องติดตามชม