
ดูโอสาว นิว-จิ๋ว ครบรสทั้งเปรี้ยวและซึ้ง
ถ้าพูดถึงนักร้องสาวดูโอชื่อของ นิว นภัสสร ภูธรใจ และ จิ๋ว ปิยนุช เสือจงพรู ในนาม นิว-จิ๋ว คือชื่อแรกๆ ที่คนคิดถึง และความห่างจากอัลบั้มแรกกว่า 6 ปี ทำให้ นิว-จิ๋ว พร้อมจะกลับมาด้วยการสร้างสรรค์สไตล์ใหม่ๆ เพื่อให้คนเห็นความแตกต่างของพวกเธอ ซึ่ง จ
“อัลบั้มนี้ ทำประมาณ 3 ปีได้ เพราะว่าอัลบั้มนี้ สิ่งที่เห็นเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เพลงแรก คือเป็นเพลงเร็ว และเป็นเพลงเต้นด้วย ซึ่งเราสองคนไม่ค่อยได้เต้นเลย ต้องไปเรียนเต้น ทำให้อัลบั้มนี้มันนาน รวมกับการรอเพลงด้วย การคิดงานว่าจะให้มันออกมาเป็นแบบไหน ตอนที่เป็นเพลงเร็วออกมา มันเหมือนเป็นการเปิดตัวนิว-จิ๋วในรูปแบบใหม่ ที่หลายคนไม่เคยเห็น การที่เราสองคนเลือกที่จะปล่อยเพลงเร็วออกมาก่อน เพราะการที่เราหายไปนานหลายปี เราอยากที่จะแสดงให้ทุกคนเห็น ว่าพวกเราก็เปลี่ยนแปลงมีอะไรใหม่ๆ มาให้” จิ๋วเล่า ก่อนจะเสริมต่อ ว่าการทำงานของพวกเธอไม่ได้ทำเพื่อมาปล่อยเป็นซิงเกิ้ล เพราะทำเพื่อเป็นอัลบั้มเพลงเลย
“เราไม่ได้เตรียมมาเพื่อเป็นซิงเกิ้ล เราตั้งใจเพื่อจะให้เป็นอัลบั้มเต็ม มันเหมือนกันกับ ว่าอัลบั้มนี้เราได้ทำงานกับโปรดิวเซอร์ และคนทำเพลงที่หลากหลายมากขึ้น มันเหมือนเป็นการค้นหาความหลากหลายในตัวพวกเรา งานนี้จะเป็นของนิว-จิ๋วที่คนฟังอยากฟัง เพราะในอัลบั้มนี้เราทำยิ่งกว่า 11 เพลง แล้วค่อยๆ คัดออก หาเพลงที่ลงตัวและเป็นคอนเซ็ปเดียวกันมากที่สุด” จิ๋วเผย
โดย “นิว” พูดถึงเพลงแรกที่เปิดตัวเพลง “เก็บคำว่ารัก (ไว้ใช้ที่อื่น)” ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่ “นิว-จิ๋ว” ทั้งลุคเปรี้ยว รวมถึงการเต้น
“(หัวเราะ) นิวว่ามันได้มุมของโหมดสดใสมากยิ่งขึ้น เรื่องของโชว์ที่มีการเคลื่อนไหว อย่างง่ายๆ เลยคือคนทั่วไป ก็จะนึกถึงนิว-จิ๋วในแบบที่เป็นเพลงช้าที่โดนๆ แต่ว่าจริงๆ เวลาเราไปเจอแฟนๆ จริงๆ เราคงไม่ร้องเพลงช้าซะทั้งหมด 10 เพลง ต้องมีเพลงเร็วที่สนุกด้วย เพื่อให้คนดูสนุกกับเรา ซึ่งตอนนี้ไปโชว์หลายคนก็รู้สึกตื่นเต้น และเขาดีใจที่ได้เห็นการพัฒนาไปอีกด้านหนึ่งของเรา มันเหมือนว่าเราเอาประสบการณ์จากหลายๆ เวที ที่เราได้ไปโชว์ แล้วมาคิด ว่าเราน่าจะมีเพลงเร็วบ้าง เพื่อจะได้จอยกับคนดูคนฟังบ้าง ซึ่งหลายคนก็ชอบ และติดใจกับเพลงเร็ว แต่เขาก็ยังอยากที่จะฟังเพลงช้าจากพวกเรา มันเหมือนเป็นตัวขายของพวกเรา (ยิ้ม) ซึ่งในอัลบั้มนี้ มีครบหมดเลยทั้งช้ามากๆ ทั้งช้าปานกลางและเร็ว เรียกว่าอัลบั้มนี้ มีความหลากหลายมาก แต่ก็ยังเป็นตัวตนของพวกเรานิว-จิ๋วอยู่” นิวตอบด้วยรอยยิ้ม นักร้องสาวยังกล่าวต่ออีกว่าในอัลบั้มนี้ได้มีการไปเรียนร้องเพลงเพิ่มเติมด้วย
“คนจะมองว่าอย่างเราสองคนไม่ต้องเรียนร้องเพลงแล้ว แต่จริงๆ อัลบั้มนี้ เราเรียนร้องเพลงเพิ่มเติมด้วย ที่เราต้องเรียนมันเหมือนเป็นการฝึกอยู่ทุกๆ วัน มันเหมือนเราได้วอร์มเสียง เพราะเราต้องเจอเพลงใหม่ๆ ได้เจอคนมาวิจารณ์ เพราะเสียงวิจารณ์แต่ละเสียง มันก็เป็นเหมือนเป็นครูของพวกเรา เหมือนเป็นการสอนให้พวกเราได้มองเห็นมุมใหม่ๆมายิ่งขึ้น แล้วเราเองก็ชอบอารมณ์ของการเป็นนักเรียนด้วย เพราะมันเหมือนว่าทุกวันของเรา คือการทำงานแล้ว มันทำให้เราไม่ได้เรียนตรงนี้เพิ่มเติม ไม่รู้ว่าความรู้ความสามารถ ที่เรามีมันลดต่ำลง หรืออะไรหรือเปล่าด้วย การเรียนจะช่วยให้ทุกอย่างมันมีเพิ่มเติมมากขึ้น” นิวกล่าว
ทั้งนี้ “จิ๋ว” ยังเล่าให้ฟังอีก ว่าในอัลบั้มนี้ มีหลายเพลงที่ร้องคู่กันเป็นการประสานเสียง ที่สลับซับซ้อนกว่าทุกๆ เพลงที่พวกเธอมีมา มันเหมือนเป็นการดีไซน์ เป็นเสียงประสานของนิว-จิ๋วในนี้อีกแบบหนึ่ง และในอัลบั้มนี้ มีหลายเพลงที่พวกเธอต้องใช้เทคนิคแบบแปลกๆ และแตกต่างจากที่เคยมีมาด้วย และเพลงที่เห็นได้ชัดถึงการดีไซน์การร้องแบบใหม่ของ “นิว-จิ๋ว” คือเพลง “เสียงอำลา”
ด้าน “นิว” ตอบเรื่องที่หลายคน ตั้งความหวังกับการฟังเพลงจากทั้งสองคน ว่าจะต้องต้องเห็นการโชว์พลังเสียงและการผสานการร้องที่สุดยอด โดยนักร้องสาวเผยว่า “ไม่เคยมองว่าการคาดหวังของคนฟังเป็นแรงกดดัน แต่เรามองว่าเป็นพลัง เป็นพลังที่เราจะต้องทำให้มันดีขึ้น ดีขึ้น มีอะไรแปลกใหม่ให้คนฟังได้ฟัง” นิวเผย